“ทนายรณณรงค์” ยื่นดีเอสไอให้รับ “เมาท์เทน บี” เป็นคดีพิเศษ

ประธานเครือข่ายรณณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ยื่นหนังสือถึง "ดีเอสไอ" ขอให้รับคดี "เมาท์เทน บี" เป็นคดีพิเศษ

นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เข้ายื่นหนังสือถึงนายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยมีพันตำรวจตรีวรณัน ศรีล้ำ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นตัวแทนรับหนังสือร้องเรียน กรณีเหตุเพลิงไหม้ผับ “เมาท์เทน บี” อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายคน เพื่อขอให้รับเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากเป็นคดีที่ร้ายแรง และคาดว่าน่าจะมีหุ้นส่วนร้านรายอื่นอีกที่ยังไม่เปิดเผยชื่อ โดยมีเหตุผล 3 ประการคือ

 

 

1.สถานบันเทิงที่เปิดโดยไม่มีมาตรการความปลอดภัย และจดแจ้งผิดประเภท อีกทั้งเปิดให้บริการเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด และเปิดให้เยาวชนที่อายุไม่ถึงเกณฑ์เข้าใช้บริการ ข้าฯไม่เชื่อว่าตำรวจในท้องที่ และเจ้าหน้าที่มหาดไทยจะไม่ทราบเรื่องนี้ และการกระทำผิดกฎหมายอย่างโจ่งแจ้งแบบนี้ น่าเชื่อว่าจะมีการให้ทรัพย์สิน หรือให้ผลประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าหน้าที่เพื่อจูงใจให้กระทำการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย และเมื่อมีการเสนอผลประโยชน์แก่ท้องที่ และมีเหตุที่ร้ายแรงเกิดขึ้นเช่นนี้ การจะให้ท้องที่ดำเนินการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ เกรงว่าจะเกิดผลประโยชน์ทับซ้อน ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อกระบวนการยุติธรรมอย่างร้ายแรง และอาจทำให้ผู้เสียหาย ทั้งผู้ตาย และผู้บาดเจ็บไม่ได้รับความยุติธรรมอย่างเต็มที่

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

2.การเปิดร้านผับบาร์ สถานบันเทิงที่กระทำการผิดต่อบทกฎหมายหลายข้อ และไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายเช่นนี้ โดยทั่วไปแล้วมักจะมีหุ้นส่วนเป็นทหาร ตำรวจหรือผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง และเจ้าของร้านที่ถูกจับกุมอายุเพียงแค่ ๒๗ ปี ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นเจ้าของร้านแต่เพียงผู้เดียว จำเป็นต้องตรวจสอบเส้นทางการเงินและสืบหาหุ้นส่วนร้านรายอื่นซึ่งอาจเป็นผู้มีอิทธิพล หรือเป็นข้าราชการทหาร ตำรวจเบื้องหลัง หากปล่อยให้ตำรวจท้องที่ดำเนินการ คาดว่าคดีคงตัดจบเพียงนายพงศ์ศิริ หรือ “เสี่ยบี” เป็นจำเลยแต่เพียงผู้เดียวแน่แท้

3.คดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญอย่างร้ายแรงที่มีผู้เสียหายและบาดเจ็บเป็นจำนวนมากอันอยู่ในความสนใจของประชาชนทั้งประเทศ เป็นคดีที่ประชาชนตั้งข้อสงสัยต่อการทำงานของตำรวจท้องที่ว่าการที่เร่งรัดตัดจบคดีนั้นเพื่อปกปิดบุคคลที่อยู่เบื้องและปกปิดความผิดอื่นๆอีกหรือไม่ ทั้งการเรียกรับส่วยหรือผลประโยชน์อื่นหรือการปล่อยปละละเลยให้มีการตั้งสถานบันเทิงที่ไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัยหรือไม่

 

 

นายรณณรงค์ เปิดเผยว่า คดีนี้ทั้งในส่วนของกระทรวงมหาดไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะต้องร่วมกันตรวจสอบทำคดีให้มีความชัดเจน ในการเอาผิดถึงนายทุนเจ้าของผับ เมาท์เทน บี ตัวจริงมารับผิดชอบ ไม่ใช่ตัวละครแทน อีกทั้งยังไม่มั่นใจว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบ จะได้รับการช่วยเหลือเยียวยาอย่างเป็นธรรม เช่นเดียวกับกรณีของซานติก้าผับ เมื่อปี 2552 จั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายอะไรเลย หากไม่มีการแก้กฎหมายก็อาจจะทำให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต จึงไม่อยาก ให้เป็นการ วัวหาย (ไม่) ล้อมคอกอีก เหมือนเช่นซานติก้าผับที่ 13 ปี รัฐไม่เคยแก้ไขอะไรเลย

ด้านพันตำรวจตรีวรณัน เปิดเผยว่า จะให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นกับกรณีที่เกิดขึ้นก่อน จากนั้นก็จะนำมาพิจารณาว่าเข้าหลักเกณฑ์จะรับเป็นคดีพิเศษได้หรือไม่ ซึ่งในคำร้องที่ยื่นมาระบุว่า อาจมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่อย่างไร

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

พายุฝนพัดถล่มปากพนังเมืองคอนอ่วมอรทัย น้ำท่วมต้นไม้หักโค่นขวางถนน ฝนตกน้ำท่วมและคลื่นลมแรงพัดพัดหอบหอยกาบเกลื่อนชายหาดชาวบ้าน แห่เก็บขายสร้างรายได้ให้ครอบครัว
รวบแล้ว “พี่สาวเมียทนายตั้ม” หลังตกเป็นผู้ต้องหา “ร่วมกันฟอกเงิน” เร่งสอบปม 39 ล้าน
"ดร.ทันกวินท์" เล่านาที "ไอซ์ รักชนก" โดดเดี่ยว มาศาลฟังไต่สวนถอนประกันสส. ดูไม่มั่นใจเหมือนอยู่สภาฯ
‘สามารถ’ ห่วงแม่อายุมาก มอบทีมทนายยื่นโฉนดมูลค่า 1.2 ล้าน ขอประกันตัว
เยอรมนีจ่อเปลี่ยนสถานีรถไฟใต้ดินเป็นที่หลบระเบิด
จีนเตือนไม่มีใครชนะในสงครามการค้า
อัยการนัดฟังคำสั่งคดี "เชน ธนา-ภรรยา" ถูกกล่าวหาฉ้อโกง 29 พ.ย.นี้
“ลุงป้อม” ปัดตอบปม “สิระ” อ้างคนในป่าต่อสายช่วย “สามารถ”
"ทนายพจน์" ยื่นหนังสือสำนักพุทธฯ จี้คณะสงฆ์แจ้ง "พระปีนเสา" สละสมณเพศ หลังถูกขับพ้นวัดวังกวาง
ตร.นำกำลังทลายแคมป์ "แรงงานต่างด้าวเถื่อน" นับร้อย ย่านหนองใหญ่-ชลบุรี เตรียมผลักดันออกนอกประเทศ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น