"ฝีดาษลิง 2565" มองข้ามไม่ได้ ผู้ป่วยที่สเปน อายุเพียง 44 ปี และ 31 ปี ไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง สมองอักเสบ เสียชีวิต
ข่าวที่น่าสนใจ
หมอธีระวัฒน์ ระบุ เป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้ และต้องไม่ประมาท ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ตรวจเร็วรู้เร็วแยกตัวและป้องกันการแพร่ได้เร็วสามารถหยุดฝีดาษลิงได้ ทั้งนี้ ผู้ป่วยฝีดาษลิงสองรายที่เสียชีวิตในประเทศสเปน วันที่ 29 และ 30 กรกฎาคม อายุเพียง 44 ปี และ 31 ปี โดยไม่มีโรคประจำตัวและไม่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง และอีกหนึ่งรายที่ประเทศอินเดีย (ไม่ทราบรายละเอียด) แต่ทั้งสามรายนี้มีสมองอักเสบและสมองบวม ยังไม่ทราบรายละเอียดชนิดและประเภทกลไกของสมองอักเสบ ส่วนผู้เสียชีวิตที่บราซิลนั้นมีโรคประจำตัวมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
หมอธีระวัฒน์ ยังระบุถึง “ฝีดาษลิง 2565” สิ่งที่คนไทยทุกคนต้องช่วยกัน ดังนี้
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม คู่สัมพันธ์
- เราระงับการแพร่ระบาดได้จากความรับผิดชอบของแต่ละคน
ตรวจเร็ว รู้เร็ว กันการแพร่เร็ว
- การตรวจไม่ยาก ตรวจได้ทุกโรงพยาบาลด้วยซ้ำ เพราะ orthopox monkeypox เป็นโรคโบราณ ที่แพร่ออกนอกถิ่นฐาน มีแบบแผนการตรวจพีซีอาร์ตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว และแยงจมูกได้ แบบโควิด (มีหลาย 10 บริษัท ทำชุดตรวจ ATK ออกขายแล้ว ที่ต้องคุมคุณภาพก่อน)
วัคซีน
- อย่างน้อยคนไทยอายุมากกว่า 42 ปี เคยฉีดวัคซีนฝีดาษควรยังมีภูมิคุ้มกันต้านทานฝีดาษลิงได้พอสมควร
วัคซีนรุ่นใหม่ (กันได้ 3 ปี) เป็นที่ต้องการทั่วโลก การฉีดเข้าชั้นผิวหนัง หนี่งโดสใช้ได้ห้าคน เป็นสิ่งที่องค์การอนามัยโลกกำลังพิจารณา
ไวรัส
- ส่วนใหญ่เป็น B.1 มีการผันแปรของรหัสพันธุกรรม 61 ตำแหน่ง แต่ไม่สามารถระบุความสำคัญและยืนยันไม่ได้ว่าทำให้มีการแพร่เร็วขึ้นหรือไม่ (Technical report UK Health Security Agency)
การแพร่
- ทางอ้อมจากการสัมผัสไวรัสที่ติดอยู่บนเครื่องใช้ผ้าปูที่นอนเป็นไปได้แต่ยังยากมาก
- ทางอากาศอาจเป็นไปได้เวลาทำการรักษาที่ทำให้เกิดฝุ่นฝอยละอองน้ำลายฟุ้งขนาดเล็ก รวมทั้งที่ต้องอยู่ใกล้ชิด แพทย์ต้องระวัง เช่น หมอฟัน หมอผิวหนัง หมอตา หูคอจมูก เป็นต้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง