“ชัยวุฒิ” ตรวจซ้ำไม่ติดโควิด ย้ำใส่แมสก์-ฉีดวัคซีนช่วยได้เยอะ มั่นใจ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ไม่สะดุด

"ชัยวุฒิ" โล่งครบกำหนดกักตัว ผลตรวจหาเชื้อซ้ำผลเป็นลบไม่ติดเชื้อ หลังเข้าข่ายกลุ่มเสี่ยง นั่งใกล้คนติดโควิดบนเครื่องบิน ย้ำสวมหน้ากากอนามัย-ฉีดวัคซีน มีประสิทธิภาพป้องกันการแพร่ระบาดได้ มั่นใจ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” เข้าเป้า ด้วยมาตรการสาธารณสุข เทคโนโลยีติดตามตัว ย้ำควบคู่ดูแลตัวเองเคร่งครัด จะเที่ยวได้อย่างปลอดภัย ก่อนขยายโมเดลสู่จังหวัดอื่น

วันนี้ (11 ก.ค.64) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยภายหลังครบกำหนดกักตัวเพื่อเฝ้าดูอาการ เนื่องจากนั่งใกล้ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 บนเที่ยวบินที่เดินทางไป จ.ภูเก็ต เมื่อ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อตรวจความพร้อมก่อนเปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ว่า ระหว่างโดยสารบนเที่ยวบินดังกล่าว ตนสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และได้รับวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อได้รับแจ้งว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง ก็ได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อผลออกมาเป็นลบ ก่อนเข้ารับการกักตัวกระทั่งครบกำหนด ก็ได้ตรวจหาเชื้อซ้ำอีกครั้ง ผลก็ออกมาเป็นลบอีกเช่นกัน

“แสดงให้เห็นว่าการป้องกันตนเองตามมาตรการของทางสาธารณสุข มีความจำเป็นและสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่าง จะช่วยป้องกันการติดเชื้อโควิดได้ และการฉีดวัคซีนที่สามารถลดอาการเจ็บป่วยรุนแรงและลดการเสียชีวิตได้ ซึ่งสถานการณ์ในขณะนี้ แม้จะมีมาตรการเข้มข้นในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดก็ตาม เพื่อจำกัดการระบาดให้ลดลง ในที่สุดประชาชนจะได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติในเร็ววัน” นายชัยวุฒิ กล่าว

 

 

รมว.ดีอีเอส เปิดเผยอีกว่า ขณะเดียวกัน รัฐบาลโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ให้ความสำคัญในด้านเศรษฐกิจควบคู่มาตรการด้านสุขภาพ ที่ได้นำร่องเปิดรับนักท่องเที่ยวในโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ไปเมื่อ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีมาตรการควบคุมดูแลนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาเป็นอย่างดี สร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งมีมาตรการดูแลเฝ้าระวังที่มีประสิทธิภาพ โดยหากพบมีนักท่องเที่ยวติดเชื้อ หน่วยงานสาธารณสุขก็มีระบบดูแลติดตาม สามารถจำกัดวงการแพร่ระบาดได้ ทั้งนี้ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (NT) และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ได้สนับสนุนการนำเทคโนโลยีมาใช้กับสนามบินและท่าเรืออัจฉริยะ มีระบบ Face Recognition และระบบติดตามตัวนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายัง จ.ภูเก็ตอีกด้วย ซึ่งหากเป็นไปตามเป้าหมาย ก็จะได้ขยายการรับนักท่องเที่ยวตามโมเดลนี้ไปยังพื้นที่อื่นๆ ต่อไป

“ผมเชื่อมั่นว่า การเปิดรับนักท่องเที่ยวในโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์จะเดินหน้าต่อไปได้ และจะประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมายอย่างแน่นอน ดูได้จากจำนวนการจองห้องพักของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และนักท่องเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เป็นเพราะความเชื่อมั่นในมาตรการภาครัฐ จนตัดสินใจเดินทางมา ควบคู่กับการดูแลตัวเองตามมาตรการป้องกันโควิด ก็สามารถป้องกันการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ชาวบ้านเดือดร้อนหนักน้ำท่วมเดือดร้อนแสนสาหัส - หลังนายทุนออกโฉนดที่ดินถมลำคลอง"ห้วยพาน" ปิดกั้นทางน้ำสิ้นเชิง นายกเล็กฯ เบื้องต้นระดมกำลังช่วยเหลือ ที่ร้องเรียนเจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบว่าออกจะโดดที่ดินชอบด้วยกฎหมายหรือไม่แต่กลับ ล่าช้า อึดเหมือนเรือเกลือ
พายุฝนพัดถล่มปากพนังเมืองคอนอ่วมอรทัย น้ำท่วมต้นไม้หักโค่นขวางถนน ฝนตกน้ำท่วมและคลื่นลมแรงพัดพัดหอบหอยกาบเกลื่อนชายหาดชาวบ้าน แห่เก็บขายสร้างรายได้ให้ครอบครัว
รวบแล้ว “พี่สาวเมียทนายตั้ม” หลังตกเป็นผู้ต้องหา “ร่วมกันฟอกเงิน” เร่งสอบปม 39 ล้าน
"ดร.ทันกวินท์" เล่านาที "ไอซ์ รักชนก" โดดเดี่ยว มาศาลฟังไต่สวนถอนประกันสส. ดูไม่มั่นใจเหมือนอยู่สภาฯ
‘สามารถ’ ห่วงแม่อายุมาก มอบทีมทนายยื่นโฉนดมูลค่า 1.2 ล้าน ขอประกันตัว
เยอรมนีจ่อเปลี่ยนสถานีรถไฟใต้ดินเป็นที่หลบระเบิด
จีนเตือนไม่มีใครชนะในสงครามการค้า
อัยการนัดฟังคำสั่งคดี "เชน ธนา-ภรรยา" ถูกกล่าวหาฉ้อโกง 29 พ.ย.นี้
“ลุงป้อม” ปัดตอบปม “สิระ” อ้างคนในป่าต่อสายช่วย “สามารถ”
"ทนายพจน์" ยื่นหนังสือสำนักพุทธฯ จี้คณะสงฆ์แจ้ง "พระปีนเสา" สละสมณเพศ หลังถูกขับพ้นวัดวังกวาง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น