จากกรณีเพจ “ประชาคมมอชอ” แนวร่วมม็อบกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “ราษฎร” เผยแพร่คลิปเหตุการณ์ รศ.อัศวิณีย์ หวานจริง คณบดีคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมด้วยรองคณบดีและเจ้าหน้าที่ เข้าไปยึดผลงานศิลปะของนักศึกษา สาขาสื่อศิลปะและการออกแบบสื่อ คณะวิจิตรศิลป์ จนเกิดการเผชิญหน้าถกเถียงกันรุนแรง ก่อนที่ ผศ.ดร.ทัศนัย เศรษฐเสรี อาจารย์ประจำสาขาสื่อศิลปะและการออกแบบสื่อ คณะวิจิตรศิลป์ จะออกมาปกป้องนักศึกษา โดยบอกว่างานศิลปะคือ เสรีภาพในการแสดงออก คณบดีไม่มีสิทธิบอกว่าใครทำผิดทำถูก และศิลปะไม่ใช้เจ้านายหรือขี้ข้าใคร
ล่าสุดมีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Udom Wanjing โพสต์ข้อความว่า ขออนุญาตใช้พื้นที่นี้เพื่อชี้แจงแทน รศ.อัศวิณีย์ หวานจริง ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากสื่อมวลชนหลายชนิด ที่ไม่มีจรรยาบรรณ ใช้ข้อมูลด้านเดียว ไม่ได้กลั่นกรองนำไปเผยแพร่ จนเกิดความเข้าใจผิดในสังคม และเกิดความเสียหายต่อวงศ์ตระกูลเป็นอย่างมาก
เมื่อวาน (22 มี.ค.) ตอนเย็น รศ.อัศวิณีย์ได้เข้าไปหอศิลป์มหาลัยในฐานะคณะบดีวิจิตรศิลป์ เพื่อดูความพร้อมของสถานที่ เตรียมรับผลงานแสดงวิทยานิพนธ์ของต่างสถาบัน ที่มาขอใช้พื้นที่แสดงงาน แต่กลับไปเจอกับสิ่งของที่ทำขึ้นเพื่อเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเคลื่อนไหวทางการเมืองจำนวนหนึ่ง มาวางอยู่ในบริเวรพื้นที่หอศิลป์โดยไม่ได้รับอนุญาต เธอได้ให้เจ้าหน้าที่ย้ายออกไปเก็บไว้อีกที่หนึ่ง จึงถูกนักศึกษาที่ไม่ได้เรียนที่คณะวิจิตรศิลป์จำนวนหนึ่งเข้ามาต่อว่าและนำเรื่องไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่
ทางมหาวิทยาลัยยังโทรมาชื่นชมและให้กำลังใจ ที่ได้ช่วยเหลือมหาวิทยาลัยด้วยการทำตามหน้าที่ของผู้ดูแลสถานที่ เพราะช่วงเย็นเมื่อวาน กำลังจะมีขบวนเสด็จที่เชียงใหม่ เธอจึงต้องทำตามหน้าที่เพื่อความเรียบร้อย ไม่ได้มีเจตนาขัดขวางกิจกรรมการเมือง ถ้าไม่ทำก็อาจจะโดนตำหนิว่าละเลยหน้าที่ หรืออาจเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นในมหาลัยก็เป็นได้
แต่ในความเป็นจริงการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องไดๆก็ตาม ควรจะมีแผนการและหลักปฏิบัติที่ชัดเจนในการดำเนินการ ถ้ามีอาจารย์เป็นผู้นำก็ต้องกล้าออกมาลุยกับนักศึกษาด้วยครับ เพราะสมัยผมเรียนมหาลัย เกิดเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ อาจารย์ของผมยังเป็นผู้นำนักศึกษา ลุยไปประชิดแนวรั้วของเจ้าหน้าที่เลยครับ
ขอเถอะอย่าเอาอนาคตของเด็กและความหวังของพ่อแม่ มาเป็นด่านหน้าเรียกร้องเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองอีกเลยครับ ในความเข้าใจอันน้อยนิดของผม ศิลปะควรเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นมาเพื่อจรรโลงโลกและสร้างสรรค์สังคม ไม่ว่าจะด้านบวกหรือด้านลบ ศิลปะต้องไม่เป็นมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม สำคัญที่สุดศิลปะควรเกิดจากความบริสุทธิ์ใจของผู้สร้าง ที่ตกผลึกในความคิดและจินตนาการ ไม่มีการชี้นำ ไม่ถูกกดดัน เพื่อให้ร้ายใครก็ตาม ที่เค้าไม่มีโอกาสออกมาแก้ต่างเพื่อความบริสุทธิ์ของตนเองและวงศ์ตระกูลครับ
#เราเลยยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมมาไกลมากแล้ว จำเป็นจะต้องเข้าสู่ยุค “ปฏิวัติจริยธรรมอย่างจริงจังได้แล้วล่ะครับ”
สำหรับธงชาติผืนดังกล่าวไม่มีสีน้ำเงิน มีข้อความยกเลิกมาตรา 112 และพาดพิงสถาบันเบื้องสูง ซึ่งเป็นธงผืนเดียวกับที่กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองนำไปใช้จัดกิจกรรมที่สนามกลางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยมีทราย-อินทิรา เจริญปุระ และนายปกรณ์ พรชีวางกูร หรือ บุ๊ง ผู้สนับสนุนม็อบราษฎรเข้าร่วมกิจกรรมเมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ มาตรา ๑๑๘ แห่งประมวลกฎหมายอาญา บัญญัติว่า“ผู้ใดกระทำการใด ๆ ต่อธงหรือเครื่องหมายอื่นใดอันมีความหมายของรัฐ เพื่อเหยียดหยามประเทศชาติ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ”
การนำธงชาติไปใช้ในลักษณะใด ๆ โดยทั่วไปไม่มีกฎหมายห้าม ไม่ว่าจะเป็นการใช้ที่สิ่งบรรจุ หีบห่อ สิ่งหุ้มห่อ สิ่งผูกมัด เว้นแต่การใช้ในลักษณะที่ไม่สมควรจึงจะมีโทษอาญา ตามมาตรา ๕๒ แห่งพระราชบัญญัติธง พ.ศ.๒๕๒๒ การใช้หรือแสดงธงหรือแถบสีธง ณ ที่หรือสิ่งที่ไม่สมควรหรือด้วยวิธีอันไม่สมควรจะเป็นความผิดตามมาตรา ๕๓(๓) (๔) และ (๕) แห่งพระราชบัญญัติธง พ.ศ.๒๕๒๒