“หมูเถื่อน” ยาพิษคุกคามเกษตรกรและสุขภาพคนไทย

หลังกรมปศุสัตว์ประกาศอย่างเป็นทางการว่าประเทศไทยพบโรค ASF เมื่อต้นปี 2565 ที่ผ่านมา ยังผลให้หมูในประเทศหายไปจากระบบ 50% เกิดภาวะเนื้อหมูขาดแคลน แต่กลายเป็นช่องทางให้ “ผู้ร้าย” หาประโยชน์บนความทุกข์ร้อนของคนไทยฉวยโอกาส “ลักลอบ” นำ “หมูเถื่อน” เข้ามาขายหวังฟันกำไรเป็นกอบเป็นกำจากราคาที่ปรับสูงขึ้นจากอุปทานที่หายไป

“หมูเถื่อน” ที่ลักลอบนำเข้าเหล่านี้ เป็น “ยาพิษ” ทั้งกับคนไทยและเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูทั่วประเทศ ก็เพราะว่าเนื้อหมูที่ต้นทางมาจากประเทศทางตะวันตก เช่น เยอรมัน ตุรกี บราซิล นั้น ยังอนุญาตให้ใช้สารเร่งเนื้อแดงในการเลี้ยงได้ ซึ่งเป็นสารก่อให้เกิดโรคมะเร็ง ที่ประเทศไทยห้ามใช้มานานมากกว่า 20 ปี เพื่อคุ้มครองคนไทยให้มีอาหารปลอดภัยบริโภค และยังบั่นทอนแรงจูงใจของเกษตรกรไทยไม่เดินหน้าต่อนำหมูรุ่นใหม่เข้าเลี้ยง ด้วยหมูลักลอบนำเข้า เป็นตัวการทำลายเสถียรภาพราคาในประเทศ ทำให้กลไกตลาดบิดเบือน เพราะเนื้อหมูนำเข้ามีต้นทุนที่ต่ำกว่าจึงสามารถขายถูกกว่าหมูไทยได้

ทั้งนี้ ประเทศไทยมีกฎหมายห้ามใช้สารเร่งเนื้อแดง จากประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดชื่อ ประเภท ชนิด หรือลักษณะของอาหารสัตว์ที่ไม่อนุญาตให้นำเข้าเพื่อขาย และกำหนดชื่อ ประเภท ชนิด ลักษณะคุณสมบัติ และส่วนประกอบของวัตถุที่เติมในอาหารสัตว์ที่ห้ามใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตอาหารสัตว์ พ.ศ.2545 และประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 269) พ.ศ.2546 เรื่อง มาตรฐานอาหารที่มีการปนเปื้อนสารเคมีกลุ่มเบต้าอะโกนิสต์

แม้ภาครัฐตรวจตราและจับกุมเข้มงวด “หมูเถื่อน” มาตั้งแต่ต้นปี เจาะกลุ่มห้องเย็นในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เช่น สมุทรสาคร สงขลา ชลบุรี ราชบุรี นครปฐม อุบลราชธานี มุกดาหาร เป็นต้น แต่ก็ยังมีเล็ดลอดเข้ามาต่อเนื่องทุกภูมิภาคแบบ “ตรวจเมื่อไหร่ก็เจอ” ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา ของกลางถูกยึดและสืบหาผู้กระทำไปดำเนินคดี แต่ “ผู้ร้าย” ก็คือผู้ร้าย ที่หนีรอดไปได้ และยังคงใช้กลเม็ดสำแดงเท็จเป็นอาหารทะเลหรืออาหารสัตว์ (แบบเดิมๆ) หลบหลีกการตรวจสอบแบบไม่เกรงกลัวโทษทัณฑ์ ปริมาณที่เจอมีตั้งแต่หลัก 1,000 กิโลกรัม ถึง 1 ล้านกิโลกรัม ล่าสุดเจ้าหน้าที่จากกองสารวัตรและกักกัน ร่วมกับด่านกักกันสัตว์เพชรบุรี และด่านกักกันสัตว์นครปฐม ตรวจพบซากสัตว์ลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศจำนวน 5 รายการ รวม 64,000 กิโลกรัม โดยไม่มีใบอนุญาตนำเข้า 3 รายการ และไม่ทราบแหล่งที่มา 2 รายการ ที่ห้องเย็นจังหวัดสมุทรสาคร และก่อนหน้านี้การจับกุมที่ห้องเย็นในจังหวัดอุบลราชธานี เช่นกัน

ข่าวที่น่าสนใจ

ร้ายไปกว่านั้น “หมูเถื่อน” ถูกนำไปขายปะปนกับหมูดีของไทยบนเขียงหมูในตลาดสด ตีตราเป็นหมูไทยแบบแยกไม่ออกด้วยตาเปล่า ยิ่งเศรษฐกิจขาลงช่วงนี้ ราคาถูกเป็นแรงจูงใจสำคัญในการเลือกซื้อของผู้บริโภค หารู้ไม่ว่า “ของถูกไม่มีดี ของดีไม่มีถูก” เพราะของถูกที่ซื้อไปอาจมีของแถมเป็นสารก่อให้เกิดมะเร็งติดไปด้วย

ฟากเกษตรกรผู้เลี้ยง มองว่าสถานการณ์กำลังจะดีอยู่แล้ว ได้รับเงินชดเชยจากรัฐบาล หวังจะฟื้นฟูกิจการนำหมูรุ่นใหม่เข้าเลี้ยงต่อเนื่อง แต่มีอันต้องทบทวนแผนให้รอบคอบว่า หากหมูลักลอบนำเข้าที่ขายต่ำกว่าราคาหมูไทยได้ยังมีให้เห็นไม่ขาดสาย ต้นทุนอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้น 30% โดยเฉพาะข้าวโพดเลี้ยงสัตว์แม้ราคาจะปรับลดจาก 13.50 บาทต่อกิโลกรัม เหลือ 12 บาทต่อกิโลกรัม แต่ก็ยังคงสูง รวมถึงต้นทุนพลังงานที่ยังหาเสถียรภาพไม่ได้ แม้น้ำมันดิบจะปรับลดลงแต่ยังอยู่ในระดับ 98-100 เหรียญสหรัฐต่อบาเรล ซึ่งมีผลต่อต้นทุนค่าไฟฟ้า ค่าขนส่ง ทั้งสิ้น แต่ราคาตลาดถูกบิดเบือน เงินที่ลงทุนไปไม่คุ้มค่าแน่นอน
ที่สำคัญหมูเถื่อน เป็นพาหะสำคัญในการนำเข้าโรคระบาดมาสู่ประเทศไทย ไม่เพียงแต่โรค ASF ยังรวมถึงโรคระบาดอื่นๆ เช่นกัน ซึ่งเป็นการทำลายการพัฒนาภาคปศุสัตว์และเศรษฐกิจไทยที่เดินหน้ามาอย่างต่อเนื่อง

ถึงเวลาแล้วที่ภาครัฐ จะต้องเล่นใหญ่บทบาท “ตำรวจจับผู้ร้าย” เพราะเชื่อแน่ว่าสายสืบของท่านมีเบาะแสชี้เป้าได้แม่นยำ ผลการจับกุมที่ผ่านมาเข้าตาประชาชน เห็นได้ว่าทุกห้องเย็นที่ไปตรวจสอบไม่เคยพลาดเป้าจับหมูเถื่อนได้คาหนังคาเขา ผู้บริโภคมั่นใจได้กินหมูปลอดโรคและปลอดภัย ทั้งยังเป็นการสร้างแรงจูงใจส่งเสริมให้เกษตรกรมั่นใจในการเพิ่มผลผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการ ตามเป้าหมายที่รัฐบาลวางไว้ในการฟื้นฟูการผลิตสุกรกลับสู่ภาวะปกติภายในสิ้นปีนี้

ในฐานะ “พลเมืองดีของประเทศ” ขอฝากคนไทยให้ช่วยเป็นหูเป็นตา เพื่อปกป้องคนไทยด้วยกันได้ด้วยการแจ้งเบาะแสหรือข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อทำลายแหล่งนำเข้าหมูเถื่อน สามารถแจ้งได้ที่แอปพลิเคชัน DLD 4.0 หรือ สายด่วนกรมปศุสัตว์ 063-225 -6888 ได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ทบ.ขานรับนโยบายปราบยาเสพติด เพิ่มทหาร 6 กองกำลัง วัดเคพีไอ 10 กพ.-10 มิ.ย.
ซีพีเอฟ ซีพี-เมจิ ร่วมหนุนสระบุรีแซนด์บ๊อกซ์ "รวมพลังสร้างเมืองคาร์บอนต่ำแห่งแรกของประเทศไทย”
สละเรือแล้ว! "ผบ.อิสราเอล" ยื่น "ลาออก" เซ่นเหตุ 7 ต.ค. ไล่แทงกันในเทลอาวีฟเจ็บ 5
สุดปัง “นายกฯ” สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF
ทบ.ยืนยันอีกรอบ! ปมร้อน “แสตมป์” ไม่เกี่ยวกองทัพ พบไม่เคยร้อง 112
ผบ.ทร.เข้าเยี่ยม พร้อมมอบของบำรุงขวัญ สร้างกำลังใจทหารผ่านศึก ขอบคุณเสียสละเพื่อชาติจนทุพพลภาพ
“อัจฉริยะ” ยอมเสี่ยงชีวิต มาขึ้นไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาล พร้อมเปิดแผลผ่าตัดโชว์นักข่าว
"อิสราเอล" บิดหยุดยิง ถล่มเวสต์แบงก์ดับเกลื่อน "ฮามาส" รวมพลด่วน
ตม.4 บุกทลายเว็บพนันฯเกาหลีใต้ ใช้ไทยเป็นฐานบัญชาการควบคุมทั่วโลก เงินหมุนเวียน 100 ล้านบาท
เปิดคำพิพากษา “เต้ มงคลกิตติ์” ทำสัญญาประนีประนอม ยอมขอโทษ หมิ่นกล่าวหา “ศักดิ์สยาม”

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น