จังหวัดสุรินทร์ แถลงเตรียมจัดงาน”การแสดง แสง สี เสียงสืบสานตำนานช้างไทย” เพื่อส่งเสริมวิถีท่องเที่ยววิถีชุมชน

จังหวัดสุรินทร์ แถลงเตรียม จัดงาน"การแสดง แสง สี เสียงสืบสานตำนานช้างไทย"เพื่อส่งเสริมวิถีท่องเที่ยววิถีชุมชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.30 น. วันที 4 ส.ค.2565  ณ อาคารกิจกรรมวงเวียนพระครูปะกำ ศูนย์คชอาณาจักร บ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ขอเชิญชมร่วมงาน “การสืบสานตำนานช้างไทย” (กิจกรรมการแสดง แสง สี เสียง) การพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีชุมชน ระหว่างวันที่ 13 – 14 สิงหาคม 2565 ณ สนามแสดงช้างจังหวัดสุรินทร์ ตำบลนอกเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์ ด้านศิลปะวัฒนธรรม ประเพณี อารยธรรมอีสานใต้ และร่วมอนุรักษ์วิถีชีวิตคนกับช้างจังหวัดสุรินทร์ให้คงอยู่สืบไป

สำหรับจังหวัดสุรินทร์ในอดีต ประชากรประกอบด้วยชนชาติต่างๆ เช่น ชาวไทย-กูย ไทย-ลาว และไทย-เขมร ซึ่งปลูกข้าวมาแต่โบราณมีวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับข้าวมากมาย รวมถึงการเลี้ยงช้างเพื่อช่วยงานเกษตรกรรม และปัจจุบันเป็นแหล่งที่มีชื่อเสียงด้านการผลิตเมล็ดพันธุ์ ขาวดอกมะลิ เมล็ดพันธุ์ ข้าวที่บริสุทธิตรงตาม พันธุ์และมีปริมาณมากที่สุดในประเทศไทย รวมทั้งได้มีการส่งเสริมการทําเกษตรอินทรีย์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิอินทรีย์ เกษตรกรมีการปลูกข้าวหอมมะลิเป็นพืชหลักจนมีชื่อเสียง ซึ่งชาวสุรินทร์กล่าวว่า “ข้าวหอม มะลิสุรินทร์ หอม ยาว ขาว นุ่ม” สุรินทร์ยังเป็นจังหวัดหนึ่ง ที่มีวัฒนธรรมการทอผ้าไหมมานานและได้สืบทอดเป็นมรดกทางวัฒนธรรมมานานจนเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง และจังหวัดสุรินทร์ ยังเป็นเมืองเลี้ยงช้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีช้างเลี้ยงส่วนใหญ่ในพื้นที่ 3 อำเภอหลักๆ ประกอบด้วย อำเภอท่าตูม จำนวน 449 เชือก อำเภอชุมพลบุรี จำนวน 109 เชือก และอำเภอเมืองสุรินทร์ ประมาณ 60 กว่าเชือก ทั้งนี้ในพื้นที่ของอำเภอท่าตูมและอำเภอชุมพลบุรี ชนพื้นเมืองชาวกูยจะนิยมเลี้ยงช้างมาแต่โบราณ มีประวัติเล่าขานสืบต่อกันมาว่า มีชาวกูย ที่เรียกกันว่า “มะ เสดียง สดำ” สมัยก่อนนิยมไปจับช้างป่ามาเลี้ยงใช้งานในชีวิตประจำวันเสมือนสมาชิกในครอบครัว และนิยมใช้ช้างซึ่งเป็นสัตว์มงคลในการแห่ตามงานประเพณีและพิธีต่าง ๆ โดยเฉพาะที่บ้านตากลาง ตำบลกระโพ ซึ่งอยู่ห่างจากจังหวัดสุรินทร์ประมาณ 62 กิโลเมตร ชาวบ้านนิยมเลี้ยงช้างประจำบ้านไว้เป็นจำนวนมากซึ่งคนทั่วไปจะรู้จักบ้านตากลางในนาม “หมู่บ้านช้างบ้านตากลาง”

จังหวัดสุรินทร์ จึงได้เล็งเห็นความสำคัญในการพัฒนาการท่องเที่ยว เพื่อให้ภาคการท่องเที่ยวและการบริการของจังหวัดสุรินทร์ มีศักยภาพในการแข่งขันและการประชาสัมพันธ์ควบคู่กับการส่งเสริมการตลาดเชื่อมโยงกับการดำเนินงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในด้านการท่องเที่ยวที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพ จึงนำประวัติของชาวกูย หรือตำนานคนเลี้ยงช้างจังหวัดสุรินทร์ ชีวิตและความเป็นอยู่และการค้าขายของคนจังหวัดสุรินทร์ ในสมัยดั้งเดิมของคนสุรินทร์ การเล่าขานตำนานช้างไทย หรือตำนานของคนเลี้ยงช้างจังหวัดสุรินทร์ มาจัดงานเป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวขึ้นเป็นอีกหนึ่งโครงการ เพื่อเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศมาเที่ยวจังหวัดสุรินทร์และกระตุ้นเศรษฐกิจ รายได้และการบริการให้กับคนสุรินทร์เพิ่มมากยิ่งขึ้น

โดยจังหวัดสุรินทร์ได้จัดกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกัน เพื่อให้นักท่องเที่ยว ได้สนุกสนาน เพลิดเพลิน รวมทั้งชมความน่ารักของช้างสุรินทร์ ชมศิลปะวัฒนธรรมประเพณี ผ่านการแสดงแสงสีเสียง งานสืบสานตำนานช้างไทยภายใต้กรอบแนวคิด “เล่าขานตำนานช้างไทย คชศาสตร์คู่แผ่นดิน สืบสานหัตถศิลป์ สุรินทร์แดนผ้าไหมงาม” โดยมีองก์การแสดง(ฉาก) ดังนี้

องก์ที่ 1 รอยอารยะธรรมปราสาทตาเหมือน (ปราสาทสองแผ่นดิน สุรินทร์-กัมพูชา)
การเดินแบบแฟชั่นโชว์ ชุดขอมโบราณ “ศิราภรณ์แห่งศรัทธา ปราสาท 2 แผ่นดิน”
องก์ที่ 2 คชสารป้องปฐพี (ยุทธหัตถี)
องก์ที่ 3 การจับช้างป่า (โพนช้าง)
การเดินแบบแฟชั่นโชว์ “แพรพรรณห่มแผ่นดินถิ่นวิถีชาวสุรินทร์”
องก์ที่ 4 ตำนานความภักดีจารึกแผ่นดิน
องก์ที่ 5 วิถีช้าง วิถีชน ชาวสุรินทร์
การเดินแบบแฟชั่นโชว์ชุดฟินาเล่” “มหัศจรรย์ภูษาถักทอคุณค่างานช้างสุรินทร์”

จึงขอเชิญนักท่องเที่ยวทุกท่าน เที่ยวชมงาน“สืบสานตำนานช้างไทย” (กิจกรรมการแสดง แสง สี เสียง) การ
พัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีชุมชน ระหว่างวันที่ 13 – 14 สิงหาคม 2565 ณ สนามแสดงช้างจังหวัดสุรินทร์ ตำบลนอกเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ในครั้งนี้ด้วย.

 

ศูนย์ข่าวภูมิภาค TOP NEWS ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น