พยัคฆ์ชำระแค้น

ดีเดย์ 1 ส.ค. “บิ๊กน้อย” พล.อ.วิชญ์  เล็งเปิดตัวพรรคใหม่ “พรรครวมแผ่นดิน” เป็น “ไท” จากคนทรยศ  โวมีส.ส.เศรษฐกิจไทยทิ้งผู้กองมาร่วมงานอื้อ ชูการเมืองสร้างสรรค์ลดขัดแย้ง ยันไม่ใช่พรรคสาขาของพลังประชารัฐ  แต่เดินตามยุทธศาสตร์แตกแบงค์พันเป็นใบร้อยของบิ๊กป้อม  รออานิสงส์สูตรหาร 500

แม้กฎหมายลูกที่เป็นหัวใจสำคัญยังคาราคาซังอยู่   และยังไม่รู้ว่าถึงที่สุดหวยจะไปออกที่การใช้วิธีการเลือกตั้งแบบไหน  ไล่ตั้งแต่ 2 ใบหาร 100 หรือ 2 ใบหาร 500 หรือถอยหลังกลับไปเป็นใบเดียวแบบเดิม แต่ในส่วนของความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมของพรรคการเมืองหรือกลุ่มก๊วนการเมืองต่างๆ ก็ยังเดินหน้าต่อไปไม่หยุดยั้ง  เพราะบวกลบคูณหารเหลือเวลาไม่เกิน 8 เดือน จะครบอายุรัฐบาล และแน่นอนว่าวัน ว.เวลา น. ในการยุบสภาประกาศวันเลือกตั้งต้องมีขึ้นในห้วงเวลาจากนี้อย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นทุกพรรคที่เตรียมลงสนามในการเลือกตั้งทั่วไปเที่ยวหน้าก็ต้องรีบเปิดตัวส่งคนชิงพื้นที่หาคะแนนเสียงจากชาวบ้าน  หนึ่งในความเคลื่อนไหวสำคัญของการเปิดตัวพรรคการเมืองใหม่  ต้องจับตาไปที่ช่วงเช้าของวันจันทร์ที่ 1 ส.ค. 2565  ที่  “บิ๊กน้อย”  พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย เตรียมเปิดตัวพรรคการเมืองใหม่ ระหว่างการจัดประชุมใหญ่พรรคพลังชาติไทย ที่มีพล.ต.พิชิต บุตรวงศ์ รองหัวหน้าพรรค ในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรค เป็นประธานการประชุม และจะถือฤกษ์วันมงคลดังกล่าวเปลี่ยนชื่อพรรค เป็น “พรรครวมแผ่นดิน” ณ  ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมรามาการ์เด้นส์

บิ๊กน้อยจั่วหัวพรรคการเมืองใหม่ของตัวเองทำนองว่า  เป็นที่รวบรวมผู้ที่มีความรู้ความสามารถ มากไปด้วยประสบการณ์ทั่วแผ่นดินไทย ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย อาชีพ ทุกเพศทุกวัย แม้ที่มาจะแตกต่างกันแต่มีอุดมการณ์ไปในทิศทางเดียวกัน คือ มุ่งลดความขัดแย้งทางการเมือง ปรองดอง ประสานงานกับทุกฝ่าย เพื่อรวบรวมสรรพกำลังความรู้ความสามารถช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆของประเทศ  และไฮไลต์สำคัญของการเปิดตัวพรรคใหม่ในคราวนี้  พล.อ.วิชญ์ออกตัวแล้วว่าจะมีกีวนส.ส.ของพรรคเก่าอย่างเศรษฐกิจไทยมาร่วมหัวจมท้ายอยู่กับพรรคใหม่ด้วย “ นักการเมืองหลายคนขอให้เป็นหัวหน้าพรรคและทำงานเพื่อประเทศ โดยจะมีส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทยหลายคนมาอยู่ด้วย แต่พรรคนี้ไม่เกี่ยวกับพรรคพลังประชารัฐ ” บิ๊กน้อยยืนยัน

ใครจะมองเรื่องการตั้งพรรคใหม่ของพล.อ.วิชญ์เที่ยวนี้อย่างไรก็ว่ากันไป  หลังจากระเห็จมา 3 พรรค  ตั้งแต่การเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ  หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย และกำลังจ่อเป็นว่าที่หัวหน้าพรรครวมแผ่นดิน  บารมีของพล.อ.วิชญ์ก็ไม่ธรรมดาเพราะเป็นบุตรชายคนโตของ “บิ๊กยศ”  พล.อ.ยศ เทพหัสดิน ณ อยุธยา  อดีตแม่ทัพภาคที่ 3 และ รองผบ.ทบ.  ก่อนเข้าสู่การเมืองในตำแหน่ง รมช.กลาโหมและ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาล พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์    จบการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหารรุ่น 11 (ตท.11)  เคยผ่านตำแหน่งสำคัญๆในกองทัพบกหลายตำแหน่ง อาทิ  ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 41 (ผบ.มทบ.41)  ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 (ผบ.มทบ.11)  รองแม่ทัพภาคที่ 1  แม่ทัพน้อยที่ 1  ก่อนขึ้น 5 เสือทบ.ในตำแหน่งผู้ช่วยผบ.ทบ. แถมยังเคยขึ้นเป็น “คู่ชิง-คู่เทียบ” ลุ้นเก้าอี้ทบ.1 อันทรงพลังแห่งอำนาจ แข่งกับ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ช่วงที่เป็นรองผบ.ทบ. แต่สุดท้ายก็ไม่ได้รับการเสนอชื่อจาก “บิ๊กป็อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ในตอนนั้นให้รับไม้ต่อแต่อย่างใด  แต่ด้วยความที่เป็นน้องรัก “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม   พล.อ.วิชญ์เลยได้รางวัลปลอบใจเป็นประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก ครองยศอัตราจอมพลก่อนจะเกษียณ

 

จะเห็นได้ว่าชื่อเสียงของพล.อ.วิชญ์นั้นไม่ได้ธรรมดา เพราะสืบเชื้อตระกูลจากลูกผู้ใหญ่  แถมพล.อ.ยศ.ผู้เป็นพ่อนั้นก็เป็นนายทหารใหญ่เลื่องลือนามกระฉ่อน  เพราะเป็นนายทหารสายมาเฟีย สายนักเลงแห่งยุค  มีคอกม้าเป็นของตัวเอง ใจใหญ่ กว้างขวาง เลี้ยงคนไว้มาก แถมอดีตยังเคยเป็นหนึ่งในสมาชิก  “กบฏทหารนอกราชการ” หรือ “กบฏ 9 กันยา” ที่พยายามยึดอำนาจการปกครองจาก “ป๋า” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ สมัยเป็นนายกฯ ด้วยเหตุนี้บารมีของพ่อจึงส่งผ่านมายังลูกแบบเต็มๆ พล.อ.วิชญ์จึงได้บารมี 2 ทาง ด้านหนึ่งจากพ่อ ด้านหนึ่งจากตัวเอง ด้วยความเป็นคนใจถึงพึ่งได้ บุคคลิกอาจไม่โผงผางโวยวายแบบเพื่อนซี้ที่ชื่อ “เสธฯไอซ์” พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต อดีตที่ปรึกษานายกฯ ผู้ยิ่งใหญ่ตท.10 ผู้เป็นเพื่อนรักของทักษิณ ชินวัตร นายใหญ่คนแดนไกล  บิ๊กน้อยกับเสธฯไอซ์นั้นแนบแน่นกันมาก  เพราะมาเฟียน้ำแข็งเรียนตกรุ่นจากตท.10 มาอยู่ตท.11  แถมเป็นเพื่อนกินเพื่อนเที่ยวกันมาตลอดตอนหนุ่มๆ  เพราะดึกๆดื่นๆเวลาหนีเที่ยวกลางคืนเสธฯไอซ์ก็ได้เพื่อนซี้อย่างบิ๊กน้อยนี้แหละเป็นคนดูแลพาไปนอนที่บ้าน  เพราะบิ๊กน้อยมีบ้านพักหลังใหญ่ชั้นนายพลของผู้เป็นพ่อที่สวนเจ้าเชตุ  เพราะฉะนั้นบิ๊กน้อยกับเสธฯไอซ์จึงสนิทสนมแนบแน่นกันสุดๆ ที่สำคัญทั้งคู่ยังเป็นคนรักม้าเหมือนกัน มีคอกม้าเหมือนกัน เข้าสนามม้าไปสร้างอาณาจักรด้วยกัน

ด้วยความสนิทระหว่างพล.อ.วิชญ์กับพล.อ.ไตรรงค์นี้เอง  ที่ทำให้บิ๊กน้อยได้เจอ “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่เป็นน้องรักเป็นมือทำงานเบอร์ต้นของเสธฯไอซ์   ที่ตอนหลังอำนาจบารมีของพล.อ.ไตรรงค์เริ่มโรยราหลังป่วยนานหลายปี   ร.อ.ธรรมนัสก็สยายปีกมาเดินเดี่ยวสร้างอาณาจักรขยายบารมีของตัวเองจนสถาปนาตัวเองเป็นผู้กว้างขวางในวงการสีเขียว สีกากี และ แวดวงการเมือง ก่อนที่ทั้งคู่จะมาบรรจบกันเพราะมี “นาย” คนเดียวกันคือบิ๊กป้อม เพียงแต่ร.อ.ธรรมนัสเข้าการเมืองก่อนจนถูกดึงตัวเข้ามาช่วยงานในพรรคพลังประชารัฐ จนก้าวขึ้นเป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ  ขณะที่พล.อ.วิชญ์ช่วยงานบิ๊กป้อมอยู่เบื้องหลัง นั่งเป็นคณะกรรมการหลายคณะ ถูกส่งไปช่วยงานหลายเรื่อง  รวมถึงวงการกีฬา  ที่บิ๊กน้อยถึงขั้นถูกตั้งให้เป็นเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์  เป็นมือไม้ให้บิ๊กป้อมที่เป็นประธานบ้านอัมพวัน ก่อนจะถูกดึงมาเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ

ความจริงหากได้ทั้งคู่มาทำงานที่พรรคพลังประชารัฐงานของพล.อ.ประวิตรในพรรคคงเบาแรงลงไปมาก  แต่เหมือนโชคชะตาฟ้าลิขิต เสือสองตัวมิอาจอยู่ถ้ำเดียวกันได้  แม้ตอนแรกเส้นทางของพล.อ.วิชญ์กับร.อ.ธรรมนัสดูไปได้สวย  เพราะถูกมองว่าจะเข้ามาเป็นมือเป็นไม้สำคัญให้กับหัวหน้าหน้าป้อม  แต่อยู่พรรคได้ไม่นานทั้งคู่ก็แพ้ภัยตัวเองและ “คิดการใหญ่” ก่อนถูกพรรคขับพ้นก๊วนส.ส. 21 คน  ขณะที่ตอนนั้นพล.อ.วิชญ์ก็มั่นใจว่าไปกับผู้กองนัสแล้วจะสบาย  ถึงขนาดยอมลาออกจากประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐไปเป็นหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทยตามคำเชิญของผู้กองที่พล.อ.ประวิตรก็เห็นดีเห็นงามด้วย  แต่อยู่กินกันไม่นานหม้อข้าวยังไม่ทันดำ ร.อ.ธรรมนัสก็หักดิบพล.อ.วิชญ์จนเกิดเป็นความขัดแย้งขึ้นมาอีก  ที่สุดบิ๊กน้อยยอมไขก๊อกออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทยหลังกรรมการบริหารพรรคเกินครึ่งทยอยลาออก  ฝ่ายผู้กองอัดนายเก่าว่าไม่ประสาการเมืองเป็นทหารพอไหวแต่เป็นนักการเมืองไม่ได้เรื่องเลย  ขาดมติกว้างลึกไม่ทันเกมส์เขี้ยวไม่พอที่จะลงมาแก้ปัญหาให้ชาวบ้านได้   ด้านบิ๊กน้อยก็ไล่ตะเพิดผู้กองลูกน้องเก่าลืมบุญคุณ  ทำอะไรไม่เคยเห็นหัว   ลับหลังไปพูดจาเจรจากับใครไม่เคยบอก   ที่สำคัญตั้งหน้าตั้งตาล้มประยุทธ์คว่ำรัฐบาลอย่างเดียวไม่เคยสนใจเรื่องชาวบ้าน ที่สุดต่างฝ่ายต่างแยกทาง บิ๊กน้อยกลับไปตายรังขอช่วยพล.อ.ประวิตรเหมือนเดิม

ขณะที่ผู้กองธรรมนัสหลังบี้จนพล.อ.วิชญ์ถอดใจไขก๊อก  ก็ขยับตัวเองขึ้นชั้นมาเป็นหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทยคนใหม่ แต่อนาคตดูแล้วมืดมน เพราะ 18 ส.ส.ที่มีในมือตอนนี้ก็ร่อยหรอลงไปตามลำดับ  ทัศนาพร เกษเมธีการุณ ส.ส.โคราชถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แถมล่าสุดวัฒนา สิทธิวัง ก็ล่องจุ๊นแพ้เลือกตั้งซ่อมเขต 4 จ.ลำปางไปตามระเบียบ   ตอนนี้เหลือส.ส.แค่ 16 คน  แถมดูทรงแล้วมีแต่สาละวันเตี้ยลงไปหน้า ในกระดานตอนนี้มีบัญชีรายชื่อ 3 คน คือ 1.บุญสิงห์ วรินทร์รักษ์  2.พล.ต.อ.ยงยุทธ เทพจำนงค์  3. ยุทธนา โพธสุธน  ด้าน ส.ส.เขตหดสั้นลงเหลือแค่ 13 คน  แถมไปดูประวัติตอนเลือกตั้งคราวที่แล้ว 24 มี.ค.2562  ส่วนใหญ่ชนะเลือกตั้งเข้าสภามาแบบเจียนไปเจียนอยู่  มีตั้งแต่เฉือนหลักร้อย ชนะไม่กี่พัน  ประกอบด้วย  1.ธนะสิทธิ์ โค้วสุรัตน์  เขต 6 จ.อุบลราชธานี   2. เกษม ศุภรานนท์  เขต 1 โคราช  3. ภาคภูมิ บูลย์ประมุข  เขต 3 จ.ตาก   4. สะถิระ เผือกประพันธุ์   เขต 8 จ.ชลบุรี  5.พรชัย  อินทร์สุข  เขต 1 จ.พิจิตร  6.ปัญญา จีนาคำ เขต 1 จ.แม่ฮ่องสอน 7. จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ เขต 3 จ.สมุทรสาคร   8.สมศักดิ์ คุณเงิน  เขต 7 จ.ขอนแก่น   9. ณัฏฐพล จรัสรพีพงษ์ เขต 2 จ.สุรินทร์  10. ทัศนาพร เกษเมธีการุณ เขต 8 จ.โคราช  10.จีรเดช ศรีวิราช เขต 3 จ.พะเยา 11.ธนัส ทวีเกื้อกูลกิจ  เขต 1 ส.ส.ตาก  12.ไผ่ ลิกค์  เขต 1 ส.ส.กำแพงเพชร  13 .ร.อ.ธรรมนัส  เขต 1 ส.ส.พะเยา

เปิดตัวพรรครวมแผ่นดิน 1 ส.ค.นี้  พล.อ.วิชญ์คงสะใจปะหนึ่ง พยัคฆ์ได้ชำระแค้น  โดยเฉพาะหากสามารถดึงส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทยของลูกน้องที่เคยทุรยศกับตัวเองมาเป็นสมาชิกพรรคใหม่ได้  สั่งสอนให้เด็กเมื่อวานซืนเห็นว่าการเมืองต้องมีมิตรแท้และศัตรูถาวร   ขณะที่ตัวเองก็จะได้กู้ศักดิ์ศรีวงตระกูลที่โดนลูกน้องหักหลังมา  แถมการตั้งพรรคใหม่ก็ยังเข้าทางยุทธศาตร์แตกแบงค์พันตรงเป้าหมายของนายป้อม  หากเลือกตั้งใช้สูตรหาร 500  โอกาสเสือเฒ่าอย่างบิ๊กน้อยจะเข้าสภาก็มีสูง  ที่ดูช่างแตกต่างจากเส้นทางของจิ๊งจอกหนุ่มผู้หิวโซ   เปลี่ยนสีบ่อยๆกัดเขาไปทั่วเหมือนหมาบ้ากลางแดดใครจะเอาไปใช้งาน  ล่าสุดถึงขั้นแฉโพยรับกล้วยของส.ส.พรรคเล็ก  กางบัญชีรับส่วยทำแวดวงการเมืองสะเทือนไปหมด  เรื่องแบบนี้ไม่ใช่คนเขาไม่รู้ เขารู้แต่ไม่พูดกัน นักเลงจริงนักการเมืองแท้ๆวิธีการมันต้องคมต้องเนี๊ยบกว่านี้  โฉ่งฉ่างโลว์คลาสแบบนี้ คนการเมืองเห็นแล้วได้แต่เวทนา  “ไร้ราคาจริงๆ”     นับถอยหลังคงเหลือไม่ถึงสิบ  ลงมติซักฟอกล่าสุดก็มี 4-5 คนแปรพักตร์ไปยกมือไว้วางใจให้พล.อ.ประยุทธ์   เลือกตั้งรอบหน้าเจอทั้งพรรคเพื่อไทย พรรคไทยสร้างไทย พรรคภูมิใจไทย  จะเอาเรี่ยวเอาแรงเอาเงินที่ไหนไปสู้เขาล่ะผู้กองเอ้ย  ครั้นจะกลับพรรคพลังประชารัฐพวกก็ไม่เอาเพราะถีบหัวส่งออกมาแล้ว  จะไปซูฮกนายห้างใหญ่คนแดนไกลก็ลำบาก เพราะทรยศหักหลังเขาไปทั่ว อยู่ที่ไหนหัวหน้าตายหมด ไปพรรคไหนพรรคนั้นก็เจ๊ง อนาจใจแท้เป็นถึงผู้ยิ่งใหญ่แต่ไร้คนคบหา

///////////////////

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

โคราชเตรียม จัดงานสืบสานตำนานข้าวและของดีอำเภอโนนสูง และการประกวดธิดาข้าว การแข่งขันตำข้าวลีลา การแข่งขันหุงข้าวหม้อดิน หวังกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่
ชาวสัตหีบ ผวา กลัวคนร้ายมีมนต์สะกดให้หลับ ก่อเหตุ 2 ครั้ง ฉกโทรศัพท์ 8 เครื่อง ในศาลาสวดศพวัดเทพประสาท
รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติฯ ทำ MOU บริษัท ไวท์พลาย ยกระดับการให้บริการสุขภาพ ตอบสนองต่อแผนยุทธศาสตร์ ในเรื่อง Smart Hospital และนโยบาย ผบ.ทร.
ตำรวจภูธรภาค 2 ผนึกกำลังเปิดปฏิบัติการ ล้างบางปรสิต กำจัดอาชญากรข้ามชาติ
ตำรวจแจ้งเอาผิด 4 ข้อหาหนัก ก่อนฝากขัง "คนร้าย" ยิง 3 ศพ หนองบัวลำภู
รวมพลอริเก่า! ลงขันล่า “ตั้ม แดน 3” จ้างซามูไรในคุก รับจบข้ามแดน
“วราวุธ” สั่ง พม. เปิดวอร์รูมศบปภ. เร่งขับเคลื่อนช่วยกลุ่มเปราะบาง น้ำท่วมภาคใต้
"พิชัย" นำทีมพณ.หารือ "สหพันธ์ขนส่งฯ" แลกมุมมองพัฒนาธุรกิจโลจิสติกส์ไทยให้เข้มแข็ง
จีนขู่จะบดขยี้ผู้พยายามประกาศเอกราชไต้หวัน
"รมว.ปุ๋ง" ขึ้นเหนือชวนนักท่องเที่ยวแอ่วลำปาง-ลำพูน ยกย่องชุมชนคุณธรรมฯ ท่ามะโอ-วัดพระธาตุลำปางหลวง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น