แม้กฎหมายลูกเรื่องการเลือกตั้งส.ส. จะจบแบบเรียบร้อยโรงเรียนป้อมประวิตรไปแล้ว หลังสภาล่มสมความมุ่งหมายของผู้มีอำนาจ เพราะการจับมือกันของพรรคพลังประชารัฐ พรรคเพื่อไทย และส.ว.สายบิ๊กป้อม ที่ไม่แสดงตนเป็นองค์ประชุมในวันสุดท้ายของเดดไลน์กฎหมายลูก พรรคเพื่อไทยมี 132 คน ไม่แสดงตน 120 คน พรรคพลังประชารัฐมี 97 คน ไม่แสดงตน 88 คน พรรคก้าวไกลมี 54 คน ไม่แสดงตน 11 คน พรรคเศรษฐกิจไทยมี 16 คน ไม่แสดงตน 13 คน พรรคประชาธิปัตย์มี 52 คน ไม่แสดงตน 10 คน พรรคชาติไทยพัฒนามี 12 คน ไม่แสดงตน 5 คน พรรคภูมิใจไทย 62 คน ไม่แสดงตน 3 คน ที่เหลือเป็นสมาชิกสภาสูงที่ไม่มาหรือไม่แสดงตนอีก 99 คน ที่สุดกฎหมายลูกสูตรหาร 500 ส.ส.บัญชีรายชื่อก็แท้งคาสภา เพราะหมอทำคลอดหนีงานไม่ยอมผ่าพุง ทั้งๆที่น.ส.หาร 500 เจ็บพุงเต็มแก่ ยื่นบัตร ตรวจประวัติ ทำทุกอย่างตามขั้นตอน แต่เพราะหมอไม่รับผิดชอบหนีเวรหนีงานเลยปล่อยทิ้งให้ตายท้องกลมขึ้นอืดอยู่ในสภา
ควันหลงข่มขืนกฎหมายลูก ปู้ยี่ปู้ยำสูตรหาร 500 คนด่ากันทั้งเมือง เป็นส.ส.เป็นส.ว. แต่ไม่ทำหน้าที่ของตัวเองในสภา กลไกและขั้นตอนตามรัฐสภาก็มีตั้งเยอะแต่ดันเลือกวิธี “ใจเร็วด่วนได้” ปล่อยตกกฎหมายลูกทำคลอดไม่แล้วเสร็จภายใน 180 วันเสียดื้อๆ เสียงบประมาณมหาศาล เสียเวลาไปเกือบ 6 เดือน เสียโอกาสทำงานดีๆเสียดายเวลาไปแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ด่ากันขรมทั้งในสังคมทั้งในวงการเล่นอะไรของคุณ (มึง) ที่ด่าได้สติมีสาระมากกว่าใครก็ต้อง “เสี่ยตุ๋ย” พีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ออกมาอัด “นักเล่นเกม” ที่เป็นคนกระหายอำนาจอยากใหญ่จนตัวสั่น “ นักเล่นเกมกลับนำมาใช้เป็นเครื่องมือวางหมากเกม เรื่องวุ่นเรื่องนี้จึงเกิดขึ้นเพียงเพราะนักเล่นเกมเกิดเปลี่ยนข้างมายิงประตูตัวเอง…หัวหน้าทีมก็มีความสุขกับการสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับตัวเองและการยกยอปอปั้นจากบรรดาคนรอบข้าง คิดว่าการเมืองมีเพียงแค่เงินกับอำนาจแต่ที่เลวร้ายที่สุดคือการใช้บ้านเมืองเป็นสนามเล่นเกม โดยมีประชาชนเป็นผู้รับเคราะห์ เรื่องเหล่านี้กำลังกินลึกเข้าไปในหัวใจของประชาชน ผมเชื่อว่าเลือกตั้งครั้งหน้าประชาชนจะร่วมกันให้บทเรียนสั่งสอนครั้งใหญ่” อดีตรมว.ยุติธรรมออกมาอัดแหลก แต่ยืนยันไม่ได้พูดถึงใครแค่พูดลอยๆ ใครร้อนตัวจะฟ้องก็พร้อมสู้
