วานนี้ที่สภาเกิดปรากฎการสภาล่มอีกครั้ง ระหว่างที่รัฐสภากำลังประชุมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม พ.ศ. โดยงานนี้ปรากฎว่ามีองค์ประชุมอยู่ในสภาแค่ 357 เสียงขาดแค่ 7 เสียง จากจำนวนส.ส.และส.ว.ทั้งสิ้นในสภา 727 คน โดยส่วนใหญ่เป็นส.ว.สาย “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ที่มีอยู่ในห้องราว 150 คน ส่วนที่เหลือเป็นส.ส.พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ และ พรรคก้าวไกลเป็นส่วนใหญ่ ที่ทั้งหมดล้วนแล้วแต่ยืนกรานหนุนสูตรหาร 500 ส่วนที่หายไปหลักๆคือส.ว.ปีก “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่หายตัวไปเรียบวุดเกือบ 100 คน โดยนั่งอยู่แต่ใช้วิธีไม่แสดงตนเป็นองค์ประชุม ส่วนที่เหลือก็เป็นส.ส.พรรคใหญ่ 2 พรรค คือ พรรคแกนนำรัฐบาลอย่างพรรคพลังประชารัฐ กับ ส.ส.ทั้งหมดของพรรคเพื่อไทย
ตีความเป็นอื่นไม่ได้เลย งานนี้ต้องบอกว่าเป็นการสมรู้ร่วมคิดของ 3 ฝ่าย คือ 1. ส.ว.สายลุงป้อม 2.พรรคพลังประชารัฐ และ 3. พรรคเพื่อไทย ที่ล้วนแล้วแต่เป็นขั้วยืนกรานสูตรหาร 100 แบบหัวเด็ดตีนขาดกูก็จะเอาแบบนี้ เป้าหมายปลายทางไม่ต้องบอกก็รู้ว่าต้องการอะไร ชัดเจนว่าส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้ที่ประชุมร่วมรัฐสภาพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ที่กำลังต่อคิวเข้าสู่การพิจารณาของรัฐบสภาได้เดินหน้าสำเร็จ งานนี้จึงได้เล่นเกมส์ด้วยการไม่ยอมแสดงตนเป็นองค์ประชุมในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม โดยมีเป้าหมายให้ร่างกฎหมายลูกดังกล่าวพิจารณาไม่ทันตามกรอบที่รัฐธรรมนูญกำหนดภายใน 180 วัน หรือสิ้นสุดในวันที่ 15 ส.ค. นี้ พูดง่ายๆคือจะมำให้สูตรหาร 500 ตกไป แล้วจะได้คืนชีพสูตรหาร 100 กลับมาแทน
ถามว่าแล้วทำไมพรรคพลังประชารัฐถึงโง่เดินตามเกมส์พรรคเพื่อไทย ทั้งๆที่รู้ว่าสูตรหาร 100 มันจะกลับไปเข้าทางแลนด์สไลด์ฝ่ายทักษิณเข้าทางตีนพรรคเพื่อไทยแบบเต็มๆ ทั้งที่ๆความจริงการใช้สูตรหาร 500 ไม่ได้ทำให้พรรคพลังประชารัฐเสียหายมากเท่าไหร่ หากเทียบกับพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีแนวโน้มจะได้ส.ส.