กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียล เมื่อมีการพิมพ์ข้อความตอบโต้บนเฟสบุ๊กอย่างดุเดือด ระหว่างนักแสดงหนุ่มชื่อดัง น็อต วรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์ กับ เพชร กรุณพล หลังจากที่น็อตได้แชร์โพสต์ของเฟสบุ๊กชื่อ ปราชญ์ สามสี ซึ่งเขียนอธิบายถึงสาเหตุเอกชนไม่กล้านำเข้าวัคซีนโควิด-19 เพราะไม่มีความสามารถมากพอในการรับผิดชอบ หากผู้ที่เข้ารับการฉีดเกิดอาการข้างเคียง แต่รัฐบาลจัดซื้อในรูปแบบ Emergency Use ซึ่งมีการตรวจสอบขั้นต้นแล้วว่าจะมีผลระคายเคืองที่ต่ำ หรือเมื่อเกิดระคายเคืองนั้นยังสามารถแก้ใขสถานการณ์ได้
จากโพสต์ดังกล่าวทำให้ เพชร กรุณพล เข้ามาคอมเมนต์โพสต์ดังกล่าวของน็อตว่า “นี่คือสักแต่ว่าเขียนเอาใจรัฐบาลใช่มะ” พร้อมแจกแจงข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนแบบร่ายยาว และตบท้ายประโยคด้วยว่า “กูเข้ามาเสือ_มึงแค่นี้แหละนะ” ซึ่งน็อตก็เข้ามาตอบกลับว่า “เรื่องของมึง” แต่เพชรยังไม่จบ เมื่อได้เมนต์ตอบกลับน็อตอีกว่า “แต่เรื่องของมึงมันปลอมอะ” ซึ่งอีกฝ่ายก็เข้ามาโต้ว่า “ก็แล้วแต่มึงจะคิด นี่มันก็เรื่องของกู”
ล่าสุด เพชร กรุณพล ได้มาร่วมรายการ แฉ เพื่อเคลียร์ใจกับ น็อต วรฤทธิ์ จากดราม่า โดยเพชรยอมรับว่า เรื่องนี้ปกติตนและเพื่อน ๆ มักจะคุยเรื่องการเมืองรวมถึงเรื่องอื่น ๆ ในกลุ่มไลน์ ซึ่งเวลาคุยก็มีการขึ้นมึงขึ้นกูบ้างตามประสาผู้ชาย น็อตไปเจอบทความนั้นมา แล้วบทความยาวไม่มีเวลาอ่าน น็อตก็เลยโพสต์ลงเฟซบุ๊กเพื่อเก็บไว้อ่านทีหลัง แต่ตนมาอ่านก่อน แล้วก็เขียนแนะนำน็อตไป น็อตยังไม่ได้อ่านเต็ม ๆ ก็เลยตอบกลับไปว่า “เรื่องของมึง” เหมือนเพื่อนคุยกัน
ด้วยความที่มันเป็นตัวอักษร ไม่มีน้ำเสียง มันก็เลยดูแรง พอมันเป็นเรื่องที่คนไม่รู้ว่าเราสนิทกัน ก็ไม่ผิดที่คนจะตีความหมายไปในทางนั้น และด้วยความที่เป็นกระแสเกี่ยวกับวัคซีน ยิ่งทำให้เรื่องนี้มันดังขึ้นไปอีก”น็อต-เพชร”เคลียร์ใจกลางรายการ หลังวิวาทะเดือดกลางโซเชียล
ส่วนกระแสที่ทวิตเตอร์บอกว่าจะแบนน็อต วรฤทธิ์ นั้น น็อต บอกว่า เฟซบุ๊กของตนเป็นไพรเวต เอาไว้ตามเพื่อน ๆ เท่านั้น ตนกับเพชรสนิทกันมาก พูดจากันได้ทุกเรื่อง เรายอมรับซึ่งกันและกัน เรากำลังอยู่ในสงครามที่ต่อสู้กับไวรัส ไม่ใช่มาต่อสู้กันเอง ไม่ใช่ว่ามีข้อมูลหรือความเห็นที่ต่างกันแล้วต้องมาตีกันให้ตาย แต่เราต้องการความร่วมมือจากทุกคนในการต่อสู้กับไวรัส ไม่ว่าจะมีข้อมูลอะไรก็เอามาแชร์กันได้ ช่วยกันหาทางออกให้เรื่องนี้ดีกว่า
ด้าน เพชร บอกว่า ในข้อความนั้นเป็นข้อความที่น็อตไม่ได้เขียนมาเอง แต่เป็นข้อความที่แชร์มา บทความนั้นระบุว่า วัคซีนแบบเชื้อตายเป็นวัคซีนที่ปลอดภัย แต่วัคซีน mRNA ไม่มีผลการทดลอง อาจจะทำให้ดีเอ็นเอเกิดการเปลี่ยนแปลง จนคนเป็นซอมบี้ หรือกระทั่งการที่บทความเขียนว่า การจัดซื้อวัคซีนที่หลากหลายจะทำให้เกิดค่าใช้จ่ายของรัฐบาล มีต้นทุนในการเก็บรักษา แต่ตนเห็นต่างและมองว่า การที่เรามีวัคซีนหลากหลาย สามารถใช้กับคนที่แตกต่างกัน ทั้งในเรื่องอายุ สุขภาพ การใช้งาน
ตอนที่น็อตโพสต์ ถ้าจะเห็นคือตนเข้าไปกดหัวใจให้ เพื่อมาร์กไว้ว่าได้อ่านและได้ตอบแล้ว ซึ่งผ่านมาประมาณ 5-6 วัน คนก็มาแชร์ อาจจะเพราะเรื่องการเมืองด้วย และคนก็รู้สึกถึงความกดดันในเรื่องการเมือง ก็เลยทำให้รู้สึกว่า ใครก็ตามที่ให้ข้อมูลหรือแชร์ข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน ควรจะต้องรับผิดชอบ
ด้าน น็อต เผยว่า ในปัจจุบันตนก็ไม่ได้ยุ่งอะไรกับการเมืองแล้ว สิ่งที่ตนโพสต์มันคือเรื่องที่อยากรู้เกี่ยวกับวัคซีนที่ได้รับมา เอาไว้อ่านเอง ไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับการเมือง อีกอย่างคือ เราก็คนไทยด้วยกัน ไม่ว่าคุณจะมาด่าว่าตนในสิ่งที่ตนโพสต์หรืออะไรก็ตาม มันก็ไม่ทำอะไรให้ดีขึ้น แต่มันจะดีขึ้นก็ต่อเมื่อตัวเราเองที่เข้าใจโลกและอยู่กับมันให้ได้จริง ๆ อย่างที่บอกคือ ศัตรูของเราไม่ใช่เรากันเอง แต่คือโควิด เราต้องร่วมมือร่วมใจกัน
เพชร บอกว่า ตนยอมรับว่ามีบางข้อความของน็อตที่ตนไม่พอใจ แต่ตนเชื่อมั่นในหลักประชาธิปไตย เราสามารถอธิบายหรือนำเสนอแนวความคิดความเชื่อของตัวเองได้ ตราบใดที่ไม่ไปละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่น หากใครที่เคยมีอดีตที่ต่างจากเรา มีแนวคิดที่ต่างกัน การผลักเขาออกไปนั้นไม่ได้ช่วยให้ความสำเร็จที่เราตั้งใจไว้เกิดเร็วขึ้น แต่ยิ่งทำให้เราสร้างศัตรูจากคนตัวเล็ก ๆ กลายเป็นคนตัวใหญ่ ๆ เป้าหมายของเราก็สำเร็จยากมากขึ้น ฉะนั้นใครที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ให้ข้อมูลเขา แลกเปลี่ยนข้อมูลกัน และทำให้เขาเข้าใจความคิดเห็นของเรา เพราะตนเชื่อว่าการขับเคลื่อนประเทศให้ไปข้างหน้าได้ต้องการมวลชน