วันที่ 6 ส.ค.65.- นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ถนนกีบหมูและถนนพระยาสุเรนทร์ บริเวณแยกลำกะโหลก เขตของสามวา โดยมี นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทยและน.ส.นฤนันท์มนต์ ห่วงทรัพย์ ส.ก.เขตคลองสามวา ยื่นหนังสือร้องเรียนและพาตรวจพื้นที่
“ชัชชาติ” ลงตรวจการจราจรคลองสามวา สั่งตรวจสอบผับ-บาร์กว่า 400 แห่งทั่วกทม.พบ 83 แห่งมีปัญหาทางหนีไฟ จี้ ถ้าไม่แก้ไขสั่งให้ปิดทันที ชี้เป็นเรื่องสำคัญ
ข่าวที่น่าสนใจ
นายชัชชาติ ให้สัมภาษณ์ ว่า แม้เขตคลองสามวาถือเป็นพื้นที่รอบนอกกรุงเทพฯก็ตาม แต่ก็ยังมีปัญหารถติดไม่แพ้กับในเมือง จึงต้องมาปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานให้เหมาะสมกับจำนวนประชากรที่อาศัยอยู่หนาแน่น ซึ่งได้รับการร้องเรียนจากประชาชนผ่านทางส.ก.และส.ส. ไม่เฉพาะแค่แยกนี้แต่ติดต่อกันหลายแยกต่อเนื่องให้ซึ่งได้สั่งการให้รองผู้ว่าฯกรุงเทพมหานครได้ลงไปดู ออกแบบและวางยุทธศาสตร์แก้ปัญหาในระยะยาว ต้องมีการปรับว่ามีต้องมีสะพานข้ามแยกหรือไม่ จะขยายถนนได้จุดไหนบ้าง เพื่อจะลดปริมาณการจราจรแม้ว่ามีรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีส้มเข้ามาในพื้นที่ แต่ขนส่งสาธารณะไม่มี มีรถเมล์แค่สายเดียวตลอดเส้นทาง ทำให้ประชาชนเดินทางไปหารถไฟฟ้าได้ยาก สุดท้ายก็ต้องใช้รถส่วนตัว ทั้งนี้ถนนเส้นดังกล่าวพบว่าไม่มีท่อระบายน้ำทั้ง2 ฝั่ง มีการระบายน้ำลงคูคลองเท่านั้นจึงต้องลงมาดูรายละเอียด
พร้อมกันนี้ เตรียมจัดตลาดรายงานในพื้นที่โดยเฉพาะถนนกีบหมูมีรายงานรับจ้างรายวันจำนวนมากมายืนรอการจ้างงานทั้ง กรรมกร ช่างเชื่อม ช่างปูนช่างทาสี โดยมีแนวคิดที่จะเพิ่มด้านตลาดแรงงานดิจิทัล ควบคู่ไปกับตลาดกายภาพในพื้นที่ ซึ่งตนให้ความสำคัญและเตรียมมาสัญจรที่เขตคลองสามวาต่อไป
ส่วนปัญหาน้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมาพบว่ามีการระบายน้ำและการดำเนินงานได้ดีขึ้นประสานกับกรมชลประทาน และขุดลอกคูคลองไปกว่า 2,000 กิโลเมตร กรมราชทัณฑ์ ทหารที่เข้ามาช่วย โดยเฉพาะคลองลาดพร้าวที่มีการเร่งระบายน้ำและระบายออกทางปทุมธานีระบายออกด้านเหนือ และสามารถระบายออกไปทางเจ้าพระยาได้และเส้นคลองสามวาก็จะระบายออกทางคลองรังสิตด้านบน ขณะนี้ถือว่าเป็นไปด้วยดีทำคลองให้มีประสิทธิภาพ ทำเส้นเลือดฝอยให้เข้มแข็ง ส่วนแผนยุทธศาสตร์ระยะยาวค่อนข้างที่จะดีชัดเจนขึ้น เชื่อว่าสถานการณ์น้ำท่วมทุกอย่างจะดีขึ้น แต่ละสำนักงานเขตมีการแจ้งจุดน้ำท่วมเข้ามา มองว่าการแก้ปัญหาของกรุงเทพมหานครเรื่องน้ำท่วมเรามาถูกทางแล้ว และทำอย่างต่อเนื่องเต็มที่
ทั้งนี้ในกรณีปัญหาเพลิงไหม้สถานบันเทิงผู้ว่าฯกทม.ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบกว่า 400 สถานบันเทิงทั่วกรุงแล้ว พบที่มีปัญหา 83 แห่ง ที่มีปัญหาเรื่องการหนีไฟจึงให้ดำเนินการปรับปรุงร้านหากไม่ดำเนินการก็ให้ปิดการให้บริการไปก่อนเพราะถือว่าสำคัญทางหนีไฟต้องชัดเจน ในสภาวะปกติยังหาทางออกยากยิ่งในช่วงโกลาหล มีการดื่มสุรามึนเมายิ่งหาทางออกยาก จึงต้องจริงจังเข้มงวดพร้อมประสานตำรวจให้ตรวจสอบสถานบันเทิงที่ผิดกฎหมายเพราะประชาชนไม่ทราบว่าร้านไหนผิดกฎหมายหรือถูกกฎหมายบ้างจึงต้องลงรายละเอียด โดยให้ที่ปรึกษาประสานกับตำรวจแล้วตั้งแต่เดือนที่แล้วเนื่องจากประสบเหตุเพลิงไม่ที่สีลมซอยสองมาก่อนซึ่งหลังจากนี้ต้องเข้มข้นต่อเนื่องต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง