ชัดเจนเป็นอย่างยิ่งว่าการล่มของสภาเมื่อ 3 ส.ค.2565 ระหว่างการพิจารณาร่างพ.ร.บ.กำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม พ.ศ. … เป็น “ทฤษฎีสมคบคิด” กันระหว่าง 3 ฝ่าย หนึ่งคือพรรคพลังประชารัฐ สองคือพรรคเพื่อไทย สามคือส.ว.สาย “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐที่มีเกือบ 100 คน 3 ขั้วใหญ่ และรวมถึงส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทยบางคนจับมือกันทำให้เสียงในรัฐสภาหายไปเกินครึ่ง ด้วยการไม่แสดงตัวเป็นองค์ประชุม ส่วนที่เหลืออยู่ในสภา 357 คน ส่วนใหญ่ก็เป็นส.ว.สาย “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ที่มีราว 150 คน ที่เหลือก็เป็นส.ส.พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ และบางส่วนของพรรคก้าวไกลสุดท้ายสภาก็ล่ม ตามเกมการเมืองเข้าทางเรียบร้อยโรงเรียนป้อม บีบเวลาในการพิจารณาสูตรหาร 500 ให้เหลือน้อยวันเข้าไปอีกจากที่เหลือไม่กี่วันอยู่แล้ว
แถมล่าสุดนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยก็ออกมายอมรับหน้าชื่นตาบานว่ากรณีสภาล่ม 3 ส.ค. เป็นการแสดงนัยนะทางการเมือง โดยใช้กลไกรัฐธรรมนูญมาตรา 132 (1) เพื่อให้กฏหมายลูกพิจารณาไม่ทันตามกำหนดระยะเวลา 180 วัน เพราะฉะนั้นงานนี้ถ้ากฎหมายลูกพิจารณาไม่ทันวาระ 3 ในวันที่ 15 ส.ค.นี้ เรื่องสูตรหาร 500 ก็จะตกไป หลักการของพรรคเพื่อไทยยืนกรานเอาสูตรหาร 100 ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะมั่นใจว่าจะต่อยอดให้พรรคชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ถล่มทลายทั้งแผ่นดิน ทั้งนี้หากปล่อยให้เลยเส้นตาย 180 วัน และกฎหมายตกไป ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 132 (1) จากนั้นก็จะไปเข้าลูปพรรคเพื่อไทยแบบเต็มๆ เพราะในมราตราดังกล่าวเขียนทางออกไว้ชัดว่า ให้ถือว่ารัฐสภาให้ความเห็นชอบตามร่างที่เสนอตามมาตรา 131 ซึ่งมีทั้ง (1) เสนอโดยครม. โดยข้อเสนอของศาลฏีกา ศาลรัฐธรรมนูญ หรือองค์กรอิสระ และ (2) ส.ส.จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวนส.ส.ที่มีอยู่ในสภาผู้แทนราษฎร พูดง่ายๆคือให้ไปเอาร่างที่เสนอโดยครม. ที่กกต.เป็นคนทำ หรือ ไม่ก็ร่างที่กมธ.วิสามัญฯ แก้ไขในวาระแรก เอมาใช้แทนได้เลย ซึ่งทั้ง 2 ร่างก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าเป็นสูตรหาร 100 ที่พรรคเพื่อไทยถวิลหาเช้าเย็น
เรื่องใบสั่งให้คว่ำสูตรหาร 500 นอกจากจะทำสภาล่มแล้ว ยังมีการรับลูกให้ชัดเจนขึ้นไปอีกหลังพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ที่ก่อนหน้านี้เคยรับปากในสภาต่อหน้าชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และส.ส.ผู้ทรงเกียรติ. ว่าจะเจียดเวลาอังคารที่ 9 ส.ค.ของวุฒิสภาให้กลายเป็นการประชุมร่วมรัฐสภาของส.ส.และส.ว.เพื่อได้พิจารณากฎหมายลูกที่ค้างอยู่ 9 มาตราให้จบไป แต่จู่ๆ แว่วว่าตัวทั่นประธานพรเพชรเกิดกลับลำอ้างข้างๆคูๆว่าวันที่ 9 วุฒิสภามีกฎหมายมีระเบียบสำคัญต้องถกกัน ทั้งๆที่อยู่มาเป็นปีเป็นชาติเวลามีตั้งเยอะไม่ยอมทำ พอมีใบสั่งมาเท่านั้นแหละวันที่ว่าเลยเอามาใช้พิจารณากฎหมายลูกไม่ได้ ที่สุดผลประชุมวิป 3 ฝ่ายเลยต้องไปบรรจุการพิจารณากฎหมายลูกในวันพุธที่ 10 ส.ค. 2565 หนำซ้ำในตอนเช้าก็ต้องพิจารณาร่างพ.ร.บ.กำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม พ.ศ. … อีก 6 มาตราที่คาอยู่ให้จบก่อน กว่าจะไปพิจารณากฎหมายลูก งานนี้ขนาดคนที่เห็นด้วยกับสูตรหาร 100 อย่างชินวรณ์ บุญยเกียรติ รองประธานวิปรัฐบาล ยังออกมายอมรับเลยว่าโอกาสสภาล่มในวันที่ 10 ส.ค.2565 มีสูง
บอกเลยงานนี้ชินวรณ์ไม่ต้องมาพูด ชาวบ้านตาดำๆที่ตามข่าวก็อ่านเกมออก กฎหมายสำคัญขนาดนี้แต่ยื้อแล้วยื้ออีก เลื่อนออกไปจดสุดรางมาพิจารณาเอาวันสุดท้ายก่อนเส้นตาย 15 ส.ค.2565 ส่อเจตนาสุดๆพิรุธชัดเจน อย่าคิดว่าคนไทยโง่ตามไม่ทัน นิโรธ สุนทรเลขา ประธานวิปรัฐบาล ยังออกมาแถว่าประชุมล่มที่ผ่านมาไม่ได้สมคบคิดกันทำชั่ว แต่ส.ส.ติดประชุมกมธ.งบประมาณทั้งวัน วิ่งไปวิ่งมาไม่ทันจริงๆ ไม่ได้สมรู้ร่วมคิดกับพรรคเพื่อไทยคิดการชั่วในสภา พูดนะได้แต่ฟังไม่ขึ้น ทำไมพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเล็กๆ แม้แต่พรรคก้าวไกลบางส่วนยังทำได้หมด แต่ทำไมพรรคแกนนำรัฐบาลอย่างพรรคพลังประชารัฐกลับมากดบัตรแสดงตัวเป็นองค์ประชุมไม่ทัน นี้ยังไม่นับรวมกระแสข่าวมี 2 บิ๊กผู้กวางขวางสภาสูง คนหนึ่งเป็นนายทหารใหญ่เพื่อนซี้พล.อ.ประวิตร กับอีกคนเป็นตำรวจน้องรักของบิ๊กป้อม เดินเกมในสภาทั้งโทรสั่งไม่ให้กดโหวตทั้งเดินไปหาแบบปะหน้าไล่ตะเพิดให้กลับบ้าน เอาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ “สัปปายะสภาสถาน” มาทำชั่ว รับลูกเล่นเกมอุบาทว์หยาบช้าแบบนี้ระวังกรรมจะตามทัน วางเกมกันมาเป็นทอดๆแบบนี้สุดท้ายปลายทางต้องวัดใจประธานชวน เจ้าของตำนาน “มีดโกนอาบน้ำผึ้ง” ว่าจะเอายังไง จะปล่อยให้ฝ่ายค้านกับรัฐบาลจับมือกันใช้กลไกสภา ทำให้กฎหมายตกเป็นประวัติศาสตร์แบบมีนัยยะทางการเมือง แปลงรัฐสภามาเป็นสนามเด็กเล่น ปากว่าตาขยิบรู้เห็นเป็นใจกับฝ่ายการเมือง หรือจะรักษาเกียรติภูมิของสภา บรรจุประชุมร่วม 9-10 ส.ค. เดินหน้ากฎหมายลูกตามมติ 6 ก.ค. ที่เสียงส่วนใหญ่ยืนยันสูตรหาร 500 ไปแล้ว ตรงนี้ก็ต้องลองวัดใจนายหัวนกันดูว่าจะเล่น “ตามน้ำ” ไปกับฝ่ายบิ๊กป้อมหดวันพิจารณาเหลือวันเดียวคือ 10 ส.ค.2565 หรือจะ “คัดง้าง” บรรจุวาระ 9-10 ส.ค. 2565 รักษาความถูกต้องให้กับสภาอันทรงเกียรติ
ข้ามฝั่งมาที่ทำเนียบรัฐบาล เจอเกมตลบหลังของพี่ใหญ่กับบรรดาลูกขุนพลอยพยัคฆ์แบบนี้ คนใหญ่ตึกไทยผู้นำแห่งหอคอยงาช้างอย่างบิ๊กตู่จะแก้เกมนี้ยังไง ชัดเจนว่าเปิดเกมล้มหาร 500 คราวนี้ เป้าหมายคือหักพล.อ.ประยุทธ์อีกตามเคย พี่ใหญ่ทะเยอทะยานอยากเป็นใหญ่อยากนั่งที่สูงเพราะสร้างลิฟท์รอไว้แล้ว ฝ่ายคนใกล้ตัวก็สอพลอหาทางเลื่อยขาบิ๊กตู่อยู่ตลอด ปีแล้วปีเล่าก็ยังไม่หยุดทั้งๆที่ก็รู้ว่าไม่มีทางล้มคว่ำคนดีอย่างบิ๊กตู่ไม่ได้ เที่ยวนี้คงเป็นศึกสุดท้ายเลยตั้งใจทิ้งไพ่หมดหน้าตัก หวังล้มพล.อ.ประยุทธ์ให้ได้กลับสูตรจากหาร 500 ไปหาร 100 ชัดเจนว่าเข้าทางตีนแม้วเข้าปากอุ๊งอิ๊งแบบอมแล้วกลืนไม่ต้องเคี้ยว วิ่งตรงจะถึงเส้นชัยแล้วยังเสือกเลี้ยวหัวกลับมาตีโง่โชว์เขลาอีก ก๊วนนี้กลุ่มนี้มีอยู่เจ้าเดียวทำการเมืองแบบไหนมีแต่คนด่าสาละวันเตี้ยลงทุกปี เข้ามาเล่นการเมืองจนพรรคพลังประชารัฐเสื่อมทรุดหมดแล้ว เจอตลบหลังเสือไปรอบนี้พล.อ.ประยุทธ์คงจุก ก่อนหน้านี้ก็ให้ส.ส.พลังประชารัฐ สายปากน้ำไล่ตะเพิด “บิ๊กป็อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา มท.1 มาหนหนึ่งแล้ว หวังเอาเก้าอี้คลองหลอดประเคนให้พี่ใหญ่หากระสุนสร้างกระแสเตรียมพร้อมเลือกตั้ง เที่ยวนี้เล่นใหญ่ถึงขั้นไล่บิ๊กตู่ผ่านกุศโลบายสูตรการเมือง
ตามดูรอบนี้พล.อ.ประยุทธ์ “บูรพาพยัคฆ์พันธุ์แท้” จะหาทางออกเอาตัวรอดอย่างไร อย่าลืมป่วนมากๆป่วนหนักๆ ด้อยค่านายกฯไปเรื่อยๆ เล่นบีบบิ๊กตู่จนหน้าเขียว ระวังเจอลุงตู่ผ่าทางตันโยนไพ่เด็ดในมือ ชิง “ยุบสภา” แล้วจะหนาว ถึงตอนนั้นบิ๊กตู่ใช้อำนาจรักษาการเลือกกติกาเองมาเลือกตั้ง เจอไม้นี้ไประวังจะหงายหลัง ฝ่ายพรรคพลังประชารัฐก็เช่นกันอย่าหวังว่าพล.อ.ประยุทธ์เป็น “ของตาย” มีของดีแล้วไม่รักษามีของแท้แล้วไม่ดูแล ระวังบิ๊กตู่จะตีจาก ลำพังตัวพรรคพลังประชารัฐเองก็ไม่ได้ดีเด่อะไร หลังๆคนก็เสื่อมศรัทธาไปมาก คะแนนนิยมตกไปเยอะ เพราะคนใกล้ชิดลุงป้อมทำจนเละ รอบหน้าถ้าไม่มีบิ๊กตู่เป็นจุดขาย แถมว่าจะเอาอะไรไปหากิน ชูลุงป้อมเป็นนายกฯเหรอลองดูแล้วจะรู้ว่านรกมีจริง พรรคใหม่อย่างรวมไทยสร้างชาติรอปูพรหมแดงรับพล.อ.ประยุทธ์อยู่ ฝ่ายพี่ใหญ่อย่าคิดว่าถือแต้มต่อแล้วจะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ หักหลังกันมาก็หลายครั้ง แทงหลังกันมาก็หลายดอก บิ๊กตู่ไม่เคยเอาคืน ได้คืบจะเอาศอก ถ้าหักหาญกันมากไประวัง พล.อ.ประยุทธ์สวมวิญญาณพยัคฆ์คำรามขึ้นมาจะหนาวกันทั้งบาง
////////////////////////