อัยการชี้กม.ยาเสพติดใหม่ ทำคดีโคเคน “บอส อยู่วิทยา” ขาดอายุความ

อัยการ เผย พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษใหม่ ที่บังคับใช้ตั้งแต่ปลายปี 64 ส่งผลให้ คดีเสพโคเคน ของทายาทเครื่องดื่มชูกำลังชื่อดัง “บอส อยู่วิทยา” ขาดอายุความลงโดยอัตโนมัติ เหลือเพียงคดีขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต อีกเพียงคดีเดียว ที่มีอายุความอีก 5 ปี

วันที่ 2 ส.ค. 65 นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ในฐานรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า จากการประกาศใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ ตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค. 64 ที่ผ่านมา ที่ให้ยกเลิก พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษปี 2522 เป็นผลทำให้คดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ “บอส” ข้อหาเสพโคเคนขาดอายุความลงโดยอัตโนมัติ เนื่องจากพนักงานอัยการ ตั้งทีมรื้อคดีอาญาขึ้นใหม่ โดยที่มีนายอิทธิพร แก้วทิพย์  อธิบดีอัยการ สำนักงานคอีอาญา เป็นหัวหน้าคณะทำงานและมีตนเป็นเลขาคณะทำงาน พร้อมแจ้งดำเนินคดีเพิ่มกับบอสข้อหาเสพโคเคน

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ หลังจากแจ้งดำเนินคดีดังกล่าว ปรากฏว่า นายวรยุทธ ได้หลบหนีไป จนศาลมีหมายจับ มีกำหนดอายุความ 10 ปี ตามพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษปี พ.ศ 2522 มาตรา 58 ที่ระบุว่า ห้ามไม่ให้ผู้ใดเสพยาเสพติดโคเคน ( ยาเสพติดประเภท 2) หากผู้ใดฝ่าฝืนจะมีบทลงโทษตามมาตรา 91 คือจำคุก 6 เดือนถึง 3 ปี จึงทำให้คดีดังกล่าวมีอายุความ 10 ปี ซึ่งคดีดังกล่าวได้เกิดเมื่อวันที่ 3 ก.ย.2555 และอายุความจะขาดในวันที่ 3 ก.ย.2565 ที่จะถึงนี้ แต่ปรากฏว่า ต่อมาได้มีประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ออกมาบังคับใช้ โดยยกเลิกพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษปี 2522 ทั้งหมด แล้วเขียน หมวดว่าด้วยเสพยาเสพติดประเภท 5 ใหม่ไว้ในมาตรา 104 ระบุว่า ห้ามไม่ให้ผู้ใดเสพยาเสพติดประเภท 2 (โคเคน) หากผู้ฝ่าฝืนจะถูกลงโทษ ตามมาตรา 162 คือมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี

 

ผลคือ ทำให้อายุความจาก 10 ปี ลดเหลือ 5 ปี ทำให้คดีของนายวรยุทธข้อหาเสพโคเคน หมดอายุความโดยอัตโนมัติ ดังนั้น ปัจจุบันคดีของนายวรยุทธ จึงเหลือเพียงข้อหาเดียวคือ ขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 291 มีอัตราโทษจำคุก ไม่เกิน 10 ปีจึงมีอายุความ 15 ปี และจะขาดอายุความในวันที่ 3 ก.ย.2570

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"อดีตสว.สมชาย" แฉโพย ฮั้วเลือกสว. ชี้เป็นหลักฐาน ดีเอสไอ เร่งนำลากไส้ตัวการใหญ่
‘ทักษิณ’ ปลื้มลงพื้นที่นราธิวาส ในรอบ 19 ปี ปชช.รอต้อนรับ
นายกฯ รับรายงาน ตร.ไทย-กัมพูชา ร่วมมือทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฝั่งปอยเปต ช่วยเหยื่อคนไทยนับร้อย หลุดพ้น
“เทพไท” เชื่อ 44 อดีตสส.ก้าวไกล ลงชื่อรื้อ แก้ 112 ถูกตัดสิทธิ์ กระทบหนักยิ่งกว่าถูกยุบพรรค
"หม่องชิต ตู่" ส่งกำลังทหารกว่า 150 นาย คุมเข้มเคเคปาร์ค จับหัวหน้าแก๊งคอลเซนเตอร์ กวาดต้อน 450 เหยื่อต่างชาติ
ใต้ป่วนต่อเนื่อง คนร้ายลอบวางบึ้มหน้าร้านสะดวกซื้อ บันนังสตา ตร.เจ็บ 7 นาย-ชาวบ้านอีก 4 เช้านี้บึ้มรถยนต์อีก หน้าห้างสนามบินนราฯ
พรรคไทยก้าวหน้า แถลงขอโทษปชช. แจงคดี “สส.ปูอัด” ขอรอผ่านชั้นอัยการ ก่อนตัดสินใจขับพ้นพรรค
"นิด้าโพล" คนไทยส่วนใหญ่ เชื่อ "เพื่อไทย-ภูมิใจไทย" ขัดแย้งจริง แต่เคลียร์จบได้
มาแน่ เช็กรายชื่อ 39 จังหวัด รับมือพายุฝนถล่ม ลมแรง กทม.โดนด้วย ร้อนสุด 37 องศา
"ตม." งัดข้อมูลซัด "โรม" หน้าหงาย ระบบ Biometrics บันทึกข้อมูลทุกคน ระบบ PIBICS คุมคนต่างด้าว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น