ยุค "ถ่านหิน" คืนชีพ คาดความต้องการตลาดโลกพุ่ง แตะระดับสูงสุดใหม่อีกครั้ง จากผลพวงราคาก๊าซธรรมชาติ ทำให้หลายประเทศหันมาใช้ถ่านหินแทน
ข่าวที่น่าสนใจ
สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ออกรายงานใหม่เกี่ยวกับสถานการณ์ตลาดถ่านหินว่า จากแนวโน้มเศรษฐกิจและตลาดในปัจจุบัน ปริมาณการใช้ทั่วโลกคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.7% เป็น 8,000 ล้านตันในปีนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดที่เคยทำไว้ในปี 2013 และคาดว่าจะเติบโตต่อไปในปีหน้า โดยการคาดการณ์ดังกล่าวได้ตั้งสมมติฐานในกรณีที่เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวตามที่คาดไว้ในช่วงครึ่งหลังของปี
นอกจากนี้ ในรายงานยังระบุว่า ความต้องการถ่าน หินที่เพิ่มขึ้นนั้น ได้รับแรงหนุนจากราคาก๊าซธรรมชาติที่มีราคาเพิ่มสูงขึ้น ทำให้หลายประเทศต้องเปลี่ยนจากการใช้ก๊าซ มาเป็นถ่าน หินมากขึ้น รวมถึงการกลับมาเปิดโรงไฟฟ้าถ่าน หิน ที่เคยปิดตัวลงไปก่อนหน้านี้ด้วย
ทั้งนี้ จีนจะเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก สำหรับการเติบโตของความต้องการใช้ถ่าน หินในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจาก จีนเป็นชาติที่ใช้ถ่าน หินมากกว่าครึ่งหนึ่งของปริมาณตลาดโลก แม้ว่าจะลดลง 3% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2022 ก็ตาม ในขณะเดียวกันก็คาดว่า ความต้องการในอินเดียก็จะเพิ่มขึ้น เนื่องจาก การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ และการใช้ไฟฟ้าที่แพร่หลายมากขึ้น นอกจากนี้ ยังคาดว่า สหภาพยุโรปจะมีส่วนทำให้เกิดอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจาก มีการเปลี่ยนไปใช้ถ่าน หินในการผลิตกระแสไฟฟ้า เพื่อทดแทนก๊าซธรรมชาติ หรือเก็บไว้ใช้ในช่วงฤดูหนาว เนื่องจาก การนำเข้าก๊าซของรัสเซียลดลง
IEA เสริมว่า ตลาดถ่าน หินจะมีความผันผวนต่อไปในปีหน้า เนื่องจาก มาตรการเลิกใช้ของสหภาพยุโรป จะมีผลบังคับใช้ และราคาอาจยังคงเติบโตได้ดี อีกทั้งราคาก๊าซธรรมชาติที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้ถ่าน หินสามารถแข่งขันในตลาดต่าง ๆ ได้มากขึ้น ราคาระหว่างประเทศก็สูงขึ้นตามลำดับ โดยแตะระดับสูงสุดตลอดกาล 3 ครั้งระหว่างเดือนตุลาคม 2021 – พฤษภาคม 2022 อีกทั้งการคว่ำบาตรและการแบนถ่าน หินของรัสเซีย ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดและปัญหาต่าง ๆ
จากผู้ส่งออกรายใหญ่ ล้วนมีส่วนทำให้เกิดการขาดแคลนถ่าน หิน รวมถึงข้อจำกัดต่าง ๆ ที่ผู้ผลิตถ่าน หินต้องพบเจอ จากการพยายามทดแทนถ่าน หินที่ซื้อจากรัสเซีย ราคาถ่าน หินในตลาดซื้อขายล่วงหน้าบ่งชี้ว่า สภาวะตลาดที่ตึงตัว จะยังคงดำเนินต่อไปในปีหน้า และปีต่อๆไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง