ททท. จ่อชงศบค. ขยาย "วีซ่าท่องเที่ยว" สูงสุด 45 วัน ในวันที่ 19 สิงหาคมนี้ รวมถึงวีซ่า on arrival (VoA) หวังหนุนต่างชาติเที่ยวไทย ใช้จ่ายมากขึ้น
ข่าวที่น่าสนใจ
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เผยว่า การประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.)ในวันที่ 19 สิงหาคมนี้ จะขอให้พิจารณาขยายระยะเวลาพำนักของ “วีซ่านักท่องเที่ยว” (Tourist Visa) สูงสุดไม่เกิน 45 วัน (เดิมไม่เกิน 30 วัน) พร้อมขยายระยะเวลาพำนักของวีซ่าหน้าด่าน (Visa on Arrival : VoA) เพิ่มสูงสุดไม่เกิน 45 วันเช่นกัน (เดิมไม่เกิน 15 วัน) ให้มีผลยาวถึงสิ้นปี ตามข้อเสนอของภาคเอกชน
ซึ่งการขยายระยะเวลาพำนักในไทยอนุมัติมาแล้วก่อนหน้านี้ ถือเป็นหนึ่งในมาตรการอำนวยความสะดวกด้านการเดินทาง (Ease of Traveling) หนุนต่างชาติเที่ยวไทยนานมากขึ้น กระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ หลังเผชิญสถานการณ์โควิด-19 ระบาดมานานกว่า 2 ปี ทั้งนี้ ททท. ได้ตรวจสอบข้อมูลผู้ยื่นขอวีซ่าตามสถานทูตไทยในต่างประเทศ พบว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ ต้องการอยู่ท่องเที่ยวในประเทศไทยเกิน 30 วัน สะท้อนให้เห็นพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวนิยมอยู่นานมากขึ้น
ส่วนข้อเสนอจากภาคเอกชนเรื่องขอให้รัฐบาลพิจารณา ยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า หลังได้เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายกฯ กล่าวไว้ว่า จริง ๆ ยังมีความเห็นที่ต้องไปหารือกันในวงกว้างกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม เช่น กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) อย่างไรก็ตาม การขยายระยะเวลาพำนักของ วีซ่านักท่องเที่ยวและวีซ่าหน้าด่าน ถือเป็นเรื่องที่ทำได้เร็วกว่า ทาง ททท. จึงเดินหน้าเตรียมเสนอที่ประชุม ศบค.พิจารณาก่อน เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติและผู้ประกอบการได้เตรียมตัว ส่วนเรื่องการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า ต้องหารือกันเพิ่มเติมในระดับนโยบายอีกที
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่องขยายเวลาเปิดสถานบันเทิง ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยว่า จะเสนอให้ที่ประชุม ศบค. อีกครั้งในเดือนกันยายนนี้ ขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงเฉพาะบางพื้นที่ (โซนนิ่ง) ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากในเมืองท่องเที่ยวหลัก เช่น
- กรุงเทพฯ
- พัทยา
- กระบี่
- ภูเก็ต
- หัวหิน
- สมุย
- และเชียงใหม่ ไปจนถึงเวลา 04.00 น. ขอให้มีผลตั้งแต่เดือน ตุลาคมเป็นต้นไป ซึ่งเป็นช่วง high season
ซึ่งการขยายเวลาเปิด-ปิดสถานบันเทิง เพื่อสอดคล้องกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเน้นย้ำ ไม่ได้ส่งเสริมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่มองว่าเป็นเรื่องการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว หากมีระยะเวลาการใช้จ่ายนานขึ้น ก็จะทำให้ช่วยจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ส่งผลต่อเม็ดเงินที่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง