ศาลฏีกาสั่งจำคุก “ส.ส.ธณิกานต์” เสียบบัตรแทนกัน

ศาลฏีกาสั่งจำคุก "ส.ส.ธณิกานต์" ปมเสียบบัตรแทนกัน

วันที่ 3 ส.ค. 65 ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืององค์คณะผู้พิพากษา อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ 19/2564คดีที่ อัยการสูงสุดยื่นฟ้อง น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ (ตำแหน่งขณะก่อนถูกสั่งยุติปฏิบัติหน้าที่)

โดยโจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 8 ส.ค.62 เวลากลางวัน จำเลยดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่ 7 (บางซื่อ – ดุสิต) กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ ลงชื่อเข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 25ปีที่ 1ครั้งที่ 14 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) ซึ่งมีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติเหรียญราชรุจิ รัชกาลที่ 10 พ.ศ. … โดยไม่ได้ลาประชุม แต่ไม่ได้อยู่ในที่ประชุม จำเลยฝากบัตรอิเล็กทรอนิกส์แสดงตนและลงมติของจำเลยกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรายอื่น หรือบัตรของจำเลยอยู่ในความครอบครองของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรายอื่นโดยความยินยอมของจำเลย เพื่อให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรายนั้นใช้บัตรของจำเลยกดปุ่มแสดงตนและลงมติแทนจำเลยในการพิจารณาร่างพรบ.เหรียญราชรุจิ รัชกาลที่ 10พ.ศ. … วาระที่ 1 โดยมีเจตนาทุจริตแสวงหาประโยชน์เพื่อตนเองหรือผู้อื่น หรือมีพฤติการณ์ที่รู้เห็นหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้ตำแหน่งหน้าที่ของตนแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการออกเสียงลงคะแนนแทนกัน อันเป็นการกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง เป็นเหตุให้สภาผู้แทนราษฎรปวงชนชาวไทยผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย รวมทั้งกระบวนการตรากฎหมายของฝ่ายนิติบัญญัติได้รับความเสียหาย ขอให้ลงโทษตามพรป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561มาตรา 172 จำเลยให้การปฏิเสธ

เมื่อพิจารณาพยานหลักฐานตามทางไต่สวนของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ประกอบสำนวนการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. และแถลงปิดคดีของจำเลยแล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยไม่ได้ร่วมประชุมและลงมติร่างพรบ.เหรียญราชรุจิ รัชกาลที่ 10 พ.ศ. … ไม่มีความผิดพลาดหรือบกพร่อง ดังนี้ เมื่อจำเลยไม่ได้อยู่ในที่ประชุม สภาผู้แทนราษฎรขณะที่มีการลงมติ แต่มีการนำบัตรอิเล็กทรอกนิกส์ของจำเลยไปใช้ลงมติ ประกอบกับระบบลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ไม่มีความผิดพลาดหรือบกพร่อง และช่องเสียบบัตรลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่เพียงพอต่อการใช้งานของส.ส.เป็นช่องทางให้สามารถนำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของ ส.ส.รายอื่นมาลงมติได้ พฤติการณ์ดังกล่าว

ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยฝากบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของจำเลยกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรายอื่น หรือบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของจำเลยไปอยู่ในความครอบครองของส.ส.รายอื่น โดยจำเลยยินยอมให้ส.ส.รายนั้นใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของจำเลยแสดงตนและลงมติแทนจำเลย

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เมื่อการออกเสียงลงคะแนนในการพิจารณาร่างพรบ.ของ ส.ส.เป็นสิทธิเฉพาะตัวของ ส.ส.ซึ่งเข้าประชุมและอยู่ใน ที่ประชุมในขณะที่มีการออกเสียงลงคะแนนเท่านั้น การกระทําใดเพื่อใหเมีการออกเสียงลงคะแนนแทนกันจึงเป็นการขัดต่อหลักการออกเสียงลงคะแนนตาม รัฐธรรมนูญมาตรา 120 วรรคสาม ที่ให้สมาชิก คนหนึ่งมีเสียงหนึ่งในการออกเสียงลงคะแนน และไม่ชอบดเวยข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2551ข้อ 72 วรรคสาม ที่กำหนดว่า การออกเสียงลงคะแนนจะกระทำแทนกันไม่ได้ อันเป็นนการออกเสียงลงคะแนนที่ไม่สุจริต มีผลทําให้การออกเสียงลงคะแนนของสภาผู้แทนราษฎรในการประชุมพิจารณานั้นไม่เป็นไปตาม เจตนารมณ์ที่แท้จริงของผู้แทนปวงชนชาวไทย

การกระทำของจำเลยจึงก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน และสภาผู้แทนราษฎรอันเป็นองค์กรที่ทําหน้าที่นิติบัญญัติแล้ว แม้จะไม่ทำให้กระบวนการตรากฎหมายเสียไปการกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่ง หรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด และการที่จำเลย ซึ่งมีหน้าที่พิจารณาร่างพระราชบัญญัติต่าง ๆ แต่กลับฝากบัตร อิเล็กทรอนิกส์ของจำเลยกับ ส.ส.รายอื่นหรือบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของจำเลยไปอยู่ในความครอบครองของส.ส.รายอื่น โดยจำเลยยินยอมให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรายนั้นใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของจำเลยแสดงตนและลงมติแทนจำเลย เป็นผลให้ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีที่จำเลยอาศัยโอกาสในการปฏิบัติงานในหน้าที่ของตนเป็นช่องทางในการแสวงหาประโยชน์อันมิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเอง ถือได้ว่าเป็นปฎิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตแล้ว การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตด้วย

อย่างไรก็ตามมูลเหตุที่ทำให้จำเลยกระทำความผิดครั้งนี้เกิดจากจำเลยต้องไปเป็นวิทยากร ในงานเสวนาแบ่งปันความรู้บทบาทแม่ยุคดิจิทัลที่ห้องประชุมชั้น 5 สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ ตามโครงการกิจกรรมเวทีสาธารณะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้กับแม่และเด็กในชุมชน หัวข้อเรื่องการเลี้ยงดูลูกในยุคสมัยดิจิทัล ที่จัดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา พรบ.เหรียญราชรุจิ รัชกาลที่ 10พ.ศ. … ซึ่งเป็นกฎหมายที่สำคัญ ประกอบกับร่าง พรบ.เหรียญราชรุจิ รัชกาลที่ 10พ.ศ. … ประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายแล้ว

 

พฤติการณ์แห่งคดีจึงเป็นเรื่องที่ไม่ร้ายแรงมากนัก เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยกระทำผิดหรือได้รับโทษจำคุกมาก่อน กรณีมีเหตุสมควรปรานีแก่จำเลยเพื่อให้โอกาสจำเลยกลับตัวประพฤติตนเป็นพลเมืองดีต่อไป แต่เพื่อให้จำเลยหลาบจำ เห็นควรลงโทษปรับจำเลยในสถานหนัก

พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพรบ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561มาตรา 172จำคุก 1ปี และปรับ 2 เเสนบาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา56หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29,30กรณีต้องกักขังแทนค่าปรับให้กักขังไม่เกิน 1 ปี

มูลเหตุคดีนี้คณะกรรมการป.ป.ช.ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาขอให้วินิจฉัยว่า จำเลยซึ่งเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงตาม พรป. ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561มาตรา 87ตามคดีหมายเลขดำที่ คมจ. 2/1564 ซึ่งอยู่ในระหว่างที่ศาลฎีกานัดพร้อมในวันที่ 16 ส.ค.65เวลา 09.00น. เพื่อรอฟังผลคดีนี้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน
สถาปนาเขตพื้นที่คุ้มครองฯ ชาติพันธุ์ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น