เวลา 21.00 น.วันที่ 4 สิงหาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พานทอง ได้รับแจ้งมีเหตุรถไฟชนรถ จยย.พังยับเยินบริเวณด่านที่กั้นเลียบคลองใหม่ หมู่ 5 ต.พานทอง อ.พานทอง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งรีบไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยสว่างอุทยานพานทองในที่เกิดเหตุพบรถ จยย.ฮอนด้า สกุ๊ปปี้ไอ สีฟ้า ทะเบียน 2 กฬ 688 ชลบุรี ล้มอยู่ในป่าหญ้าข้างทางรถไฟสภาพรถพังยับเยินเป็นเศษเหล็กและยังพบกับนางสาวภากร อินทฤทธิ์ อายุ 49 ปีชาว จ.ฉะเชิงเทรา อยู่ในอาการตกใจเดินหาชิ้นส่วนของรถ จยย.และยังพบถุงกับข้าวกระจายเกลื่อนทางรถไฟ
จากการสอบถามนางสาวภากร ได้เล่าว่าตนขับรถมาจากบ้านที่แปดริ้ว จ.ฉะเชิงเทรากำลังจะกลับที่ห้องพัก ต.ทีาข้าม จ.ฉะเชิงเทรา มาถึงที่เกิดเหตุเป็นทางรถไฟและมีที่กั้นลงมาในที่เกิดเหตุมืดมากและที่กั้นก็ไม่มีไฟเตือนที่จะทำให้รู้ว่าที่กั้นทำงานตนจึงมองไม่เห็นขับรถผ่านแล้วคอไปเกี่ยวกับเหล็กกั้นทำให้รถล้มลงแล้วรถก็ทับขาของตนอยู่จังหวะนั้นไม่มีใครผ่านมาเลยตนร้องขอความช่วยเหลือจนเจ็บคอแต่ไม่มีใครได้ยินเลยและจังหวะนั้นตนเห็นไฟของรถไฟวิ่งมาเร็วมากและมีเสียงแตรดังลั่นตนจึงตัดสินใจกระชากขาตัวเองออกจากรถแล้วพยายามดึงรถออกแต่ไม่ไหวตนจึงวิ่งออกจากรางรถไฟเพียงเสี้ยววินาทีรถชนก็วิ่งผ่านมาและชนรถ จยย.ของตนเต็มแรงจนกระเด็นตกข้างทางแต่รถไฟก็ไม่ได้จอดดูแต่อย่างไร
ทางด้านนายปรัชญา แก้วแสงใส เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯได้เปิดเผยว่าหลังจากที่ได้รับแจ้งว่ามีรถไฟชนรถ จยย.จึงรีบนำกำลังมาตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบว่ารถ จยย.ถูกชนกระเด็นจนรถพังยับเยินตกข้างทางรถไฟและได้ตรวจสอบพบว่าคนขับรถ จยย.ไม่เป็นอะไรมากซึ่งที่กั้นทางรถไฟตรงนี้ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถ จยย.ชนที่กั้นอยู่บ่อยครั้งเนื่องจากช่วงตอนกลางคืนจะมืดมากและที่กั้นที่ทำงานตอนรถไฟมาจะไม่มีไฟแจ้งเตือนทำให้รถที่วิ่งผ่านไปมาไม่รู้ว่าที่กั้นลงมาหรือไม่ได้ลงมาและจะไม่รู้ว่ารถไฟจะมาตอนใหนอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมาดูแลและแก้ไขทำไฟแจ้งเตือนให้ดูสว่างด้วยและไม่ใช่แค่ที่กั้นเดียวมีอีกหลายจุดที่อยู่ตามเส้นทางของ อ.พานทอง มีด่านหนองอ้อที่ อบต.เกาะลอย-บางหักอีก1ที่อยากให้ไปปรับปรุงด้วย
วิศาล แสงเจริญ ผู้สื่อข่าวTOPNEWS ประจำ จ.ชลบุรี