รับตัว แก๊งคอลเซ็นเตอร์ จำนวน 94 คน พร้อมหมาย

รับตัว แก๊งคอลเซ็นเตอร์ จำนวน 94 คน พร้อมหมาย

ทางการกัมพูชาได้นำตัวเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์คนไทย มาส่งที่บริเวณด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ. อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. และ ผอ. ศปอส.ตร (PCT) มอบหมายให้ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.ภ.8 หน.ชุดปฏิบัติการที่ 1 PCT กับ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 หน.ชุดปฏิบัติการ PCT ที่ 5 พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผกก. สส.ภ.จว. สระแก้ว ผู้แทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ร่วมกันรับตัวคนไทย ที่ถูกเนรเทศส่งกลับประเทศไทย จำนวน 94 คน ภายหลังมีการประสานงานร่วมกับฝ่ายความมั่นคงกัมพูชา เข้าทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศกัมพูชา ซึ่งการรับตัวคนไทยดังกล่าว ได้มีการเดินทางออกจากกรุงพนมเปญ โดยในจำนวนนี้ มีการออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไปแล้ว จำนวน 74 หมายจับ เพื่อดำเนินคดีในประเทศไทยด้วย และยังมีการจับกุมบุคคลในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ยังไม่มีหมายจับอีก จำนวน 20 คน รวมทั้งสิ้น 94 คน โดยทั้งหมดได้ถูกนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายของประเทศกัมพูชาแล้วก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้งหมด และจากการขยายผล ทราบว่า กลุ่มบุคคลทั้งหมดเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทั้ง 4 แก๊ง และมีอีกหลายรายเป็นถึงหัวหน้าแก๊งร่วมกับชาวไต้หวัน ซึ่ง ศปอส.ตร.(PCT) จะทำการขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งขบวนการ จากนั้น จะนำตัวคนไทยมาคัดแยก เพื่อส่งให้กับพนักงานสอบสวนจากสถานีท้องที่ที่ออกหมายจับ รับตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ประกอบด้วย สภ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี จำนวน 25 หมายจับ ,สภ.เมืองจันทรบุรี จำนวน 10 หมายจับ สน.พหลโยธิน จำนวน 18 หมายจับ และ สน.บางเขน จำนวน 21 หมายจับ

ด้าน พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.ภ.8 หน.ชุดปฏิบัติการที่ 1 PCT ผู้แทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่งเพราะปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นนโยบายเร่งด่วนของนายกรัฐมนตรี ที่เห็นว่า เป็นอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนไทยมากที่สุดในปัจจุบัน ซึ่งการดำเนินการนี้สำเร็จเกิดจากความร่วมมือกันระหว่างตำรวจไทยกับตำรวจกัมพูชา ที่มีความสัมพันธ์อันดีตลอดมา และมีแนวทางร่วมกัน เพื่อปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์เช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ” พล.ต.ต.พันธนะ กล่าวอีกว่า สำหรับผลการปฏิบัติการทั้ง 4 แห่ง พบว่า มีการรับแจ้งคดีคอลเซ็นเตอร์ในช่วงเดือนกรกฎาคม 65 ทั้งสิ้น 491 คดี ลดลงจากเดือน มิถุนายน 65 กว่า 474 คดี (มิ.ย.65 รับแจ้ง 965 คดี) ซึ่งขณะนี้พบอีกว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการหลอกหลวงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งตำรวจ PCT ได้วิเคราะห์ไว้ได้หมดแล้ว และมีแนวทางที่จะทำสงครามทุกรูปแบบทุกมิติกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตราบใดที่คนไทยยังคิดหลอกคนไทย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็จะยังไม่หมดไป หากคนไทยคนไหนคิดจะไปเข้าร่วมขอให้รู้ไว้ว่า คุณจะกลับมาประเทศมาเยี่ยงอาชญากร มิใช่เหยื่อ

สำหรับที่มาของการส่งตัวผู้ต้องหาคอลเซ็นเตอร์ 94 คน มาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในไทย พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ PCT มอบหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจ PCT ร่วมกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และตำรวจภูธรภาค 2 รับตัวคนไทยส่งกลับจากประเทศกัมพูชา จากการเปิดปฏิบัติการทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 4 แห่ง ในประเทศกัมพูชา จำนวน 94 ราย และมีการออกหมายจับ จำนวน 79 ราย