ขณะที่ส.ส.อีกคนที่ออกมาทิ้งบอร์มรับไม่ได้กับเกมสภาล่มจมสูตรหาร 500 ก็คือ “มาดามเดียร์” วทันยา บุนนาค ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ถึงขนาดประกาศไขก๊อกจากส.ส.และสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ไม่ขอร่วมสังฆกรรมกับพรรคร้อยเล่ห์เพทุบายแบบนี้อีก “ ในส่วนของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวานนี้ที่ทำให้ประชาชนเกิดข้อกังขาว่ารัฐสภายังคงเป็นที่พึ่งให้แก่ประชาชนได้อยู่หรือไม่? ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จึงไม่อาจปฏิเสธถึงข้อกังขาศรัทธาประชาชนที่มีต่อรัฐสภา ไม่จำเป็นว่าเราต้องเป็นฝ่ายไหนหรือสังกัดพรรคใด เมื่อสภาไม่สามารถตอบสนองเจตนารมณ์ของประชาชนที่ฝากความหวังให้ ส.ส.ปฏิบัติหน้าที่อย่างสุดความสามารถแล้ว ผู้แทนประชาชนก็ไม่อาจหลีกหนีความรับผิดชอบ” มาดามเดียร์โพสต์เฟซบุ๊คก่อนเดินสวยๆออกจากพรรคห่วยๆไปอีกราย พรรคพลังประชารัฐเจอระเบิดลูกเกลี้ยงเขวี้ยงใส่หลังคาไป 2 ลูก ส.ส.ไม่รู้จะอยู่กันยังไง แต่ตัวหัวหน้าป้อมคงไม่รู้สึกรู้สา เพราะท่องคาถา “ไม่รู้ ไม่รู้” อย่างเดียว
ไม่ใช่พรรคพลังประชารัฐจะเสื่อมทรุด คนรุมด่ากันทั้งบางเพราะไปจับมือกับพรรคเพื่อไทยกลับสูตรไปมา ชักเข้าชักออก จนโดนครหาจับมือกับทักษิณดีลลับกับโทนี่ ยื่นหมูยื่นแมวแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กัน พลังประชารัฐให้หาร 100 เพื่อไทยตอบแทนด้วยพี่ใหญ่ป้อมเป็นนายกฯ เม้าท์สนั่นกันแบบนี้เท็จจริงอนาคตต้องตามดูกันว่ามีผสมพันธุ์กันจริงตามที่พูดกันหรือไม่ เรื่องอนาคตยังพอมีเวลาค่อยว่ากัน แต่พรรคพลังประชารัฐตอนนี้ต้องบอกว่าหมดราคา ตกต่ำถอยหลังไปมากจากพรรคแกนนำรัฐบาลหมายเลข 1 เมื่อคราวเลือกตั้งปี 2562 ได้ส.ส.เขตมา 97 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 19 คน รวมกัน 116 คน แต่หลังขับขบถพรรคเศรษฐกิจไทยออกไป 21 คน ปัจจุบันเหลือจริงๆแค่ 97 คน ถามว่าเลือกตั้งรอบหน้าจะเหลือกี่คน อุดมการณ์ก็ไม่มี วิถีการเมืองก็ไม่ชัด ขนาดนายกฯคนดีอย่างพล.อ.ประยุทธ์ยังถูกบ่อนเซาะกร่อนทำลาย คนดีอยู่ในพรรคไม่ได้พีระพันธุ์ต้องออกมาตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ “แรมโบ้อีสาน” อย่างเสกสกล อัตถาวงศ์ ต้องไขก๊อกออกมาตั้งพรรคเทิดไท
