ข่าวที่น่าสนใจ
โดยทางด้าน นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการพิจารณาขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ ว่า จะต้องมีการปรับตามสถานการณ์ของเงินเฟ้ออยู่แล้ว โดยดูว่าฐานเงินเฟ้อในประเทศไทยเท่าไหร่แล้วเอามาเป็นตัวหลัก ซึ่งเรื่องนี้มีไตรภาคีจังหวัดที่จะพิจารณาก่อน ซึ่งมีทั้งลูกจ้าง นายจ้าง และฝ่ายรัฐบาลอยู่ในไตรภาคี ที่จะสุ่มตัวเลขมาว่า พอใจที่ตัวเลขเท่าไหร่ ส่วนกลางก็จะมาพิจารณาอีกทีว่า ที่ไตรภาคีเสนอมานั้นเหมาะสมหรือไม่
ทั้งนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ได้ให้นโยบายกระทรวงแรงงานไปว่า การปรับค่าแรงอยากให้กระชับ ให้ช่วงสั้น ส่วนการประกาศใช้ปกติ หลายคนอยากให้พูดในวันที่ 1 มกราคม แต่ในความเป็นจริงต้องยอมรับว่าสินค้าต่าง ๆ ขึ้นราคาไปแล้ว ถ้าเราไปประกาศก่อน แล้วไปมีผลบังคับใช้ในเดือนมกราคมก็อาจจะทำให้มีการขึ้นราคาสินค้าอีกรอบหนึ่ง ซึ่งจะไม่มีผลอะไรในการที่เราได้ปรับค่าแรง
โดยเท่าที่ได้พูดคุยกับนายจ้างและผู้ประกอบการ เขายอมรับในตัวเลขนี้ เพราะที่ผ่านมารัฐบาลได้ช่วยเหลือผู้ประกอบการเหล่านี้ไปจำนวนหลายหมื่นล้านบาท ขณะเดียวกันประกันสังคมก็ลดหย่อนไปแล้วถึง 6 รอบ แต่ละรอบเป็นหมื่นล้านบาท ทั้งนายจ้างและลูกจ้าง เพื่อพยุงให้มีการจ้างงาน ลดค่าใช้จ่าย ลดค่าครองชีพ วันนี้จึงต้องขอความร่วมมือนายจ้าง ซึ่งเขาก็ให้ความร่วมมือ ก็จะพยายามปรับให้เร็วกว่า 1 มกราคม
ส่วนกรอบในการปรับตัวเลขแต่ละโซนค่าแรง นายสุชาติ กล่าวว่า จะดูพื้นที่โซนอุตสาหกรรมหลักๆ ก่อน เช่น จังหวัดภูเก็ต กทม. พื้นที่อีอีซี ซึ่งโซนเหล่านี้ถือเป็นหัวแถวอยู่แล้ว แต่จะปรับกี่เปอร์เซนต์ ก็ต้องพิจารณาให้เหมาะสม เท่าที่ดูตัวเลขคร่าวๆ ประมาณ 5-8% ให้รับได้ทั้งนายจ้างและลูกจ้าง เมื่อถามว่า รัฐบาลยืนยันขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำให้กับผู้ใช้แรงงานแน่นอนใช่หรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า แน่นอน เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เป็นไทม์มิ่งเหมาะสม ซึ่งตอนนั้นยังใช้มาตรา 75 อยู่ หากปรับในตอนนั้นนายจ้างจะเอาเงินที่ไหนจ่าย และสุดท้ายอาจจะต้องตกงานกัน แต่เมื่อเราประคับประคอง นายจ้างและลูกจ้างก็จะอยู่ได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
