ทำความรู้จัก "โรคมือ เท้า และปาก" ภัยเงียบตัวร้ายที่มาพร้อมกับหน้าฝน แพทย์รามาฯ แนะวิธีป้องกันและรักษาหากลูกมีอาการป่วย
ข่าวที่น่าสนใจ
ผศ. นพ.ชนเมธ เตชะแสนศิริ จากภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีเผยว่า เผยปัจจุบัน มีเด็กเล็กที่มีอาการของ “โรคมือ เท้า และปาก” เดินทางมาพบแพทย์มากขึ้น โดยโรคนี้มักมาพร้อมกับหน้าฝน และแพร่ระบาดได้ง่ายในกลุ่มเด็กเล็ก
โรคมือเท้าปาก เกิดจากอะไร?
- เกิดจากไวรัสตัวหนึ่งที่ชื่อ Enterovirus ผ่านการสัมผัสโดยตรงหรือสัมผัสสิ่งที่ปนเปื้อนกับน้ำลายหรืออุจจาระของผู้ที่ป่วยอยู่
- ดังนั้น แค่จับลูกบิดประตูหรือเล่นของเล่นชิ้นเดียวกันก็มีโอกาสติดเชื้อได้แล้ว
- แถมเชื้อยังสามารถแพร่ได้ตั้งแต่ระยะเริ่มมีอาการเลย
- โดยระยะที่แพร่เชื้อได้มาก คือ สัปดาห์แรกหลังมีอาการ
- แต่บางรายก็ยังสามารถตรวจพบเชื้อในอุจจาระได้ แม้จะหายดีแล้วเป็นเวลาหลายสัปดาห์
อาการและความรุนแรงของโรค
- เริ่มต้นด้วยอาการไข้ มีแผลในปาก ตั้งแต่บริเวณของเพดานแข็ง เพดานอ่อน
- หรือบางคนก็พบที่กระพุ้งแก้มหรือที่ลิ้น บางคนเป็นเยอะลามออกมาที่ริมฝีปากหรือรอบ ๆ ริมฝีปาก
- นอกจากนี้ ยังมีผื่นที่มือและเท้า ส่วนใหญ่จะเป็นตุ่มแดง ๆ หรือบางครั้งก็เป็นตุ่มน้ำใสบริเวณฝ่ามือฝ่าเท้า ง่ามนิ้วมือนิ้วเท้า เป็นต้น
ทั้งนี้ คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิด ว่าโรคนี้จะมีแค่ตุ่มใสตามมือเท้า หรือมีแผลร้อนในเท่านั้น เพราะ บางคนอาจมีอาการท้องเสีย ไข้ขึ้น ชัก หากมีอาการรุนแรงมากอาจมีโอกาสเสียชีวิตที่สูง
หากลูกมีอาการป่วย ดังต่อไปนี้ ให้รีบพาลูกไปพบแพทย์ด่วน
- ซึมลง
- หายใจหอบ หายใจเร็ว
- มีอาการชัก เกร็ง หมดสติ
- หรือมือสั่น ขาสั่น เดินเซ
หากลูกมีอาการป่วย ต้องรักษาอย่างไร
- ส่วนใหญ่โรคนี้ก็จะหายได้เองใน 5-7 วัน ซึ่งคุณหมอก็จะรักษาไปตามอาการ
- ถ้ามีไข้ก็ให้กินยาลดไข้ หรือเช็ดตัวลดไข้ไป
- ถ้ามีอาการคันมากก็อาจให้กินยาแก้แพ้ แก้คันแทน
- แต่ถ้าอาการดูไม่ดีขึ้นให้มาพบแพทย์อีกครั้ง
วิธีป้องกันโรค
ปัจจุบัน มีวัคซีนป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อ Enterovirus 71 ซึ่งช่วยป้องกัน “โรคมือ เท้า และปาก” และภาวะแทรกซ้อนรุนแรงที่เกิดจากการติดเชื้อนี้ แต่ไม่สามารถป้องกันเชื้อในกลุ่ม Enterovirus ชนิดอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดโรคได้ทั้งหมด แต่ถึงอย่างนั้นมันก็มีวิธีรับมือ ดังต่อไปนี้
- ถ้าเด็กคนไหนเป็นโรคขึ้นมาก็ต้องให้หยุดเรียนไปก่อนจนกว่าจะหายเพื่อลดการกระจายของเชื้อ
- เนื่องจาก โรคนี้สามารถแพร่ได้จากการสัมผัสกับสิ่งที่ปนเปื้อนน้ำลายหรืออุจจาระ ซึ่งเด็ก ๆ ก็อาจระวังเรื่องนี้กันไม่มากนัก
- ทำบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ เพราะ ถ้าไม่เคลียร์ให้จบ อีกไม่กี่วันก็จะเป็นกันทั้งโรงเรียนแน่นอน กำจัดเชื้อด้วยการใช้ผงซักฟอกหรือน้ำสบู่เท่านั้นจึงจะสะอาดหมดจด
- ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือการดูแลสุขอนามัยให้ถูกต้อง ล้างมือด้วยน้ำและสบู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะตอนก่อนและหลังรับประทานอาหาร รวมทั้งหลังจากเข้าห้องน้ำ
- ส่วนคุณพ่อคุณแม่นั้น แม้จะไม่แสดงอาการ แต่ก็อาจเป็นพาหะไปติดน้อง ๆ คนอื่นได้ ดังนั้น ถ้าไปสัมผัสน้อง ๆ ที่ป่วยอยู่ ควรล้างมือด้วยเช่นกัน
ข้อมูล : รามาแชนแนล Rama Channel
ข่าวที่เกี่ยวข้อง