วันที่ 3 สิงหาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 89 หมู่ 4 ต.เมืองลีง อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ พบหนุ่มสู้ชีวิตวัย 40 ปี ชื่อว่า นาย นาน จงรัมย์ เดินแบกไม้ไผ่ลำใหญ่ มาทำแคร่ขาย โดยจะผลิตตามออเดอร์ที่ชาวบ้านได้สั่งจองไว้ ในทุกวัน นาย นาน จะเดินทางไปตัดต้นไผ่มา 4-5 ลำ เพื่อใช้ผลิตแคร่ ขนาดจะอยู่ที่ 1.5 คูณ 3 เมตร ระยะเวลาในการทำแต่ละอันนานเต็มวัน ซึ่งถือว่าเป็นงานฝีมือต้องใช้ความปราณีตและความชำนานอย่างมาก
สำหรับนายนาน บุคคลที่ชาวบ้านยกย่องว่าเป็นคนขยันและอดทน มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ผลิตและจำหน่ายแคร่ในราคาเกื้อหนุนกัน พออยู่ได้ ในราคาเพียง 200-300 บาทและเป็นการช่วยเหลือชาวบ้านที่ต้องการแต่ทุนทรัพย์น้อย จนชาวบ้านเห็นถึงความขยันหมั่นเพียรจึงอนุเคราะห์ไม้ไผ่จากสวน ให้นาย นาน ไปตัดมาใช้ทำแคร่ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
นาย นาน จงรัมย์ อายุ 40 ปี ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ชีวิตตนสุดรันทด อาศัยอยู่บ้านหลังน้อยๆเพียงลำพัง มีลูกสาว 1 คนเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 2 ส่วนภรรยาได้เลิกรากันไปราว 2 ปีแล้ว ลูกสาวไปอยู่กับยายที่บ้านอีกหลังในหมู่บ้านเดียวกัน โดยก่อนจะมีสถานการณ์โรคโควิดระบาด ตนมีอาชีพรับจ้างเป็นช่างก่อสร้างอยู่ในกรุงเทพฯ พอมีเงินได้ส่งเสียลูกสาว ซึ่งหลังจากได้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 งานที่เคยทำก็หดหายไป ไม่มีใครมาจ้าง ตนจึงเดินทางกลับมาตั้งหลักที่บ้านเกิด และได้ใช้ความรู้เดิมที่เคยร่ำเรียนมาจากคุณตาเมื่อสมัยท่านยังอยู่ คือทำเครื่องจักสานจากไม้ไผ่ สานข้องใส่ปลา สานตะกร้า และทำแคร่ไม้ไผ่ เป็นต้น โดยจะทำตามใบสั่งจองของชาวบ้าน และส่วนใหญ่จะเป็นแคร่ไม้ไผ่ โดยราคาจะคิดอยู่ที่ 200-300 บาท พอได้เก็บเล็กผสมน้อยส่งเสียลูกสาวเรียนหนังสือ
นายนาน เล่าต่ออีกว่า ตอนนี้ตนลำบากมาก จึงอยากให้หน่วยงานรัฐ ช่วยส่งเสริมอาชีพ และสนับสนุนทุน ให้มีเครื่องมือเครื่องใช้ทำมาหากินเลี้ยงชีพและเลี้ยงลูกต่อไป
จากการสอบถามชาวบ้านเพิ่มเติม ทราบว่านาย นาน เป็นบุคคลที่ขยันขันแข็ง ไม่ค่อยอยู่นิ่ง พ่อแม่เขาตายตั้งแต่เล็ก ไม่มีทรัพย์สมบัติไร่นาทำกิน หาสู้ชีวิต ตอนนี้ก็ชาวบ้านมาสั่งทำแคร่ไม้ไผ่ ทำบันไดไม้ไผ่ และทำเบ็ดตกปลาไม้ไผ่ เขาก็เรียกค่าจ้างแค่พออยู่ได้ พอมีเงินซื้อข้าวซื้อน้ำให้ลูกไปเรียน.
ภาพ/ข่าว กฤษดากร กีรติธำรงค์เจริญ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สุรินทร์