เขตมากขึ้นและอาจส่งผลทำให้ไม่ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อเลย เหมือนอย่างที่ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ออกมาพูดไปก่อนหน้านี้ว่าอาจไม่ได้ปาร์ตี้ลิสต์แม้แต่คนเดียว อย่างไรก็ตามสิ่งที่เราควรชื่นชมพรรคสีฟ้ากับพรรคใบเขียวอย่างที่สุดก็คือ แม้จะรู้ว่าการยืนยันสูตรหาร 500 อาจทำให้พรรคได้ส.ส.น้อยลงหรือไม่ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อเลย แต่ทั้ง 2 พรรคก็ยังมั่นคงในการยืนตามสูตรหาร 500 ตามยุทธศาตร์กีดกันพรรคเพื่อไทยบล็อคส.ส.ฝ่ายแม้วไม่ให้ชนะการเลือกตั้งถล่มทลาย แม้จะเจ็บแม้จะต้องเฉือนเนื้อตัวเอง แต่มั่นใจว่าปลายทางชัยชนะรออยู่ได้เป็นรัฐบาลแน่ถ้าสู้ด้วยสูตรหาร 500
ตรงข้ามกับพรรคพลังประชารัฐที่ไร้จุดยืน กลับไปกลับมาไม่มีที่สิ้นสุด ทั้งๆที่พล.อ.ประยุทธ์เคยปิดห้องคุยระหว่างประชุมครม.กับแกนนำพรรครัฐบาลทุกคนแล้ว ว่า “ธง” ของพรรคร่วมรัฐบาลต้องเดินตามสูตรหาร 500 หากจะเอาชนะทักษิณ แต่สุดท้ายก็เป็นพรรคพลังประชารัฐเองที่ทรยศหักหลังไม่เอาตามสิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ขีดเส้นกำหนดไว้ ประเด็นคว่ำสูตรหาร 500 มองอย่างอื่นไม่ได้เลย นอกจากมันกลับมาอีกแล้ว สำหรับ “ขบวนการล้มประยุทธ์คว่ำบิ๊กตู่” ข่าวว่า วานนี้ที่สถาล่มมีคนใกล้ชิดบิ๊กป้อม ที่ไม่ต้องบอกคนการเมืองก็รู้ว่าใคร คนหนึ่งทหาร คนหนึ่งตำรวจ สีเขียวคนแรกคือเพื่อนรักตท.6 ที่เป็นข้ารับใช้ใกล้ชิด กินอยู่หลับนอนร่วมหัวจมท้ายด้วยกันมาตลอด ส่วนคนที่สองเป็นสีกากี เจ้าของรหัส “ป ที่ 4” ผู้มีบารมีนอกรัฐบาล เป็นคนเดินเกมส์ไล่โทรไล่เช็ครวมถึงไล่ตะเพิดส.ส.และส.ว.ในสภาให้กลับบ้านไป หรือถ้าอยู่ก็อย่าแสดงตนเป็นองค์ประชุม โดยหวังให้สภาล่มให้เวลาประชุมร่วมของส.ส.และส.ว.ในเรื่องนี้ หดน้อยลงไปอีก จบจากสัปดาห์นี้ก็เหลือแค่อาทิตย์หน้าอย่างเดียว คือ 9- 10 ส.ค. ที่พอจะประชุมร่วมรัฐสภาได้ ก่อนครบกำหนด 15 ส.ค. ข่าวว่าตอนนี้แม้เหลือเวลาแค่ 2 วัน แต่ก็มีความพยายามจะใบสั่งไปถึงพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภาให้ปล่อยวางเรื่องประชุมร่วม อ้างไปว่าส.ว.มีกฎหมายต้องพิจารณา ใช้เทคนิคในสภายื้อเกมส์ยาวไปเรื่อยๆ ทำยังไงก็ได้ให้สูตรหาร 500 ไม่ทันวาระ 3 ในสภา ใน 15 ส.ค.
แสบไหมล่ะ 2 คนนี้เข้าขั้น “ทิงเจอร์เรียกพี่” หรือ “แอลกอฮอร์เรียกนาย” เพราะจองเวรล้มพล.อ.ประยุทธ์มาตลอด ที่ผ่านมาก็เป็น 2 คนนี้แหละที่ก่อการใหญ่คิดเลื่อยขาพล.อ.ประยุทธ์ หวังคว่ำสร.1มานานนม แถมยังเป็นฝ่ายเดียวกับ “ผู้กองม้าพยศ” ที่ออกมาก่อหวอดป่วนนายกฯตั้งแต่แรกยันจบ เป้าหมาย 2 คนนี้ก็ไม่มีอะไรมาก อยากให้เพื่อนรักอย่างพี่ป้อมอยากให้พี่เลิฟอย่างพล.อ.ประวิตร ขึ้นฝั่งฝันนั่งเป็น “นายกรัฐมนตรี” คนต่อไปของประเทศไทยเสียที เพราะคิดว่าแบกบิ๊กตู่เป็นนั่งร้านให้นายกฯมา 2 สมัย เกือบ 8 ปีแล้ว มันถึงเวลาที่ “เพื่อนกู-พี่กู” จะได้นั่งบนหอคอยงาช้างตึกไทยคู่ฟ้าเสียที ชั่วโมงนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีที่สุดหากหวังจะล้มบิ๊กตู่คว่ำพล.อ.ประยุทธ์ เพราะในพรรคพลังประชารัฐเองก็กำลังระส่ำหนักว่าจะไปทางไหนดีระหว่างสูตรหาร 500 กับสูตรหาร 100 งานนี้เลยเป็นโอกาสดีให้คนคิดชั่วแทรกกลางเข้าไปเขย่าความกลัวหาแนวร่วมจากแกนนำในพรรคพลังประชารัฐได้
จับมือทำชั่วครั้งนี้ระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับพรรคเพื่อไทย ประวัติศาสตร์การเมืองปี 2565 คงจารึกไว้นิรันดร์ เพราะฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาลสมรู้ร่วมคิดล่มสภา กระทืบสูตรหาร 500 ให้แหลกคาตีน เกือบ 180 วันที่กมธ.วิสามัญฯพิจารณากฎหมายลูกกันมา ค่าข้าวแดงแกงร้อน ค่าน้ำร้อนน้ำชา ค่าเบี้ยประชุม นับล้านๆบาท ใครจะรับผิดชอบ อุบาทว์แท้เปลืองภาษีคนไทยฉิบหายเลย พลังประชารัฐกับเพื่อไทยจับมือร่วมรักผสมพันธุ์การเมืองกันคราวนี้ คิดเป็นอื่นไม่ออก คิดดีๆไม่ได้เลย นอกจากต้องตั้งคำถามแรงๆ กลับไป คงมีดีลลับระหว่างพี่ใหญ่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ กับ นายห้างดูไบคนแดนไกล จับมือกันไว้แล้ว คว่ำบิ๊กตู่ปิดทางประยุทธ์ อนาคตจับมือกันตั้งรัฐบาล สวาปามอำนาจแบ่งผลประโยชน์ร่วมกัน ชูพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์เป็นนายกฯ หามพล.อ.ประวิตรขึ้นเป็นสร.1 นิรโทษกรรมเปิดทางทักษิณกลับบ้าน แบ่งเค้กแชร์เก้าอี้รัฐมนตรีบริหารประเทศ คิดนะมันง่ายแต่ทำจริงมันไม่สบายราบรื่นอย่างที่คิดหรอกนะ บอกได้เลยประเทศไทยศักดิ์สิทธิ์ แผ่นดินทองแห่งนี้มีพระสยามเทวาธิราชปกป้องคุ้มครองดูแล คนดีอยู่ยั้งยืนยง คนไม่ดีแพ้ภัยพาล ล้มหายตายจาก ไม่ก็ต้องระเห็จหนีไปอยู่ต่างประเทศ ตัวอย่างในอดีตคดีเก่าๆก็มีให้เห็นกันมามาก บิ๊กตู่อยู่มา 8 ปี บริหารประเทศมานาน เจอมรสุมปัญหาสารพัด ผ่านวิกฤติระดับโลกาวินาศมาแล้วมากมาย มีคนดดีคนเก่งคอยช่วยเหลือพะเรอเกวียน กฎเกมส์ตื้นๆของคนชั่วช้าแบบนี้ เอามาล้มลุงตู่คว่ำพล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้หรอก บารมี สมอง อำนาจ มันต่างชั้นกัน คิดชั่วกับบ้านเมืองระวังความชั่วจะวิ่งเข้าตัว
/////////////