"ฝีดาษลิง" ลามต่อ ล่าสุด พบผู้ป่วยเพิ่มเป็นรายที่ 3 ในภูเก็ต เป็นนักท่องเที่ยวชาวเยอรมนี คาดติดเชื้อก่อนเข้าประเทศ
ข่าวที่น่าสนใจ
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เผยหลังการประชุมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขว่า มีรายงานพบผู้ติดเชื้อฝีดาษวานรหรือ “ฝีดาษลิง” (Monkeypox) ยืนยันรายที่ 3 เป็นผู้ป่วยชายสัญชาติเยอรมนี วัย 25 ปี เดินทางเข้าไทยเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมาในจ.ภูเก็ต ซึ่งทางจังหวัดกำลังจะรายงานไทม์ไลน์ผู้ป่วยมาให้กรมควบคุมโรค
เบื้องต้น ยังไม่พบผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง ให้สังเกตอาการ 21 วัน โดยสามารถไปไหนมาไหนได้โดยระวังการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้อื่น ส่วนผู้ติดเชื้อพบประวัติเมื่อเดินทางเข้าไทยไม่นานก็เริ่มมีอาการ จึงคาดว่า น่าจะติดเชื้อจากต่างประเทศ
ทั้งนี้ ผู้ป่วยก็เริ่มมีอาการเบื้องต้น ได้แก่
- ไม่ไข้ ต่อมน้ำเหลืองโต
- ต่อมาผื่นขึ้นเริ่มจากอวัยวะเพศและไปตามร่างกาย
ทั้งนี้ ข้อมูลทั่วโลกพบว่า ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องอยู่ในโรงพยาบาลทุกรายมีเพียง 9% ที่ต้องอยู่รพ.เพื่อควบคุมโรค ดังนั้น มาตรการของเราในอนาคต หากผู้ป่วยไม่มีปัญหาสุขภาพ สามารถรักษาตัวที่บ้านได้ (Home Isolation)
ส่วนเรื่องวัคซีนป้องกันโรค ทางองค์การเภสัชกรรมกำลังประสานติดต่อคาดว่าไม่เกินเดือนนี้ ซึ่งคณะกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค กำหนดกลุ่มเป้าหมายไว้ 2 กลุ่ม คือ
1. กลุ่มที่ยังไม่มีประวัติติดเชื้อแต่ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดโรค เช่น
- บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข
- เจ้าหน้าที่ห้องแล็บ
2. มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยฝีดาษลิง แต่ไม่เกิน 14 วันหลังจากสัมผัสครั้งสุดท้าย
ด้านยารักษาโรค ขณะนี้ มีข้อมูลบ่งชี้ว่า สามารถหายเอง อย่างผู้ป่วย 2 รายแรกของไทย อาการดีขึ้น โดยไม่ต้องรับยาต้านไวรัส แต่ยาอาจมีความจำเป็นในกลุ่มผุ้ป่วยที่ภูมิคุ้มกันไม่ดี หรือร่างกายอ่อนแอ ทั้งนี้ ข้อมูลทั่วโลกพบผู้ติดเชื้อแล้ว 20,000 ราย เสียชีวิต 3-4 ราย มีโรคประจำตัว เช่น มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ภาวะแทรกซ้อนสมองอักเสบ ฉะนั้น ยาจะมีความจำเป็นเฉพาะกลุ่ม ไม่ใช่ทุกรายที่ต้องรับยา
ทั้งนี้ กรมการแพทย์ได้ประกาศแนวทาง หากพบผู้ป่วยที่สังสัยป่วย ขอให้รับเป็นผู้ป่วยในรพ. (Admit) เพื่อให้ได้การวินิจฉัยที่แน่นอน และเพื่อการควบคุมโรคไปในตัว โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยืนยันว่า สามารถตรวจเชื้อได้ใน 24 ชั่วโมง อย่างเร็วที่สุดคือ 3-4 ชั่วโมง
ข้อมูล : hfocus
ข่าวที่เกี่ยวข้อง