"ราชทัณฑ์" ยันอดีตผู้กำกับโจ้ ไม่มีสิทธิพิเศษเหนือผู้ต้องขังรายอื่นชี้ ผู้ต้องขังทุกราย ได้รับสิทธิอย่างเท่าเทียมกันตามกฎหมาย” โต้ปมแชทลับ เป็นฝีมือคนภายนอก

กรณีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก ว่า ตนไม่เชื่อว่า พ.ต.อ. หรือ อดีตผู้กำกับโจ้ ไม่อุทธรณ์ และเยียวยาโจทก์ร่วม เพราะต้องการให้คดีถึงที่สุด เพื่อเข้าหลักเกณฑ์ได้รับอภัยโทษ ไม่ใช่มาจากความสำนึกผิด เนื่องจากเมื่อเดือนก่อนตนยังได้รับข้อความข่มขู่อาฆาต จาก ผกก.โจ้ ซึ่งถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ในเชิงลบว่า อดีตผกก.ชื่อดัง น่าจะได้รับสิทธิพิเศษเหนือนักโทษรายอื่น เพราะสามารถใช้โทรศัพท์มือถือในการติดต่อสื่อสารกับบุคคลภายนอกได้ และสามารถสั่งย้ายผู้คุมเรือนจำได้ด้วยนั้น

คืบหน้า ล่าสุด วันนี้ ( 4 ส.ค.) นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์และโฆษก กรมราชทัณฑ์ ชี้แจง กรณีสื่อมวลชนรายงานข่าว โดยอ้างถึงแชทลับที่เปิดเผยว่า อดีตผู้กำกับโจ้ ได้รับสิทธิพิเศษเหนือผู้ต้องขังรายอื่นในเรือนจำ พร้อมมีอำนาจสั่งย้ายผู้คุมได้ นั้น

ข่าวที่น่าสนใจ

กรมราชทัณฑ์ ขอชี้แจงว่า อดีตผู้กำกับโจ้ ซึ่งปัจจุบันถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำกลางคลองเปรม ได้รับการปฏิบัติเหมือนผู้ต้องขังทั่วไป ไม่มีอภิสิทธิ์หรือได้รับสิทธิพิเศษเหนือผู้ต้องขังรายอื่นตามที่เป็นข่าว เนื่องจากผู้ต้องขังทุกรายเมื่ออยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของกรมราชทัณฑ์ ย่อมได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน ตามกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชน ซึ่งรวมถึงอดีต ผู้กำกับโจ้ที่ย่อมได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับผู้ต้องขังรายอื่น ๆ และไม่ได้มีอำนาจในการสั่งย้าย ผู้คุมหรือเจ้าหน้าที่รายหนึ่งรายใดแต่อย่างใด

ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ ขอเรียนเพิ่มเติมว่า ภายในเรือนจำและทัณฑสถานทุกแห่ง ผู้ต้องขังทุกรายไม่สามารถใช้โทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์สื่อสารใดๆได้ ดังนั้น กรณีแชทลับดังกล่าวที่ถูกกล่าวถึง จึงไม่ได้ถูกส่งมาจากอดีตผู้กำกับโจ้ซึ่งอยู่ภายในเรือนจำฯ รวมถึงการสนทนาผ่านแชทดังกล่าว เป็นการสื่อสารของบุคคลภายนอกไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ต้องขังภายในเรือนจำ แต่อย่างใด

ราชทัณฑ์, อดีตผู้กำกับโจ้, ทนายตั้ม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“ราชทัณฑ์” โต้ “อดีตผู้กำกับโจ้” ไม่ใช่ V.I.P. เชื่อปมแชทลับฝีมือคนนอก