ในพรรคตอนนี้มีแต่พวก “เสือ สิงห์ กระทิง แรด” อยู่กันด้วยผลประโยชน์ล้วนๆ เลือกตั้งงวดก่อนได้กระแส “บิ๊กตู่ฟีเวอร์” ทำให้ได้คะแนนเป็นกอบเป็นกำได้ส.ส.มาเป็นกระบุงโกย เที่ยวหน้าอย่าว่าแต่หลักร้อยเลย 50 คนก็ไม่รู้จะถึงไหม มีแคนดิเดตนายกฯดีๆอย่างพล.อ.ประยุทธ์กลับไม่ดูแลรักษา แค่นั้นไม่พอยังทำลายขัดขวางบางคนเสือกทำตัวเป็นนั่งร้านผุพังอีก ปัญหาชาวบ้านไม่เคยดูแล วันๆเอาแต่ทำเรื่องการเมืองผลประโยชน์ของพวกพ้องและพี่ใหญ่ เลือกตั้งเที่ยวหน้าระวังจะสอบตก ไม่เห็นโรงศพไม่หลั่งน้ำตา คนไทยจำได้ คนไทยรู้หมด ทำอะไรกันไว้อย่าคิดว่าคนไทยจะลืม รอบหน้าถ้าพล.อ.ประยุทธ์ไม่อยู่เตรียมม้วนเสื่อกลับบ้านได้เลย คะแนน 7-8 ล้านเสียงที่เคยได้ทั้งประเทศจะสวิงกลับไปหาพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย ไม่มีทางจมปรักอยู่กับพรรคพลังประชารัฐแน่นอน ใครจะอยู่พรรคพลังประชารัฐก็อยู่ไป แต่หลายคนเตรียมทางหนีทีไล่ไว้หมดแล้ว อย่าหวังจะเข็นบิ๊กป้อมขึ้นนายกฯ หามพี่ใหญ่เข้าทำเนียบรัฐบาลเป็นนายกฯ ฝันค้างแน่นอนคนไทยไม่เอา
หันมาดูในส่วนของพรรคเล็กที่มี 15-20 พรรค การยกเลิกสูตรหาร 500 คงทำให้ “สวรรค์ล่ม” หลายพรรคอาจต้องจบเห่หลายคนอาจต้องสูญพันธุ์หมดโอกาสที่จะเป็นผู้แทนอันทรงเกียรติไปตลอดกาล หลายคนที่ไปกระดี๊กระด๊าตามติดพล.อ.ประวิตรไปดูบริหารจัดการน้ำที่จ.สระบุรี หนีประชุมสภาทั้งๆที่เป็นเรื่องความเป็นความตายตัวเอง แทนที่จะสู้อย่างมีเกียรติในสภาแต่ดันหนีไปก้อร่อก้อติกเอาใจบิ๊กป้อมหวังจะให้เขาดึงเข้าพรรคพลังประชารัฐ บอกเลยพรรคเล็กดึงไปก็เป็นปุ๋ยอยู่ไปก็ไร้ค่า อย่าลืมว่าพรรคพลังประชารัฐมีส.ส.เขตทุกพื้นที่อยู่แล้ว พรรคเล็กส่วนใหญ่ล้วนมาจากส.ส.บัญชีรายชื่อ คราวก่อนได้อาณิสงฆ์จากสูตรคำนวณจัดสรรปันส่วนผสม เพดานส.ส.พึงมี คะแนนไม่ตกน้ำ เลยพลอยฟ้าพลอยฝนมาได้ แต่ลองไปดูคะแนนแต่ละคนน้อยมาก ได้ทั้งประเทศมาแค่ 3-6 หมื่นคะแนนเท่านั้น รอบนี้กลับไปใช้สูตรหาร 100 เอาคะแนนรวมทั้งหมดมาหาร เลือกตั้งคราวก่อน 35 ล้านคะแนน หาร 100 ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 คน คิดง่ายๆ ต้องได้คะแนน 350,000- 400,000 คะแนนถึงจะได้ส.ส. 1 คน จองตั๋วรถทัวร์กลับไปอยู่บ้านได้เลย ไม่มีทางได้กลับไปสภาหินอ่อน อยากได้หาร 100 ตามใจบิ๊กป้อม ตัวตายก็ยอมพรรคเล็กจะฉิบหายก็ไม่เป็นไร เห็นปลายทางอย่างนี้แล้ว จะอยู่ต่อกับบิ๊กป้อมก็ตามใจแต่ในพรรคพลังประชารัฐรับรองไม่มีที่ยืน ได้อยู่ในลิสต์บัญชีรายชื่อก็คงหางแถวไม่มีทางลุ้นเป็นส.ส.กับเขาได้ นับถอยหลังได้เลยพวกพรรคพลังประชารัฐ พรรคเล็กก๋อกรรมอย่างไรไว้ ผีท้องกลมหาร 500 จะกลับมาตามเอาคืนแน่นอน เลือกตั้งเร็วๆนี้ได้รู้กัน
///////////////////