เปิดแล้วการจราจรพระราม 2- วสท.ชี้คานสะพานถล่มเหตุรื้อถอนผิดขั้นตอน

เปิดแล้วการจราจรพระราม 2- วสท.ชี้คานสะพานถล่มเหตุรื้อถอนผิดขั้นตอน

ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) พร้อมทีมวิศวกร เดินทางมาที่จุดเกิดเหตุชิ้นส่วนสะพานกลับรถถล่ม บริเวณถนนพระรามที่ 2 กิโลเมตรที่ 34 เพื่อตรวจสอบโครงสร้าง หาสาเหตุของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ภายหลังการตรวจสอบ ดร.ธเนศ กล่าวว่า การตรวจสอบวันนี้ ได้เห็นเพียงแค่สภาพชำรุดคงค้าง แต่ไม่เห็นตัวคานหลักที่ร่วงลงมาแล้วและได้ถูกเคลียร์ออกไปแล้ว ทั้งนี้ เบื้องต้นสามารถคาดการณ์ถึงสาเหตุที่เป็นไปได้สูงว่า อาจเกิดจากขั้นตอนของการรื้อถอน ซึ่งโดยปกติการก่อสร้างทั่วไป จะต้องสร้างจากด้านล่างขึ้นด้านบน ส่วนการรื้อถอน ก็ต้องรื้อตรงกันข้ามกัน คือจากด้านบนลงด้านล่าง

โดยในกรณีของสะพานนี้ ลักษณะโครงสร้าง จะมีตัวคานหลักรูปตัวไอ และมีคานซอยเป็นตัวยึด 4 อัน แล้วปูพื้นทับลงไป ส่วนแบริเออร์แผงกันตก จะถูกนำมายึดกับบริเวณส่วนที่ยื่นออกมาของคานหลัก ซึ่งต้องติดตั้งส่วนนี้เป็นขั้นตอนท้ายๆ ดังนั้น ในขั้นตอนของการรื้อถอน ก็ควรจะต้องรื้อตัวแบริเออร์แผงกันตกนี้ก่อน แล้วค่อยไล่ลำดับการรื้อถอนกลับมา

แต่เท่าที่เห็นจากการตรวจสอบเบื้องต้น มีการรื้อส่วนที่เป็นตัวพื้นออกก่อนแบริเออร์ ทำให้น้ำหนักที่ลงบนตัวคานหลัก ไม่สมดุล โดยตัวคานที่เคยถูกทับด้วยพื้น ไม่มีน้ำหนักอะไรทับไว้แล้ว แต่ส่วนริมของคานที่ยื่นออกมายังต้องแบกรับน้ำหนักของแบริเออร์ ทำให้อาจเกิดการบิดได้ จนในที่สุดคานก็ร่วงลงมา ทั้งนี้ ข้อสันนิษฐานดังกล่าว เป็นเพียงข้อสันนิษฐานเบื้องต้น แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าสาเหตุของอุบัติเหตุนั้นเกิดจากเรื่องใด ยังสรุปไม่ได้ว่าเป็นความประมาทได้หรือไม่ เพราะตนเองก็ไม่เห็นการทำงานที่แท้จริง ต้องไปดูในรายละเอียดอีกครั้ง ข้อสันนิษฐานเป็นการคาดการณ์จากสภาพที่เห็นเท่าที่เหลืออยู่เท่านั้น

ส่วนการควบคุมงานโดยวิศวกร ปกติแล้วการก่อสร้างทุกที่จะต้องมีวิศวกรควบคุมอยู่แล้ว หากไม่มีถือว่ามีความผิด แต่กรณี ยังไม่ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ซึ่งจะต้องตั้งขึ้นมาตรวจสอบต่อไป ส่วนสาเหตุเรื่องการเสื่อมสภาพของตัววัสดุนั้น ก็มีความเป็นไปได้ทั้งหมด โดยอุบัติเหตุอาจมีหลายสาเหตุประกอบกัน แต่ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นเพราะการเสื่อมสภาพจากเหตุไฟไหม้หรือไม่

