จากกรณีที่ พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ระบุว่า เพื่อการลดความแออัดของผู้ใช้บริการโรงพยาบาลจึงจำเป็นจะต้องคืนผู้ป่วยสิทธิบัตรทองที่ขึ้นทะเบียนปฐมภูมิ ให้กับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจำนวน 70,000 คนและผู้ประกันตนตามสิทธิประกันสังคม 60,000 คน
ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า จากกรณี รพ.มงกุฎวัฒนะ ขอลดจำนวนประชากรสิทธิบัตรทองที่ขึ้นทะเบียนปฐมภูมิโดยตรงกับ รพ. และลดจำนวนรับการส่งต่อผู้ป่วยสิทธิบัตรทองลงครึ่งหนึ่งด้วยเหตุผลเรื่องความแออัดจนกระทบกับการบริการ ในประเด็นนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้แสดงความห่วงใยพี่น้องประชาชนผู้ใช้สิทธิบัตรทองที่ได้รับผลกระทบเนื่องจาก สปสช.จะต้องยกเลิกสัญญากับ รพ.มงกุฎวัฒนะ จึงได้สั่งการให้โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขรับผู้ป่วยจาก รพ.มงกุฎวัฒนะมาดูแล เพื่อไม่ให้สิทธิในการรับบริการสาธารณสุขของประชาชนขาดตอน
ข่าวที่น่าสนใจ
“รพ.ที่จะเข้ามารับดูแลประชากรสิทธิบัตรทองจาก รพ.มงกุฎวัฒนะ จะเป็น รพ.ที่อยู่ในโซนใกล้เคียง เช่น รพ.นพรัตน์ สถาบันบำราศนราดูร รพ.ปทุมธานี ตลอดจนถึง รพ.ราชวิถี เป็นต้น โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือนเพื่อจัดระบบให้พร้อมรับคนไข้ภายในวันที่ 1 ต.ค.” นพ.จเด็จกล่าว
นพ.จเด็จกล่าวว่า อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ สปสช. ได้หารือกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) ให้ศูนย์บริการสาธารณสุขในสังกัด กทม. เข้ามาเป็นเจ้าภาพดูแลประชากรสิทธิบัตรทองกลุ่มนี้ ดังนั้นขอให้ประชาชนที่ลงทะเบียนกับ รพ.มงกุฎวัฒนะไม่ต้องกังวลใจว่าจะไม่มีหน่วยบริการรองรับ โดยจะมีหน่วยบริการปฐมภูมิทั้งที่เป็นศูนย์บริการสาธารณสุข รวมทั้ง รพ.ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขเข้ามารับเป็นหน่วยบริการประจำและหน่วยบริการปฐมภูมิ เบื้องต้น สปสช. จะนำรายชื่อของประชากรสิทธิบัตรทองจาก รพ.มงกุฎวัฒนะ ไปลงทะเบียนกับหน่วยบริการที่อยู่ใกล้บ้านโดยอัตโนมัติ ซึ่งผู้มีสิทธิบัตรทองสามารถเปลี่ยนหน่วยบริการปฐมภูมิของตัวเองได้ในภายหลัง
นพ.จเด็จกล่าวต่อว่า นอกจากนี้แล้ว สปสช. ยังมีนโยบายยกระดับบัตรทอง ให้ผู้ใช้สิทธิไปรับบริการที่หน่วยบริการปฐมภูมิที่ไหนก็ได้ เช่น ไปรับบริการที่ศูนย์บริการสาธารณสุขของ กทม. หรือที่คลินิกชุมชนอบอุ่นในเครือข่าย สปสช. ได้ทุกที่ หรือแม้ว่าจะมีหน่วยบริการประจำแห่งใหม่แล้ว แต่ถ้าเกิดเหตุจำเป็นการสามารถไปรับบริการที่หน่วยบริการปฐมภูมิที่ไหนก็ได้เช่นกัน โดยดูรายชื่อหน่วยบริการ (สถานพยาบาล) ที่เข้าร่วมได้ที่เว็บไซต์ สปสช. www.nhso.go.th/page/hospital เลือกเขตที่ต้องการตรวจสอบ เลือกประเภทการขึ้นทะเบียน ที่ระบุว่า บริการตรวจรักษาโรคทั่วไปหรือ หน่วยบริการประจำในระบบหลักประกันสุขภาพ
“หากประชาชนสิทธิบัตรทองที่ได้รับผลกระทบมีข้อสงสัย ต้องการตรวจสอบหน่วยบริการปฐมภูมิแห่งใหม่ หรืออยากทราบว่าบริเวณใกล้บ้านมีหน่วยบริการในเครือข่าย สปสช. ที่สามารถไปรับบริการได้ที่ไหนบ้าง สามารถติดต่อสอบถามที่สายด่วน 1330 หรือ ไลน์ @nhso” นพ.จเด็จกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง