ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี นายพงษ์สิทธ์ จันทร์โท อายุประมาณ 35 ปี ชาว ต.ละลาย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมกับเพื่อนอีก 3 คน ได้ออกจากบ้านไปเก็บเห็ดในป่าพนมดงรัก ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค.2565 เวลาประมาณ 22.00 น. จนกระทั่งวันที่ 30 ก.ค. 2565 เวลาประมาณ 10.00 น. ไม่สามารถติดต่อกับนายพงษ์สิทธิ์ ได้ ดังนั้น ญาติกับชาวบ้านจึงได้ออกตามหาและเดินทางกลับถึงบ้านในเวลาประมาณ 17.00 น. ของวันที่ 30 ก.ค. 2565 จนกระทั่งวันที่ 31 ก.ค. 2565 เวลา 17.00 น. ยังไม่เห็นนายพงษ์สิทธิ์กลับมา จึงได้แจ้งผู้ใหญ่บ้านให้ทราบเรื่องดังกล่าว ต่อมา นายสำรวย เกษกุล รอง ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายสุกิจ เหลืองสกุลไทย นายอำเภอกันทรลักษ์ นายพรชัย วงศ์งาม นายอำเภอขุนหาญ ได้ประสานหน่วยกำลังในพื้นที่ ประกอบด้วย ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองสอบถามข้อมูลและร่วมวางแผนพร้อมทั้งได้ออกติดตามค้นหาในพื้นที่ป่าพนมดงรัก ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 1 ส.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์บริการข้อมูลสวนรุกขชาติน้ำตกสำโรงเกียรติ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ นายสำรวย เกษกุล รอง ผวจ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ตามที่ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ ได้มอบหมายให้ตนเป็นผู้อำนวยการ เพื่อค้นหากรณี นายพงษ์สิทธ์ จันทร์โท พร้อมกับเพื่อน 3 คน ได้เดินทางออกจากบ้านไปเก็บเห็ดในป่าพนมดงรัก ตนได้ติดตามรับทราบข้อมูลวางแผนสั่งการจัดทีมค้นหาในเขตพื้นที่ อ.ขุนหาญ โดยมี นายพรชัย วงศ์งาม นายอำเภอขุนหาญ นายวัจนปกรณ์ พงษ์พานิช ผู้ช่วยหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ 1 จ.ศก. ร่วมวางแผนค้นหาจัดตั้งทีมและลงพื้นที่ติดตามค้นหา โดยทีมค้นหาทั้งสิ้นจำนวน 100 นาย ประกอบด้วย ที่ทำการปกครอง อ.กันทรลักษ์ อ.ขุนหาญ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต.ผักดอง ต.ละลาย เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าสวนรุกขชาติสำโรงเกียรติ ทหารพรานที่ 2609 ตร.ภ.จว.ศรีสะเกษ อปพร.ในพื้นที่ ร่วมกับประชาชนในเขตพื้นที่ออกดำเนินการค้นหาอย่างต่อเนื่อง
นายสำรวย เกษกุล รอง ผวจ.ศรีสะเกษ เปิดเผยต่อไปว่า จากการตรวจข้อเท็จจริงแล้ว ชาวบ้านที่หลงป่านั้น มีจำนวนทั้งสิ้น 3 คนด้วยกัน คือชาวบ้านตาเส็ด 2 คน และชาวบ้านสันติสุข 1 คน ขณะนี้ชาวบ้านที่หลงป่านั้น ได้พบตัวแล้ว 2 คน คือ นายสาคร และ นายวาทิตย์ มุ่งหมาย ยังเหลือชาวบ้านที่ยังไม่พบตัว จำนวน 1 คนคือ นายพงษ์สิทธิ์ จันทร์โท ที่ได้หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค. 2565 และได้พลัดหลงไป ซึ่งอยู่ในรอยต่อชายแดนระหว่างเขต อ.กันทรลักษ์และ อ.ขุนหาญ ซึ่งตนได้สั่งการให้ค้นหาผู้พลัดหลงดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง จากการที่ได้สอบถามชาวบ้านที่พบตัวคนแรก คือนายสาคร ทราบว่า เข้าไปในป่าตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค.65 พอวันที่ 29 ก.ค.65 ได้ออกมาจากป่า 1 คน โดยอ้างว่าหิวน้ำจึงได้แยกจากเพื่อนออกมาจากป่าเพื่อมาเอาน้ำโดยบอกให้เพื่อนรอก่อน พอได้น้ำแล้วกลับไปหาเพื่อนอีก 2 คนก็ไม่พบกันแล้ว จึงได้เดินตามลำน้ำกลับออกมาก่อน
นายสำรวย เกษกุล รอง ผวจ.ศรีสะเกษ เปิดเผยด้วยว่า ส่วนคนที่ 2 คือ นายวาทิตย์ มุ่งหมาย ซึ่งออกมาจากป่าเมื่อวันที่ 30 ก.ค. 65 บอกว่า ช่วงที่นายสาคร ไปเอาน้ำตนกับนายพงษ์สิทธิ์ไม่ได้รอ จึงได้พากันเดินต่อไป ทั้งวันทั้งคืนก็ออกจากป่าไม่ได้ กลางคืนก็ไม่ได้นอนพากันเดินเพื่อจะหาทางออกจากป่า พอช่วงเวลาประมาณ 10.00 น.ของวันที่ 30 ก.ค. นายสาครได้ยินเสียงเหมือนรถวิ่ง นายสาครได้บอกกับนายพงษ์สิทธิ์ว่า ใกล้พบทางออกจากป่าแล้วให้เดินตรงไป แต่ว่านายพงษ์สิทธิ์ไม่เชื่อ จึงได้แยกทางกันเดินหาทางออกจากป่า จากนั้น นายสาคร ได้เดินในป่าไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเวลาประมาณ 17.00 น. จึงได้พบกับเจ้าหน้าที่ที่กำลังค้นหาที่บริเวณทุ่งกบาลกะไบ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก ต.บักดอง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ จึงได้นำตัว นายสาคร กลับไปส่งที่บ้าน ยังคงเหลือชาวบ้านที่หลงป่าที่ยังไม่พบอีก 1 คน คือ นายพงษ์สิทธิ์ จันทร์โท ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการค้นหาอย่างต่อเนื่องคาดว่าจะพบตัวในเร็ว ๆ นี้.
ภาพ/ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