“อดีต รมว.คลัง” ชี้จีนซ้อมรบรอบเกาะไต้หวัน ปิดตาย 3 ท่าเรือสำคัญ

ดังนั้นสามท่าเรือนี้คือจุดลำหักลำโค่นของเกาะไต้หวัน
เนื่องจากเศรษฐกิจไต้หวันมีการนำเข้าส่งออกสูงถึง 1.24 เท่าของจีดีพี เรียกได้ว่าถ้าหากค้าขายต่างประเทศไม่ได้ ไต้หวันก็มีแต่จะเหี่ยวเฉา ประตูเข้าออก ถ้าไม่สามารถใช้สามท่าเรือนี้ ก็จบเห่

นานธีระชัย ระบุต่อว่า จีนประกาศเขตซ้อมรบ 6 จุด จะเห็นได้ว่า จุด A6 นั้น ปิดทางเข้าออกท่าเรือเกาสงแบบสนิทแน่น จุด A2 และ A3 ก็ปิดทางเข้าออกท่าเรือจีหลงกับไทเปอย่างหมดจดเช่นกัน ในระหว่างซ้อมรบด้วยกระสุนจริง ย่อมไม่มีเรือสินค้าพาณิชย์กล้าเข้าออกท่าเรือเหล่านี้ การค้าจะสะดุดอยู่ 3 วันในช่วงซ้อมรบ นอกจากนี้ ถ้าดูจุด A4 และ A5 จะแปลกใจว่า ทำไมจีนไปกำหนดจุดที่ห่างไกลเกาะไต้หวัน ทั้งที่จุดอื่นๆ กำหนดประชิดตัวเกาะ

ตนไม่ทราบเหตุผล แต่เดาว่า เป็นจุดที่จีนจะซ้อมยิงจรวด จากแผ่นดินใหญ่ ให้บินข้ามเกาะ ไปตกในจุด A4 และ A5 และเดาว่า จีนน่าจะเล็งให้จรวดเหล่านี้ บินผ่านเมืองไทเป และเมืองเกาสง ซึ่งเป็นสองสนามบินหลักของไต้หวัน และแน่นอนว่าในระหว่างซ้อมรบด้วยกระสุนจริง ย่อมไม่มีเครื่องบินพาณิชย์กล้าใช้สองสนามบินนี้ การเดินทางจะสะดุดอยู่ 3 วันในช่วงซ้อมรบ

อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง วิเคราะห์ปิดท้ายว่า ในห้วงเวลา 3 วัน คนในไต้หวันจะตระหนักถึงจุดอ่อนของสภาพเกาะขนาดเล็ก ที่ถูกปิดล้อมได้ ไต้หวันจะฝ่าวงล้อมออกไป หรือสหรัฐจะช่วยทลายวงล้อม ก็จะต้องรบกันเท่านั้น และถ้าหากไต้หวันรบกับจีน สหรัฐจะไม่สามารถทำตัวเป็นนักรบหลังฉาก เทียบกับยูเครน สหรัฐส่งอาวุธได้ทางบกผ่านโปแลนด์ และแม้แต่ขนย้ายทหารยูเครนออกไปฝึกใช้อาวุธชั่วคราวในเยอรมนีและอังกฤษ แต่สหรัฐจะไม่มีหนทางส่งอาวุธให้ไต้หวันได้เลย ไม่ว่าทางเรือ หรือทางอากาศ รวมถึงยุโธปกรณ์ และวัสดุของใช้ที่จำเป็น จะไม่มีทางเข้าออกได้เลย สหรัฐจะต้องออกแรงรบหน้าฉาก หรือต้องใช้วิธีอภิมหาแซงชันแทน นางเพโลซีกลับใด้ให้โอกาสจีนแสดงหนังตัวอย่างให้ประชาชนใต้หวัน ที่จะต้องคิดหนัก