โดย
จุด 1 โรงแรมจิงเฉิง ถนนสองธนู เมืองพระสีหนุ กัมพูชา จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 21 คน โดยมีแผนประทุษกรรมหลอกให้หลงและหลอกให้รักในแอปทินเดอร์ จากนั้นจะเริ่มหลอกลวงให้ร่วมลงทุนฟอเร็กซ์ และชักนำให้ลงทุนกับโบรกเกอร์ปลอมเพื่อหลอกเอาเงิน
จุด2 อาคาร 5 ชั้น ถนน 104 เมืองพระสีหนุ ประเทศกัมพูชา จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 18 คน โดยมีแผนประทุษกรรมคือ ฝ่ายคุมระบบ หรือฝ่าย IT จะใช้ระบบคอมพิวเตอร์อัตโนมัติ AI เป็นเบอร์โทรต้นทางโทรผ่านระบบ VOIP ไปยังเหยื่อเป็นคนไทย หากมีการรับสายจะเป็นระบบอัตโนมัติ แจ้งข้อมูลมีพัสดุผิดกฎหมาย อ้างว่าจากการตรวจสอบข้อมูลของผู้เสียหายมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงิน และหลอกให้ผู้เสียหายแสดงความบริสุทธิ์ โอนเงินที่มีเพื่อทำการตรวจสอบ

จุด3 อาคาร 8 ชั้น ถนน 702 เมืองพระสีหนุ ประเทศกัมพูชา จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 10 คน โดยมีแผนประทุษกรรม โดยจะอ้างว่าเป็นการปล่อยสินเชื่อ หลอกลวงเอาค่าธรรมเนียมต่างๆ จากเหยื่อที่มากู้เงิน จุด 4 ตึกสามชั้น ใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา ตำบลปอยเปต อำเภออูร์ชเรา จังหวัดบันทายมีชัย ประเทศกัมพูชา จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 25 คน โดยมีแผนประทุษกรรม คือหลอกลวงเป็นพนักงานจากบริษัทขนส่งพัสดุบริษัท DHL ได้ทำการตรวจสอบพัสดุพบสิ่งผิดกฎหมาย และมีอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ กสทช. ด้วย โดยจะมีการสอบถามข้อมูลต่างๆของผู้เสียหาย ซึ่งจะอ้างว่าเบอร์โทรศัพท์ของผู้เสียหายถูกร้องเรียนจากการกระทำความผิด และมีข้อมูลว่าผู้เสียหายมีการขายบัญชี อ้างว่าจะต้องให้ผู้เสียหายส่งเงินเข้ามาตรวจสอบ

ทั้งนี้ พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ ได้สั่งการให้ตำรวจ PCT รอรับตัวและซักถามปากคำผู้ต้องหาทั้งหมด และจากการขยายผลกาจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 94 รายนี้ ทำให้ทราบบุคคลที่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทั้ง 4 แก๊งอีกหลายราย รวมไปถึงหัวหน้าแก๊งชาวไต้หวัน ซึ่งศูนย์ PCT จะขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งขบวนการ

ยุทธนา พึ่งน้อย ผู้สื่อข่าวTOPNEWS ประจำ จ.สระแก้ว

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เลื่อนยศ "จ่าเฉย" สู่สารวัตรเฉยAi พร้อมทำหน้าที่จับคนทำผิดกฎจราจร
"ขนส่งกระบี่" คุมเข้มคนขับ สภาพรถไม่พร้อม "ห้ามวิ่ง-ห้ามขับ" ฝ่าฝืนจับปรับขั้นสูงสุด
เตือนอย่าหาซื้อ "เครื่องทำน้ำอุ่น" แบบพกพา ขายว่อนในโซเชียล อันตรายถึงชีวิต
กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศหนาว เตือน "ภาคใต้" มีฝนตกหนัก 30%
เดี่ยวไมค์ไฟลุก เอาใจแฟนข่าวท็อปนิวส์ จัดเต็มเรื่องจริงหลังจอ Exclusive Talk-Trip @อุบลราชธานี 3 วัน 2 คืน
บังหลินหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงทายาทสิบล้อท้าชกข้ามรุ่นชิงเก้าอี้ สจ.โคราช เดือดแน่
"ดีเจแมน" เปิดใจ หลังได้รับอิสรภาพ กราบเท้าพ่อ-แม่ พร้อมขอเวลาปรับตัวการใช้ชีวิตนอกเรือนจำ
ผอ.สวนสัตว์ ยันชัด “วิทาลิก บูเทอริน” มอบเงิน 10 ล้านจริง สร้างบ้านใหม่ให้หมูเด้ง
“Amazing Coding By Micro bit” .. CONNEXT ED หนุน รร.บ้านหนองกระทุ่ม ชัยภูมิ เรียนรู้โค้ดดิ้ง
ตร.สอบปากคำเข้ม "เจ้าของงานเลี้ยง-ลูกชาย" ปมจ้าง "แบงค์ เลสเตอร์" 3 หมื่นให้ดื่มเหล้าเพียวจนเสียชีวิต

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น