รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ไม่ว่าความจุดยืนและความโน้มเอียงทางการเมืองที่แท้จริงของอ.ชัชชาติจะไปในทางใด แต่ขณะนี้อ.ชัชชาติได้เป็นขวัญใจของชาว 3 นิ้วเรียบร้อยแล้ว ได้รับความนิยมชมชอบจากชาว 3 นิ้วยิ่งกว่าบรรดาเจ้าลัทธิและแกนนำกลุ่ม 3 นิ้วทุกคนเสียอีก จะเห็นว่า ไม่มีเสียงบ่นสักแอะจากชาว 3 นิ้วเมื่อฝนตกหนัก น้ำท่วมถนนหนทางและบ้านเรือนในหลายพื้นที่ครั้งล่าสุดเมื่อเร็วๆนี้ ชาว 3 นิ้วเห็นสัจธรรมว่า การป้องกันน้ำท่วมกทม ไม่สามารถทำได้ 100%ในระยะเวลาสั้นๆ แต่ก็นั่นแหละ หากฝนตกหนักครั้งล่าสุดไม่มีน้ำท่วมเลย ชาว 3 นิ้วคงจะออกมาอวยกันสนั่นว่า เป็นฝีมือของผู้ว่าฯชัชชาติโดยแท้ที่สามารถป้องกันน้ำท่วมได้ ซึ่งน้ำท่วมครั้งนี้แม้จะท่วมในวงกว้างแต่ก็ไม่ได้ขังนาน วันรุ่งขึ้นก็ลงจนเกือบหมด แต่ก็คงไม่มีใครแม้สักคนที่จะนึกให้เครดิตผู้ว่าฯคนก่อนแม้แต่น้อย
หริรักษ์ ฟันธง ชัชชาติคว้าขวัญใจชาวสามนิ้วได้รับความนิยมยิ่งกว่าเจ้าลัทธิคนอื่นๆฝนตกน้ำท่วมไม่มีบ่น เชื่อมีจุดยืนการเมืองเดียวกัน ขณะที่วัดว่ามีผลงานหรือไม่ต้องรออีก1 ปีจึงจะรู้ว่า 1.3ล้านเสียงคิดถูกหรือไม่
ข่าวที่น่าสนใจ
คงเป็นไปไม่ได้ที่ชาว 3 นิ้วจะนิยมชมชอบอ.ชัชชาติหากพวกเขาไม่คิดว่าอ.ชัชชาติเป็นพวกเดียวกันกับเขา มีความเชื่อและจุดยืนทางการเมืองเหมือนๆกันกับเขา นอกจากเป็นเพราะเป็นที่ชัดเจนว่า อ.ชัชชาติไม่ใช่พวกเดียวกันกับรัฐบาลชุดนี้แล้ว ก็คงเป็นเพราะการแสดงออกทางการเมืองและของอ.ชัชชาติที่ปรากฏให้เห็นในที่ต่างๆ เป็นที่ถูกอกถูกใจชาว 3 นิ้วอย่างมาก ซึ่งก็ไม่แน่ว่าการแสดงออกต่างๆดังกล่าว คือตัวตนที่แท้จริง ของอ.ชัชชาติหรือไม่ แต่จะอย่างไรอ.ชัชชาติก็ได้ใจชาว 3 นิ้วไปแล้วทั้งหมด ในขณะที่ฝ่ายที่ไม่ได้เป็นพวก 3 นิ้วแต่ลงคะแนนให้อ.ชัชชาติเริ่มเกิดความสงสัยว่า ที่จริงแล้วจุดยืนทางการเมืองและจุดยืนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ของอ.ชัชชาติเป็นอย่างไรกันแน่
สำหรับวิธีการทำงานของอ.ชัชชาติ ที่ตระเวนไปตรวจตามจุดต่างๆทั่วกทม และด้วยเทคโนโลยีปัจจุบัน สามารถแพร่ภาพสดๆให้แฟนๆชมได้ในเวลาเดียวกัน ว่าที่จริงก็เป็นวิธีการที่ดี เพราะจะทำให้ได้เห็นสภาพความเป็นจริงได้ด้วยตัวเอง แทนที่จะเอาแต่รอการรายงาน และทำให้ผู้อำนวยการเขตต่างๆและเจ้าหน้าที่ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ดีกว่าการใช้วิธี commamd and control หรือ สั่งการและควบคุมเพียงอย่างเดียว แต่ก็นั่นแหละ การทำอะไรที่มากจนเกินพอดีย่อมมีผลเสียตามมาเสมอ แต่ก็เชื่อว่าในที่สุด อ.ชัชชาติ น่าจะหาส่วนผสมระหว่างวิธีการทำงานทั้ง 2 แบบที่พอเหมาะพอดีกับการบริหารในตำแหน่งผู้ว่าฯกทม ได้
ในขณะที่ฝ่าย 3 นิ้ว และแฟนๆพันธุ์แท้คอยเชียร์กันอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู ฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามก็คอยจัองจับผิดอ.ชัชชาติในทุกย่างก้าวอยู่เหมือนกัน ดังนั้นไม่ว่าใครที่พาตัวเองมาอยู่ในจุดนี้ ก็คงทำตัวลำบากพอสมควร แต่สำหรับคนมีใจกลางๆและมีเหตุมีผลพอ เขาก็จะต้องรอดูผลงานที่ไม่ใช่เกิดขึ้นในเดือน 2 เดือน แต่อย่างน้อยต้องผ่านไป 1 ปีว่า กทม มีอะไรดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนบ้าง เมื่อนั้นเขาจึงจะตัดสินว่า อ.ชัชชาติบริหารกทม.เป็นผลสำเร็จแค่ไหน สมควรลงคะแนนให้ในการเลือกตั้งสมัยหน้า ไม่ว่าจะเป็นในสนามกทม หรือสนามใหญ่ระดับประเทศหรือไม่ รออีกสัก 1 ปี ถึงจะบอกได้ว่าคะแนนเสียง 1.3 ล้านเสียงที่ลงให้ไปแล้วนั้น เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องหรือไม่ ไม่ใช่ตัดสินกันในเวลาเดือน 2 เดือนเช่นนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง