“ครม.” เห็นชอบ พัฒนาท่องเที่ยว-เกษตร พื้นที่ EEC

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทั้งนี้ต้องมีเงื่อนไขพิเศษ เพื่อกำหนดความคล่องตัว รองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น เช่น สิทธิประโยชน์ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีเงินรายได้บุคคลธรรมดา ให้มีบริการครบวงจร รวมถึงการรองรับการเดินทาง เช่น การขอวีซ่า การขอ work Permit การผ่อนปรนกฎหมาย สำหรับคนต่างด้าว โดยสามารถทำงานที่ประเทศไทยได้ ในอาชีพที่ขาดแคลน หรือขาดทักษะ ตนคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของปัจจุบันและอนาคตอันใกล้ หวังว่า อีอีซี จะเป็นพื้นที่สำคัญในการสร้างรายได้ให้กับประเทศในอนาคต เป็นการพัฒนาความเจริญแบบก้าวกระโดด ภายในไม่เกิน 10 ปีนี้ สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยทางด้านการเกษตร อุตสาหกรรมสมัยใหม่ การคมนาคมขนส่ง นวัตกรรมการวิจัย เทคโนโลยี BCG ที่เป็นการพัฒนาที่มั่นคง ยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทั้งไทยและของโลก

ขณะเดียวกัน การประชุมคณะรัฐมนตรี มีการพิจารณาการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาการเกษตรในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ปี 2566-2570 เป็นเรื่องสำคัญขับเคลื่อนประเทศในอนาคต ยกระดับภาคเกษตรกรรมด้วยเทคโลโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่ สร้างรายได้ให้เกษตรกร และมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมเพิ่มขึ้น มีการแบ่งพื้นที่การพัฒนาในพื้นที่อีอีซี เป็น 5 คลัสเตอร์ ได้แก่ ผลไม้ //ประมง//พืชสำหรับอุตสาหกรรมชีวภาพ //พืชสมุนไพร และเกษตรมูลค่าสูง โดยจุดแข็งของการปรับโครงสร้างการเกษตรในพื้นที่อีอีซี ต้องเชื่อมโยงภาคเศรษฐกิจอื่นๆ ด้านระบบโลจิสติกที่มีความพร้อมสูง ทั้งทางบก ทางทะเล ทางน้ำ และทางอากาศ เพื่อเป็นต้นแบบกานพัฒนาภาคการเกษตรในภูมิภาคอื่นๆ ของไทย และรัฐบาลมีแนวคิดส่งเสริมเขตพัฒนาพิเศษอีก 10 แห่งในอนาคต

นายกรัฐมนตรี ยังเน้นย้ำเรื่องการเกษตร เป็นห่วงการใช้น้ำ สั่งการให้ศึกษาหาวิธีการใช้น้ำให้เกมาะสมกับการเพาะปลูก โดยเฉพาะข้าว เพื่อให้บริหารการใช้น้ำและการทำนาเป็นไปตามความต้องการของพืช โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับเรื่องและดำเนินการไปแล้วบางส่วน โดยให้ขยายไปทุกพื้นที่