เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 11 ส.ค. ร.ต.อ.เริงศักดิ์ เพชรเขียว รอง สว.(สอบสวน) สน.แสมดำ รับแจ้งมีเหตุรถประชาชน ถูกน้ำ ซึ่งขังอยู่บนผ้าใบโครงการก่อสร้างทางด่วน ตกใส่จนได้รับความเสียหาย บริเวณถนนพระราม 2 ขาออกช่องทางด่วน หน้าหมู่บ้านลัดดารมย์รีเจ้นท์ แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจ และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร
เกิดอีกแล้ว! น้ำขังผ้าใบโครงการสร้างด่วนพระราม 2 ตกใส่รถหญิง อายุ 33 ปี ขณะกำลังขับผ่าน กระจกด้านหน้าฝั่งซ้ายแตก หลังคารถยุบ ลั่นต่อไปจะเกิดขึ้นอีก
ข่าวที่น่าสนใจ
ที่เกิดเหตุอยู่บนช่องทางด่วนเลนขวาสุด พบรถเก๋งยี่ห้อ Ford รุ่น Fiesta สีเทา ทะเบียน ญท 4507 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ใต้ตอม่อ โครงการก่อสร้างทางด่วน ถนนพระราม 2 ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทพงษ์ภัทร เอนเตอร์ไพรส์ จำกัด ในสภาพกระจกด้านหน้าฝั่งซ้ายแตก หลังคารถยุบ โดยผู้ขับขี่ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.ทิชากร โพธิ์ทะเล อายุ 33 ปี ยืนรอเจ้าหน้าที่ด้วยอาการอกสั่นขวัญแขวน
จากการสอบสวน น.ส.ทิชากร ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถออกจากบ้านพักย่านมหาชัย ไปเรียนพิเศษภาษาอังกฤษ ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพระราม 2 เมื่อเลิกเรียนก็กำลังขับรถกลับบ้าน ช่วงนั้นพระราม 2 ขาออกรถน้อยเดินรถสัญจรได้คล่องตัว ตนจึงใช้ช่องทางด่วนเลนขวาสุด เพื่อขับมุ่งหน้ากลับบ้านพัก แต่เมื่อผ่านมาถึงจุดเกิดเหตุ ตนได้ยินเสียงวัตถุขนาดใหญ่ หล่นใส่หลังคาและกระจกด้านหน้ารถดังสนั่น จนกระจกแตกหลังคายุบลงมา ยอมรับว่าตกใจมากจึงรีบเหยียบเบรค กระทั่งลงมาสำรวจดูพบว่า ถูกน้ำที่ขังอยู่บนผ้าใบด้านบนไซต์งานก่อสร้าง ซึ่งมีน้ำหนักน่าจะหลายตัน ตกลงมาใส่รถ จึงรีบโทรศัพท์แจ้งแฟนและตำรวจให้มาตรวจสอบ
ด้าน นายนิติพันธุ์ วงษ์รักษา อายุ 38 ปี เจ้าของรถ ซึ่งให้แฟนสาวนำรถมาใช้ ตามไปที่โรงพัก เปิดเผยว่า ตนเชื่อว่าเหตุการณ์นี้น่าจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย เพราะจากการดูด้วยสายตา พบว่า ยังมีน้ำขังในถุงผ้าใบ ด้านบนไซต์งานก่อสร้างหลงเหลืออยู่ หลังดำเนินการแจ้งความ ทางคู่กรณีซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัทรับเหมา และตัวแทนจากแขวงการทางสมุทรสาคร ได้เดินทางเข้ามาเจรจาต่อหน้าพนักงานสอบสวน ด้วยเช่นกัน โดยฝั่งคู่กรณีรับปากยินดีชดใช้ค่าเสียหายที่ตัวรถให้ ซึ่งหลังจากนี้ จะต้องประเมินเวลาการจอดซ่อมที่อู่ เพื่อเรียกค่าสินไหมทดแทนกรณีรถจอดซ่อม เนื่องจากที่ผ่านมาต้องใช้รถทุกวัน ที่สำคัญรถตนไม่ได้ทำประกันภัยเอาไว้ด้วยจึงไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายจากใครได้อีกเลย
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน จึงลงบันทึกประจำวันเอาไว้ เพื่อนำเสนอผู้บังคับบัญชา และจะนัดหมายคู่กรณีทั้งสองฝ่ายเข้าตกลงเรื่องการชดใช้ค่าเสียหาย ก่อนสรุปสำนวนคดีตามกฎหมายต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง