จากกรณีที่มีทวิตเตอร์ รายหนึ่งโพสต์ข้อความคุกคามลูกสาวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม หลังจากนั้น นายกได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ถึงกรณีดังกล่าว ด้วยน้ำเสียงมีอารมณ์เล็กน้อยว่า แล้วมันควรหรือไม่ สื่อก็พูดไปว่าไม่ควร สื่อทุกคนต้องช่วยตนบ้าง ตนไม่เคยเห็นสื่อที่ไหนพูดให้ตนสักคน ทำไมล่ะ
เมื่อถามว่า จะมีการดำเนินคดีหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ฝ่ายกฎหมายจะดูเอง เขามีคนดูให้ตนอยู่แล้ว ใครที่พูดจาให้ร้าย เกียจชัง ดูหมิ่น ก็ถือว่าหมิ่นประมาทอยู่แล้ว หากใครมาทำลูกสาวท่าน ท่านยอมหรือไม่ กฎหมายมีหรือไม่ ก็มี ก็อย่าฝืนกฎหมาย ลูกและครอบครัวตนไม่เคยมาสร้างหรือมาทำอะไรให้เกิดความเสียหาย ไม่เคยออกมาให้ใครเห็นอยู่แล้ว
ล่าสุด อ.ชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าวว่า
…..ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๕ ผู้ใดโฆษณาหรือประกาศแก่บุคคลทั่วไปให้กระทําความผิด และความผิดน้ันมีกําหนดโทษไม่ต่ำกว่าหกเดือน ผู้น้ันต้องระวางโทษกึ่งหน่ึงของโทษที่กําหนดไว้สําหรับความผิดนั้น
…..ถ้าได้มีการกระทําความผิดเพราะเหตุที่ได้มีการโฆษณาหรือประกาศตามความในวรรคแรก ผู้โฆษณาหรือประกาศต้องรับโทษเสมือนเป็นตัวการ
…..มาตรา ๒๗๖ ผู้ใดข่มขืนกระทําชําเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้ กําลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทําให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่สี่ปีถึงยี่สิบปี และปรับต้ังแต่แปดหมื่นบาทถึงสี่แสนบาท
…..กรณีที่มีผู้ประกาศทางทวิตเตอร์ว่า “น้องๆ ก็จำไว้ลูก เจอลูกสาวประยุทที่ไหน อย่าลืมรุมข่มขืนด้วยเธอ”
…..การข่มขืนกระทำชำเรามีโทษไม่ต่ำกว่าหกเดือน ดังนั้นผู้ที่ประกาศจึงมีความผิดฐานโฆษณาหรือประกาศแก่บุคคลทั่วไปให้กระผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา ต้องระวางโทษกึ่งหนึ่งของโทษตามมาตรา ๒๗๖ คือ จำคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบปีและปรับตั้งแต่สี่หมื่นบาทถึงสองแสนบาท
…..ถ้ามีผู้หนึ่งผู้ใดได้มีการกระทำความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา ผู้ประกาศต้องรับโทษเสมือนผู้กระทำความผิดคือจําคุกตั้งแต่สี่ปีถึงยี่สิบปี และปรับต้ังแต่แปดหมื่นบาทถึงสี่แสนบาท