สธ.ขอคืนหนังสือจากตำรวจ ขอทบทวน “ใบอนุญาตกัญชา” 4 กรณี

สธ.ขอคืนหนังสือจาก ตร. ประชุมเครียด ทบทวนรายละเอียดใบอนุญาตกัญชา 4 กรณี จ่อปรับปรุงการควบคุมช่อดอก

วันที่ 28 ก.ค. 65 มีรายงานข่าวว่า หลังกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ส่งหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 ลงนามโดย นพ.ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัด สธ. ถึงผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เรื่อง การดำเนินคดีกับผู้ไม่ขออนุญาตศึกษาวิจัย หรือส่งออกสมุนไพรควบคุม หรือจำหน่าย หรือแปรรูปสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้า ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2565 ใน 4 กรณี คือ 1.ไม่ขออนุญาตศึกษาวิจัยกัญชา 2.ไม่ขออนุญาตส่งออกกัญชา 3.ไม่ขออนุญาตจำหน่ายกัญชา และ 4.ไม่ขออนุญาตแปรรูปกัญชาเพื่อการค้า แต่เกิดปัญหาในทางปฏิบัตินั้น

โดยหลังได้รับหนังสือ ฉบับดังกล่าว พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้พิจารณาและพบว่า หนังสือฉบับดังกล่าว ยังมีบางประเด็นที่ขัดแย้งในสาระสำคัญ จึงสั่งการให้ สำนักกฎหมายและคดี(กมค.) ไปหารือกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ได้ข้อยุติที่แน่ชัดในแนวทางปฏิบัติเสียก่อน โดยให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.(ปป.) ลงไปกำกับดูแลเพื่อได้นำไปปฎิบัติตามกฎหมายให้ถูกต้อง และแจ้งให้ประชาชนทราบโดยเร็ว

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ เมื่อช่วงเย็น วันที่ 27 ก.ค. ที่ผ่านมา นพ.ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัด สธ. พร้อมด้วย นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้เรียกประชุมด่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่กระทรวงสาธารณสุข ใช้เวลาร่วม 1 ชั่วโมง มีข้อสรุปว่า “จะทบทวนหนังสือด่วนที่สุดฉบับดังกล่าว”

หลังการหารือ นพ.ณรงค์ พร้อมด้วย นพ.ยงยศ ได้ร่วมกันชี้แจง นัยสำคัญของหนังสือด่วนที่สุดฉบับดังกล่าวว่า เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้ที่มีอายุไม่เกิน 20 ปี หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร ทั้งนี้ จากการตรวจสอบหนังสือ และปรึกษากับหน่วยงานเกี่ยวข้อง ได้มีสรุปให้สั่งการอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ ทบทวนรายละเอียดในหนังสือฉบับดังกล่าวเพื่อนำเสนอต่อไป โดยจะประสานขอคืนหนังสือฉบับดังกล่าวจาก ตร.กลับมาทบทวนเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนสุงสุด

 

ด้าน นพ.ยงยศ กล่าวว่า หนังสือที่ส่งไปมีความชัดเจนว่า ทางตำรวจจะต้องไปดำเนินการเมื่อได้รับการร้องขอจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญา พ.ศ.2542 ซึ่งจะเป็นนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) และอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ และผู้ทรงคุณวุฒิของกรมอีกราว 10 คน ฉะนั้น นัยการสื่อสารมีความชัดเจนว่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรอการประสานจากพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อให้ช่วยดำเนินการ

ทั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า มีการจำหน่ายกัญชาที่เป็นสิ่งของเฉพาะต้องอาศัยความเชี่ยวชาญ ตัวกฎหมายจึงออกแบบมาว่า จะต้องอาศัยพนักงานเจ้าหน้าที่มีความเชี่ยวชาญระบุว่า เป็นสิ่งต้องห้าม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจใช้ดุลยพินิจส่วนนี้ไม่ครบถ้วนทางกฎหมาย ฉะนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องได้รับการประสานร้องขอ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น