เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (4 ส.ค.2565 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณทางเข้าตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ บรรดาชาวกัมพูชา กว่า 30 คน ที่อาศัยอยู่บริเวณตลาดการค้าชายแดนช่องจอมและในพื้นที่ ต.ด่าน ได้รวมตัวกันพร้อมถือป้ายขอบคุณ โดยมีข้อความว่า”ชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่ในตลาดช่องจอม ขอขอบพระคุณประเทศไทยและจังหวัดสุรินทร์ ที่อนุญาตให้ผู้ใช้หนังสือเดินทางบอเดอร์พาส อยู่ในไทยได้ 7 วัน ทำให้เกิดความสะดวกโดยทั่วกัน หลังจากจังหวัดสุรินทร์ ได้มีการขยายระยะเวลาให้ชาวกัมพูชาที่มีหนังสือเดินทางบอเดอร์พาส อยู่ในประเทศไทยได้ 7 วัน จากเดิมก่อนหน้านี้อยู่ได้เพียง 3 วัน ส่งผลให้ชาวกัมพูชาที่เดินทางมาซื้อขายสินค้าและท่องเที่ยว รวมทั้งรักษาพยาบาลในพื้นที่ จ.สุรินทร์ ได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจชายแดนไทย ที่จะทำให้ชาวกัมพูชา รู้สึกมั่นใจในความสะดวกที่จะเดินทางเข้ามาซื้อขาย ท่องเที่ยว รวมทั้งมารักษาพยาบาลใน จ.สุรินทร์ และประเทศไทย มากขึ้น หลังจากซบเซาและเงียบเหงามาเกือบ 3 ปีจากพิษโควิด-19
โดย จ.สุรินทร์ได้ดำเนินการตามมาตรการของ ศคบ.และกระทรวงมหาดไทย หลังจากมีหนังสือลงวันที่ 26 เม.ย.65 แจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดที่มีพื้นที่ติดแนวชายแดนให้มีการผ่อนคลายมาตรการการเดินทางเข้าออกของบุคคลผ่านช่องทางผ่านแดนถาวรทางบกและให้พิจารณาเปิดด่านผ่านแดนถาวรทางบก ซึ่ง จ.สุรินทร์ ได้มีการพิจารณาและทำการเปิดด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม ตั้งแต่วันที่ 6 พ.ค.2565 ที่ผ่านมา
ขณะที่บรรยากาศที่หน้าประตูด่าน จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม-โอรเสม็ด พบว่ามีชาวกัมพูชาทยอยเดินทางข้ามแดนมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งแบบใช้หนังสือเดินทางบอเดอร์พาสและพาสปอร์ต ซึ่ง จนท.ตรวจคนเข้าเมือง จ.สุรินทร์ ได้มีการเปิดให้ชาวกัมพูชาที่มีหนังสือเดินทางบอเดอร์พาส อยู่ใน จ.สุรินทร์ ได้ 7 วันมาแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.2565 ที่ผ่านมา และพบว่าในแต่ละวันจะมีชาวกัมพูชา ที่ใช้หนังสือเดินทางพาสปอร์ตและบอเดอร์พาส เดินทางเข้ามาในพื้นที่วันละประมาณ 500 คนต่อวัน
นายชาย เฮง ชาวกัมพูชา กล่าวว่า ขอขอบคุณประเทศไทยและ จ.สุรินทร์ ที่เพิ่มระยะเวลาบอเดอร์พาสต์จาก 3 วัน เป็น 7 วัน ทำให้ชาวกัมพูชาสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องเดินทางกลับไปปั้มบอเดอร์บ่อยๆแถมยังไม่ต้องเปลืองน้ำมันเดินทางบ่อยอีกด้วย
ด้านนายพัฒนา ชื่นยง ผจก.อาวุโส ตลาดการค้าชายแดนช่องจอม กล่าวว่า ชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่บริเวณชายแดนช่องจอม และในพื้นที่ จ.สุรินทร์ ต่างรู้สึกดีใจ ที่มาตรการของรัฐบาลได้คลี่คลายในเรื่อง บอเดอร์พาส ซึ่งเดิมอยู่ได้ 3 วัน ขณะนี้ได้ขยายอยู่ได้ 7 วัน เขาจึงดีใจและขอบคุณในมาตรการดีๆแบบนี้ของรัฐบาลและ จ.สุรินทร์ ตนเองก็รู้สึกว่ามาตรการเหล่านี้เป็นมาตรการเริ่มต้น ในการที่จะทำให้ชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่ หรือคนที่ตั้งใจมาซื้อของมาซื้อสินค้า มาเที่ยว มารักษาพยาบาล ก็ได้ใช้บอเดอร์พาสเดินทางมา เพื่อทำภารกิจให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ โดยไม่ต้องเร่งรีบและระแวงเลาที่สั้นเกินไป ในนามของชาวตลาดและคนที่ดูแลในบริเวณนี้ ก็ขอขอบคุณรัฐบาลไทยและ จ.สุรินทร์ รวมถึง อบจ.สุรินทร์ ที่คอยผลักดันช่วยเหลือ ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบมีมาตรการดีขึ้นมาโดยตลอด ส่วนเศรษฐกิจชายแดนช่องจอมแห่งนี้ดีขึ้นตามลำดับ หลังจากสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลายลง ซึ่งชาวกัมพูชาเองก็นิยมมาซื้อสินค้าที่ฝั่งไทย เริ่มทยอยมื้ออย่างไม่ขาดสาย ประกบอกับรัฐบาลและจังหวัดสุรินทร์ได้มีมาตรการอำนวยความสะดวกก็ถือว่าเป็นกลไกหนึ่งที่ทำให้ให้ชาวกัมพูชาอยากเข้ามาซื้อสินค้ามากขึ้น
และในวันหยุดยาววันแม่ 12 สิงหาคมที่จะถึงนี้ ก็ขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยทั้งต่างจังหวัดและในจังหวัดก็ขอให้แวะเข้ามาเที่ยวเลือกซื้อสินค้าที่ตลาดชายแดนช่องจอมแห่งนี้ มีเส้นทางที่สะดวกสบาย มีสินค้าให้เลือกมากมาย ทั้งสิ้นค้าของไทยและสินค้าพื้นบ้านกัมพูชา ในราคาที่ไม่แพง แม้ตลาดชายแดนช่องจอมจะอยู่ในช่วงรื้อถอนและก่อสร้างปรับปรุงตลาดและสร้างอาคารสินค้าที่แข็งแรง ก็มีเจ้าหน้าที่ให้คอยสอบถามและอำนวยความสะดวกอยู่ตลอดเวลา.
ศูนย์ข่าวภูมิภาค TOP NEWS ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