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ดร.ธเนศ กล่าวอีกว่า ตนเองได้ไปร่วมประชุมกับอธิบดีกรมทางหลวง เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด โดยต้องดูความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลักว่าจะมีความเสี่ยงในการสัญจรไปมามากน้อยแค่ไหน ซึ่งได้ให้ข้อสรุปไปว่า หากจะมีการตรวจสอบหรือแก้ไขซ่อมแซมต่อไป ควรจะต้องถอดโครงสร้างเดิมที่เหลืออยู่ออกก่อน ซึ่งทางอธิบดีกรมทางหลวง ได้มีคำสั่งแล้วว่า ให้ดำเนินการรื้อคานอีก 4 อันที่เหลืออยู่ออกทั้งหมด เพื่อให้ประชาชนสามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ไม่ต้องกังวลว่าคานจะร่วงลงมาอีก ซึ่งจะเริ่มดำเนินการทันทีในคืนนี้ คาดว่าวันพรุ่งนี้น่าจะสามารถเปิดการจราจรในถนนเส้นทางหลักได้

และนอกจากสะพานที่เกิดเหตุแล้ว บนถนนพระราม 2 ตลอดเส้นทาง ยังมีสะพานลักษณะนี้รวมแล้ว 16 จุด ซึ่งปกติแล้วสิ่งก่อสร้างต่างๆ จะมีการบำรุงรักษาอยู่เสมออยู่แล้ว แต่หลังจากนี้ กรมทางหลวงและวิศวกรรมสถานฯ จะเข้าไปตรวจสอบสะพานเหล่านี้เพิ่มเติมด้วย และต้องกำชับขั้นตอนการซ่อมแซมให้เป็นไปอย่างถูกต้อง ทั้งนี้ หากประชาชนพบว่าสิ่งก่อสร้างใดมีรอยร้าวลึกเป็นแนวตรงยาว ไม่ว่าจะที่พื้นหรือผนัง สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อเร่งแก้ไขได้ทันที

ล่าสุดวันนี้ ( 3 ส.ค.) นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมทางหลวง โดยศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 3 (ปทุมธานี) ได้รื้อคานสะพานลอยกลับรถที่คาอยู่บนสะพานเกือกม้า จำนวน 4 คาน บนทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) ตอนสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน-นาโคก ที่ กม.34 พื้นที่โครงการปรับปรุงสะพานกลับรถหน้าโรงพยาบาลวิภาราม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร เรียบร้อยแล้ว เมื่อเวลา 03.15 น.ของวันนี้ (3 ส.ค.) พร้อมเปิดการจราจรช่องทางดังกล่าวได้ตั้งแต่เวลา 09.00 น.วันนี้

โดยขั้นตอนรื้อคานทั้ง 4 กรมทางหลวงเริ่มจากการสกัดและตัดราวสะพาน จากนั้นจะใช้รถเครนขนาด 200 ตัน ยกคานลง แล้วทำการขนย้ายออกจากพื้นที่ก่อสร้าง พร้อมตรวจสอบความสะอาดและความปลอดภัยก่อนคืนผิวการจราจรให้ผู้ใช้ทางสัญจรได้เป็นปกติ อย่างไรก็ตาม การรื้อสะพานดังกล่าวก็เพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยด้านการจราจรให้กับผู้ใช้ทาง

 

นายสราวุธกล่าวว่า หลังจากนี้กรมทางหลวงจะให้ทีมผู้เชี่ยวชาญเข้าทดสอบความแข็งแรงของโครงสร้างสะพานเกือกม้าตัวนี้ทุกจุดอีกครั้ง เพื่อความมั่นใจมากที่สุด และเมื่อได้ผลวิเคราะห์ความแข็งแรงจะพิจารณารูปแบบในการปรับปรุงใหม่ที่เหมาะสมให้เกิดความแข็งแรงและปลอดภัยแล้วออกแบบโครงสร้างใหม่ โดยพิจารณาทางเลือกว่าจะดำเนินการที่ก่อสร้างต่อ หรือพิจารณาทุบสะพานตัวนี้ แล้วก่อสร้างใหม่ทั้งตัว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เมียไรเดอร์ เปิดใจเสียงสั่น กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังรู้ข่าว หนุ่มอินเดียซิ่งเก๋งได้ประกันตัว ลั่น ‘คนมีเงินมันยิ่งใหญ่’
นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception เชิญชวนสัมผัสเสน่ห์อาหารไทย ชูศักยภาพเศรษฐกิจ
จีนแห่ ‘โคมไฟปลา’ แหวกว่ายส่องสว่างในอันฮุย
"พิพัฒน์" ตรวจเยี่ยมเอกชน ต้นแบบอุตสาหกรรม ผลิตด้วยเทคโนฯ AI พร้อมเร่งนโยบาย up skill ฝีมือแรงงานไทย
ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น