ตู่ไม่ออก ม็อบจุดไม่ติด ศาล(ยัง)ไม่ตัดสิน ไล่นายกฯคว้าน้ำเหลว

หลังคำร้องส.ส.ฝ่ายค้าน 171 คน เพิ่งถูกส่งถึงศาลรัฐธรรมนูญ  8 สื่อยังไม่สำนึกผิดถูก หลังเปิดโหวตไล่ประยุทธ์แบบออกหน้า  ชี้นำสังคมกดดันศาลแบบไร้ยางอาย เปิดผลคนโหวตแค่ 0.5 เปอร์เซ็นต์ของคนทั้งประเทศ   “จตุพร-นกเขา” เตรียมนำม็อบหร็อมแหร็มปักหลักพักค้างลานคนเมืองรอฟ้าสางบุกไล่ประยุทธ์ที่ทำเนียบ  จรัญ อดีตอรหันต์ตุลาการศาลรธน.  ยันกระบวนการตัดสินไม่เร็ว คาดเกินเวลาเป็นเดือน  บิ๊กตู่ไม่คิดยุบสภา-ลาออก  ส่งแผน 23 -24 ส.ค. ไล่ประยุทธ์ งานกร่อย     

22 ส.ค.2565  นับถอยหลัง 24 ชั่วโมงก่อนหน้าเดดไลน์ที่ฝ่ายค้าน ฝ่ายแค้น ฝ่ายคัน  อยากยิกอยากไล่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม  เพราะคิดเองเออเองขี้ตู่เองว่าพล.อ.ประยุทธ์จะครบวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 158 วรรค 4  เที่ยงคืนของวันอังคารที่ 23 ส.ค.2565 ภายหลังจากขึ้นเป็นนายกฯครั้งแรกตั้งแต่ 24 ส.ค. 2557 หรือเมื่อ 8 ปีที่ผ่านมา  ต้องบอกว่าความเห็นเรื่อง 8 ปีนายกฯจะนับกันแบบไหนนับกันยังไงนั้นมีหลากหลาย  แต่ทิ่กมาโหมโรงว่าจะสิ้นสุดในวันที่ 23 ส.ค. ตอน 24.00 น. นั้น   กลุ่มที่ออกมาปักธงความคิดนี้ หลักๆก็มาจากพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล และคนของฝ่ายทักษิณที่พยายามออกมาสร้างกระแสว่าหมดเวลาทำงานของพล.อ.ประยุทธ์แล้วถึงเวลาต้องลงจากตำแหน่ง   กองเชียร์หรือกลุ่มที่ออกมาสนับสนุนความคิดนี้  ส่วนใหญ่ก็พวกคนกลุ่มเดิมๆหน้าเดิมๆ ที่จองเวรพล.อ.ประยุทธ์อยู่ตรงข้ามกับรัฐบาลในทุกเรื่องที่เป็นกระแสอยู่แล้ว ประกอบด้วย 1.กลุ่ม 99 ปัญญาชนและพลเมืองไทย  2. กลุ่ม 51 อาจารย์นิติศาสตร์ 15 มหาวิทยาลัย  3.กลุ่มแพทย์ชนบท  และ 4. บรรดา 8 สื่อ ประกอบด้วย  4 ทีวีดิจิตัล คือ  1.พีพีทีวี  2.เนชั่น 3. ไทยรัฐทีวี และ 4.ช่องเวิร์คพอยท์  ร่วมกับสื่อโซเชียลมีเดียร่วมด้วยอีก 4 แห่งคือ 1.The Standard 2. the Matter  3.the Momentum และ 4.the Reporters

บรรดา  4  กลุ่มสนับสนุนที่ว่านี้ก็เป็นไม้เบื่อไม้เมากับพล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาลมาตลอด  99 พลเมืองก็มาด่านายกฯประจำ  ส่วนพวกอาจารย์นิติศาสตร์หลายคนก็พวกว่างงานจากสอนหนังสือรับจ็อบปล่อยของล้มนายกฯคว่ำรัฐบาล  แพทย์ชนบทก็รู้ๆกันอยู่ว่ายุคนี้เป็นอย่างไร  อยู่ฝ่ายไหนเข้าข้างใคร   8 สื่อที่มาผสมโรงด้วยก็พวกอีแอบเชียร์ทักษิณฝ่ายโทนี่  อยากล้มพล.อ.ประยุทธ์ให้พ้นๆไป  อยากได้นายกฯใหม่ฝ่ายโกงชาติมานำพาบ้านเมือง  เพราะผลประโยชน์มันทับซ้อนมันขี่คอกัน  คุยง่ายไถง่ายแดกได้ง่ายกว่ายุคพล.อ.ประยุทธ์  ทั้งหลายทั้งมวลจึงลุกขึ้นมาจับมือกันทำเรื่องอุบาทว์หยาบช้า  จู่ๆก็มาตั้งโหวตถามแฟนคลับของตัวเอง  ที่ส่วนใหญ่ ย้ำว่าส่วนใหญ่ก็ตะเภาเดียวกัน ให้มาโหวตไล่นายกฯ  หนำซ้ำตั้งคำถามก็สุดอัปลักษณ์  ส่อให้เห็นชัดว่าใจดำคันสุดๆในการอยากไล่บิ๊กตู่    เพราะขึ้นคำถามชี้นำถามชาวบ้านว่า   “ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ควรดำรงตำแหน่งนายกฯ เกิน 8 ปีหรือไม่ ? ”   ปัดโธ่ เรื่อง 8 ปี มันยังต้องตีความกันอยู่แล้ว ว่าจะนับกันตรงไหนนับกันอย่างไร  ฝ่ายเกลียดก็ต้องบอกว่าครบ 8 ปีแล้ว  ฝ่ายชอบก็ต้องบอกว่าเหลือเวลาอีกบานเบอะ ดีสุดคือต้องรอฟังการพิจารณาของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คน  ว่าอรหันต์ขั้นเทพท่านจะว่าอย่างไร  ผลสรุปคำวินิจฉัยออกมาอย่างไรก็ต้องเคารพ  เพราะรัฐธรรมนูญเขียนชัด  “คำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กร”

ไม่กี่อึดใจเขาก็ตัดสินกันอยู่แล้ว เพราะตอนนี้มีทั้งคำร้องที่ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยไปยื่นเรื่องให้ผู้ตรวจการแผ่นดินกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ขณะที่อีกช่องทางส.ส.ฝ่ายค้าน 171 คนเข้าชื่อให้ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา  เรื่องมันกำลังเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการอยู่แล้ว  แต่ 8 สื่อที่ว่าไปกระเหี้ยนกระหือรือมาจากไหน   ถึงขนาดกระโจนลงไปชี้นำสังคมลงไปเป็นคนสร้างประเด็นความขัดแย้งแตกแยกนี้ขึ้นมาเอง  เก็บอาการไม่อยู่อยากไล่พล.อ.ประยุทธ์ถึงขั้นตั้งโหวตตะเพิดนายกฯเองเลยหรือ  ถามจริง “ยางอาย” ความเป็นสื่ออยู่ตรงไหน  “จริยธรรม -จรรยาบรรณ” เอาไปซุกในทวารลืมความเป็นกลางที่ต้องดำรงเป็น “ธงนำ” ของวงการสื่อกันหมดแล้วหรือ ระยำเรียกพี่อุบาทว์เรียกพ่อจริงๆ   หากใครที่อยู่ใน 8 องค์กรที่ว่าแล้วมีส่วนคิดเรื่อง “ส้นตีน” ทำโหวตบี้นายกฯ ด้วยความอ่อนด๋อย ด้อยค่าวิชาชีพตัวเองด้วยวิธีการแบบนี้  มิหนำซ้ำผลการโหวต 2 วันที่ผ่านมา   20-21 ส.ค.  มีคนโหวตนายกฯ ไม่ควรอยู่เกิน 8 ปี 348,511 โหวต หรือ 93.17 % และโหวตควรอยู่ต่อ 25,552 คน หรือ 6.83 %  จากคนโหวตทั้งหมด 374,063 คน   หรือคิดเป็นแค่ 0.5% ของคนไทยทั้งประเทศที่มีอยู่ถึง 66 ,171,439 คน  แล้วยังมีหน้ามาเคลมว่าคนไทยส่วนใหญ่อยากให้พล.อ.ประยุทธ์ออกไปอีก  เอาตรรกะอะไรมาวัด  เอาตัวชี้วัดอะไรมาตัดสิน  เพราะคนดูคนอ่านสื่อเสพสื่อก็ฟังพวกคุณมึงที่เอียงข้างด่านายกฯไล่รัฐบาลทั้งนั้น  มันวัดคุณค่าหาความเป็นกลางไม่เจอ แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้คนไทย “ตาสว่าง” แล้วว่ามี 8 สื่อ หน้ามืดตามัวออกโรงไล่ประยุทธ์ตั้งแต่หัววันชนิดที่ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ทันรับคำร้อง  คนคิดคนผลักดันเรื่องนี้ถ้าไม่รับงานก็คงรับเงินมาแน่ๆ  ถึงได้ทำเรื่องอัปลักษณ์ชี้นำสังคมกดดันศาลล่วงหน้าแบบนี้  แต่ต่อให้กดดันยังไงเปิดโหวตทุกวันยันปีใหม่  บอกได้เลยคนแข็งไม่กลัวไฟอย่างบิ๊กตู่ไม่มีทางไขก๊อกประกาศลาออก ที่หวังจะเห็นพล.อ.ประยุทธ์ยื่นจดหมายลาออกไม่มีทาง  เจอหมาเยี่ยวรดสังกะสีผีเปรตเตะตัดขา บูรพาพยัคฆ์พันธุ์แท้อย่างบิ๊กตู่ไม่มีทางยอมแพ้  เผลอๆยิ่งฮึดสู้กับคนชั่วได้ลุยกับคนเลวแบบนี้บิ๊กตู่ยิ่งชอบ

23 ส.ค.2565 พรุ่งนี้ มีม็อบ 3 กลุ่มประกาศออกมาเคลื่อนไหวไล่บี้บิ๊กตู่ให้พ้นจากเก้าอี้สร.1  ประกอบด้วย  1.กลุ่มคณะหลอมรวมประชาชน นำโดย “ตู่แดง” จตุพร พรหมพันธุ์ กับ  “ทนายนกเขา” นิติธร ล้ำเหลือ นัดหมายมวลชน บริเวณลานคนเมือง ศาลาว่าการกทม.  2.กลุ่มราษฎรไล่ตู่ คนแดงปฏิวัติ นำโดย วรเดช เปรมกมล ประกาศจัดการชุมนุม  24 ส.ค.2565 บริเวณแยกราชประสงค์และเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล  3.กลุ่ม 14 ขุนพล นำโดย จิรภาส กอรัมย์ ประกาศจัดกิจกรรม “ขีดเส้นตายไล่เผด็จการ” พรุ่งนี้ เวลา 17.00 น.บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล  ประกาศเล่นใหญ่ไล่บิ๊กตู่  เอาจริงมีแต่ขี้โม้ราคาคุย  ลำพังจตุพรกับทนายนกเขา บอกเลยชั่วโมงนี้เป็นขุนศึกไร้ราคา จัดม็อบหลังๆก็แป๊กตลอด ปลุกม็อบก็ไม่ขึ้น เพราะเป้าหมายมันไม่ตรงกับที่มวลชนต้องการ  จัดม็อบสนองความยากตัวเองตั้งเวทีชุมนุมเพราะต้องการหาที่ยืนในสังคม  2565 หมดยุค “ตุ๊ดตู่-นกเขา” แล้ว  ที่บอกชื่อม็อบหลอมรวมประชาชนเอาเขาจริงคนเขาหัวเราะกันไปทั่ว เพราะกลายเป็น “ม็อบหร็อมแหร็ม” คนมาร่วมชุมนุมแค่หลักสิบหลักร้อย  ด้อยค่าตัวเองอายเค้าป่าวๆ มีแต่คนสมเพชเห็นแล้วทุเรศนัยตา

ขณะที่กระบวนการยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ  ที่ฝ่ายตรงข้ามหวังจะให้เป็นเพชรฆาตฟันคอพล.อ.ประยุทธ์ให้ริบเลือน  ฝ่ายค้านส่งคำร้องให้ชวน 17 ส.ค.  จากนั้น 20 ส.ค.ชวนรับรองคำร้อง  22 ส.ค.เรื่องเพิ่งส่งไปศาลรัฐธรรมนูญ  และทุกอย่างมันมีกระบวนการ ยังไง 23-24 ส.ค. ก็ไม่ทันการที่หวังเชือดพล.อ.ประยุทธ์ หวังให้ศาลสั่งบิ๊กตู่ให้หยุดปฏิบัตหน้าที่ มันไม่มีทางเป็นไปได้ เรียกว่าเกินลงกา  เพราะขั้นตอนของศาลรัฐธรรมนูญเขามีกฎระเบียบวิธีการอยู่ว่าจะรับหรือไม่รับคำร้อง  รับแล้วตั้งตุลาการประจำคดีหรือไม่  ไหนจะขั้นตอนไต่สวนหาความจริงอีก  ไหนจะต้องเปิดโอกาสให้ผู้ถูกร้องชี้แจงเรื่องที่ถูกกล่าวหาอีก  จากนั้นก็ประชุมปรึกษาเพื่อวินิจฉัย  จากนั้นก็ต้องไปเขียนคำวินิฉัยส่วนตัว  ก่อนจะมาสรุปเป็นคำวินิจฉัยกลาง เสร็จจากนั้นจึงจะอ่านคำวินิจฉัย   จะมาพิจารณามั่วๆตามใจใครเอาใจฝ่ายไหนคงไม่ได้  ยิ่งคดีนี้เป็นคดีโคตรใหญ่กำหนดชี้เป็นชี้ตายของบ้านเมือง เชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญต้องทำด้วยความรอบครอบรัดกุม ไม่ใช่ลูบหน้าปะจมูกเพื่อเอาใจฝ่ายไหนหรือให้ถูกใจใคร

 

ฟังจากที่ จรัญ ภักดีธนากุล อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 1 ใน 9 อรหันต์    ออกมาชี้แจงขั้นตอนการวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญอย่างน้อยก็อีกเป็นเดือนหรือเดือเศษ  กว่าขั้นตอนศาลจะแล้วเสร็จเพราะมีกระบวนการค่อนข้างมาก    “  เมื่อเรื่องมาถึงเจ้าหน้าที่จะรับเรื่องไว้ตรวจสอบความเรียบร้อยประมาณครึ่งวัน ก่อนทำเรื่องเสนอให้ศาลพิจารณาสั่งรับคำร้องขอ  ซึ่งบางครั้งอาจจะต้องใช้เวลาข้ามวัน เพราะศาลอาจจะมอบหมายให้องค์คณะ 1 คน หรือ 2 คน หรือ 3 คนทำ สมมติว่า ศาลสั่งรับคำร้องขอแล้ว โดยหลักก็จะต้องดูว่า ไปกระทบผลได้ผลเสียของใครบ้างหรือไม่ หากกระทบก็ควรให้คนเหล่านั้นได้มีโอกาสคัดค้านโต้แย้งตามหลักการ ฟังความให้ครบทุกฝ่าย ไม่ฟังความด้านเดียว   ตรงนี้ก็จะให้โอกาสการโต้แย้งคัดค้านจากผู้ที่เดือดร้อนก่อน ซึ่งใช้เวลาอย่างน้อย 7 วัน   จากนั้นศาลก็อาจจะฟังความเห็นของคนที่เกี่ยวพันกับหลักกฎหมายข้อนี้  อาทิ  กกต. หรือคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ก็อาจจะใช้เวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์   จากนั้นจะดูว่า ต้องไต่สวนพยานบุคคลหรือพยานเอกสารหรือไม่ ซึ่งส่วนตัวเห็นเหมือนกับความเห็นส่วนใหญ่ว่า ไม่น่าจะจำเป็นต้องไต่สวนพยานบุคคล เพราะถ้าไต่สวนพยานบุคคลก็จะยาว ทั้งนี้หลังจากที่ได้ความเห็นและได้เอกสารมาแล้ว ศาลจะประชุมหารือโต้เถียงออกความคิดเห็นกันอย่างน้อยที่สุด 1-2 ครั้ง   คิดว่า 2 ครั้ง ซึ่งก็ต้องใช้เวลาห่างกันอย่างน้อยครั้งละ 1 สัปดาห์ และหลังจากความคิดเห็นตกผลึก ก็จะนัดประชุมเพื่อลงมติ ก็จะต้องเลือกเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เนื่องจากเป็นข้อยุติผูกพันทุกองค์กร เข้าใจว่าต้องเร็ว แต่ก็ต้องแม่น จึงต้องใช้เวลาตัดสินใจให้ดี  ทั้งนี้ เมื่อออกคำวินิจฉัยก็จะรู้ผลในวันนั้นเลย ข่าวก็จะออกได้เลย แต่คำวินิจฉัยเป็นทางการก็จะส่งไปที่ประธานรัฐสภาในภายหลัง” อาจารย์จรัญอธิบายร่ายยาวละเอียดยิบ    เห็นที่มาที่ไปของปม 8 ปี  นายกฯตามนี้แล้ว  บอกเลยว่าเป้าหมายอยากเห็นบิ๊กตู่ถูกคว่ำถูกล้มในวันที่ 23-24 ส.ค.นี้ไม่มีทาง เพราะกระบวนการพิจารณาเรื่องนี้ในชั้นศาลรัฐธรรมนูญยังอีกยาว ไอ้ที่หวังจะเห็นบิ๊กตู่ไขก๊อกลาออกยุบสภาวันสองวันนี้ไม่มีทางไม่มีลาออก ส่วนม็อบที่มาเย้วๆกันทุกกลุ่มก็คงจุดไม่ติดเพราะคนไทยไม่เอาด้วย  ส่วนที่รอว่าจะได้ส้มหล่น หวังว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คน  จะตัดสินคดีนี้ให้ บอกเลยศาลยังไม่ตัดสิน ยังมีเวลาอีกนานเพราะฉะนั้นที่จะเปิดไวน์ฉลองไล่พล.อ.ประยุทธ์ในเร็ววันคงคว้าน้ำเหลวแน่นอน

////////////////////////

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ชาวสัตหีบ ผวา กลัวคนร้ายมีมนต์สะกดให้หลับ ก่อเหตุ 2 ครั้ง ฉกโทรศัพท์ 8 เครื่อง ในศาลาสวดศพวัดเทพประสาท
รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติฯ ทำ MOU บริษัท ไวท์พลาย ยกระดับการให้บริการสุขภาพ ตอบสนองต่อแผนยุทธศาสตร์ ในเรื่อง Smart Hospital และนโยบาย ผบ.ทร.
ตำรวจภูธรภาค 2 ผนึกกำลังเปิดปฏิบัติการ ล้างบางปรสิต กำจัดอาชญากรข้ามชาติ
ตำรวจแจ้งเอาผิด 4 ข้อหาหนัก ก่อนฝากขัง "คนร้าย" ยิง 3 ศพ หนองบัวลำภู
รวมพลอริเก่า! ลงขันล่า “ตั้ม แดน 3” จ้างซามูไรในคุก รับจบข้ามแดน
“วราวุธ” สั่ง พม. เปิดวอร์รูมศบปภ. เร่งขับเคลื่อนช่วยกลุ่มเปราะบาง น้ำท่วมภาคใต้
"พิชัย" นำทีมพณ.หารือ "สหพันธ์ขนส่งฯ" แลกมุมมองพัฒนาธุรกิจโลจิสติกส์ไทยให้เข้มแข็ง
จีนขู่จะบดขยี้ผู้พยายามประกาศเอกราชไต้หวัน
"รมว.ปุ๋ง" ขึ้นเหนือชวนนักท่องเที่ยวแอ่วลำปาง-ลำพูน ยกย่องชุมชนคุณธรรมฯ ท่ามะโอ-วัดพระธาตุลำปางหลวง
“โฆษกดีเอสไอ” แจงชัด ไม่มีเอี่ยวภาพเอกสารพ่วงตราดีเอสไอ กล่าวหาผู้บริหารปตท. พัวพันทุจริตฟอกเงิน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น