"งีบกลางวัน" วิจัยพบหลับบ่อยมากขึ้น อาจเพิ่มเสี่ยง ความดันเลือดสูง - หลอดเลือดสมอง มากกว่าผู้ที่ไม่เคยงีบหลับ ร้อยละ 12 และร้อยละ 24 ตามลำดับ
ข่าวที่น่าสนใจ
คณะนักวิจัยจีน พบว่า การงีบหลับตอนกลางวันมากขึ้น อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงการเกิดโรคความดันโลหิตสูงชนิดไม่ทราบสาเหตุ หรือโรคหลอดเลือดสมองตีบ
สำหรับกลุ่มวัยกลางคนและผู้สูงอายุทั่วโลก โรคความดันโลหิตสูงเป็นหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตหลักที่มีต้นตอจากโรคหัวใจและหลอดเลือด ขณะโรคหลอดเลือดสมองเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของภาวะพิการ โดยการศึกษาช่วงต้น พบว่า ผู้คนจะมีความดันโลหิตสูงขึ้นหลังจากงีบหลับ
ผลการศึกษาที่เผยแพร่ในวารสารไฮเปอร์เทนชัน (Hypertension) ระบุว่า ยูเค ไบโอแบงก์ (UK Biobank) ฐานข้อมูลชีวการแพทย์ขนาดใหญ่ของสหราชอาณาจักร ได้รวบรวมข้อมูลพันธุกรรม วิถีชีวิต และสุขภาพจากอาสาสมัครชาวสหราชอาณาจักรกว่า 500,000 คน ที่มีอายุระหว่าง 40 – 69 ปี
(แฟ้มภาพซินหัว : บุคลากรการแพทย์ตรวจวัดความดันโลหิตของผู้สูงอายุที่สถานที่ดูแลผู้สูงอายุแห่งหนึ่งในมณฑลหูหนานทางตอนกลางของจีน วันที่ 20 ก.ค. 2022)
ทีมวิจัยจากโรงพยาบาลเซียงหย่า สังกัดมหาวิทยาลัยเซ็นทรัลเซาธ์ (CSU) ทำการวิเคราะห์การถดถอยค็อกซ์ (Cox regression) ซึ่งเป็นหนึ่งในรูปแบบการวิเคราะห์อัตราการมีชีวิตรอด ในกลุ่มผู้เข้าร่วม 358,451 คนจากฐานข้อมูล ที่ไม่เป็นโรคความดันโลหิตสูงหรือโรคหลอดเลือดสมอง
บรรดาผู้เชี่ยวชาญดำเนินการศึกษาที่เกี่ยวข้องผ่านการสุ่มแบบเมนเดล (Mendelian randomization) และพบว่า ผู้ที่งีบหลับบ่อยเสี่ยงเผชิญโรคความดันโลหิตสูงและโรคหลอดเลือดสมองตีบมากกว่าผู้ที่ไม่เคยงีบหลับ ร้อยละ 12 และร้อยละ 24 ตามลำดับ ซึ่งบ่งชี้ถึงความเชื่อมโยงระหว่างความถี่ในการงีบหลับตอนกลางวัน กับโอกาสการเกิดโรคความดันโลหิตสูงหรือโรคหลอดเลือดสมอง
หวังเอ้อ หัวหน้าทีมวิจัยดังกล่าว เผยว่า แม้การศึกษานี้จะมุ่งเป้าไปที่กลุ่มวัยกลางคนและผู้สูงอายุในยุโรป ทว่ามันอ้างอิงฐานข้อมูลขนาดใหญ่ของการศึกษาทางคลินิก จึงถือเป็นภาพสะท้อนกลุ่มประชากรโดยทั่วไป อีกทั้งเสริมว่ากลไกภายในของความเชื่อมโยงระหว่างการงีบหลับกับโรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง และโรคอื่น ๆ นั้นยังไม่เป็นที่ทราบชัดเจนและจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง