ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 1 ยันไม่ปกป้องคนผิด หลัง “ส.ต.ท.หญิง” ทำร้ายอดีตทหารรับใช้

ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 1 ยืนยัน ไม่ปกป้องคนผิด หาก ส.ต.ท.หญิงโหด ทารุณทหารรับใช้ปากตาย ไม่มารายงานตัว ถือว่ามีความผิดตามวินัย

พล.ต.ต.อุดร วงษ์ชื่น ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 1 เปิเผยกรณี ส.ต.ท.หญิงกรศศิร์ บัวแย้ม สังกัดตำรวจสันติบาล ก่อเหตุทารุณกรรมทหารรับใช้จนได้รับบาดเจ็บสาหัส จนกลายเป็นกระแสข่าวคึกโครมในขณะนี้ ว่า ส.ต.ท.หญิงกรศศิร์ บัวแย้ม จะต้องเข้ามารายงานตัวที่กองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 ภายในวันนี้ เนื่องจากมีหนังสือส่งตัวมาที่กองบัญชาการตำรวจสันติบาลแล้ว อยู่ระหว่างรอหนังสือมาที่นี่ ซึ่งตามระเบียบแล้ว หากหนังสือมาถึง จะต้องมารายงานตัวในวันเดียวกัน ไม่เช่นนั้นจะมีความผิดตามระเบียบข้อบังคับ

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนการตรวจสอบพฤติกรรมของตำรวจหญิงคนดังกล่าว จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนภายในวันนี้ ยืนยันว่าไม่มีการช่วยเหลือกันอย่างแน่นอน แต่จะถึงขั้นต้องให้ออกจากราชการหรือไม่นนั้น ขึ้นอยุ่กับการพิจารณาตามแนวทางสืบสวนสอบสวนของทาง สภ.เมืองราชบุรี เกี่ยวกับพฤติกรรมดังกล่าวที่เกิดขึ้น

ขณะที่รายละเอียดการทำงานที่กองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 ของตำรวจหญิงรายดังกล่าว มีการย้ายมาจากหน่วยอื่น เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งเป็นการแต่งตั้งโยกย้ายตามวงรอบปกติ ซึ่งมีการย้ายตำรวจรวมกันกว่า 100 นาย จากนั้นได้เข้ามาทำงานระยะหนึ่ง ก่อนถูกขอตัวไปช่วยราชการที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ซึ่งมีลักษณะการทำงานด้านการข่าว โดยมีประสานงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ รวมถึงตำรวจหญิงรายดังกล่าว สังกัดอยู่ใน กองกำกับการ 4 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 และ 8 ซึ่งอยู่ในพื้นที่ภาคใต้

ขณะเดียวกัน ตำรวจหญิงคนดังกล่าว ตนเองได้รับรายงานว่า เริ่มเข้ามารับราชการตั้งแต่ปี 2560 แต่ไม่แน่ใจว่าอยู่สังกัดใดก่อนหน้านี้ ส่วนขั้นตอนการรับมีการตรวจสอบประวัติสุขภาพจิตหรือไม่ ตนเองไม่สามารถตอบได้เนื่องจากไม่ได้อยู่ในส่วนความรับผิดชอบ เรื่องการรับบุคคลภายนอกเข้าบรรจุราชการ เนื่องจากอยู่ในความรับผิดชอบของกองบัญชาการศึกษา เป็นหน่วยงานทำหน้าที่เปิดรับสมัคร

อีกทั้งพฤติกรรมการทำงาน ยังไม่ได้รับรายงานความบกพร่องในหน้าที่ แต่จะต้องมีการตรวจสอบอีกครั้ง ซึ่งลักษณะการทำงานในกองบัญชาการตำรวจสันติบาล ไม่จำเป็นต้องเข้ามาทำงานที่หน่วยงานทุกวัน เพราะลักษณะเป็นงานข่าว ต้องออกไปหาข่าวตามพื้นที่ต่างๆ รวมถึงคำถามที่สังคมสงสัยว่า เหตุใดตำรวจหญิงคนดังกล่าว จึงมีทหารรับใช้ได้ ตนเองก็ไม่ทราบเช่นกัน แต่ตามปกติ ไม่สามารถมีได้ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจยศไหนก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติม ว่า ส.ต.ท.หญิงคนดังกล่าว เข้ารับราชการตามระเบียบหรือไม่ เพราะหากเข้ารับราชการในปี 2560 แต่ปัจจุบัน อายุจะครบ 44 ปีในเดือนหน้า นั่นหมายความว่า ตำรวจหญิงคนดังกล่าว เข้ารับราชการอายุเกิน 35 ปี ตามระเบียบหรือไม่ นั้น ข้อมูลส่วนนี้ยังไม่ได้รับรายงาน เพราะเป็นส่วนที่กองบัญชาการศึกษารับผิดชอบ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน
สถาปนาเขตพื้นที่คุ้มครองฯ ชาติพันธุ์ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว
ผบ.ตร.สั่งสอบคลิปแก๊งต่างด้าว แสดงพฤติกรรมเย้ยกม. กำชับคุมเข้ม ใช้ยาแรง
รมว.วัฒนธรรม เปิดงานรวมญาติชาติพันธุ์ชาวเลครั้งที่ 14 ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว กระบี่ เร่งส่งเสริมวิถีชีวิต วัฒนธรรมชาวเล
ป้าย สุดเจ๋ง "รับซื้อบ้านผีสิง" เจ้าของป้ายรับซื้อจริง มารีโนเวทขาย
"สุดาวรรณ" เยี่ยมชมชุมชนชาวเลสังกาอู้-วิถีวัฒนธรรมชาวเลอูรักลาโวยจ จ.กระบี่
สจ.ธรรมชาติฟ้องตรงอัจฉริยะเรียกค่าเสียหาย 10 ล้านบาท
อย.ตรวจพบสารอันตรายใน อาหารเสริม “กัมมี่” แบรนด์ดัง เร่งดำเนินคดีตามกม.ผู้ผลิต
กระบะสี่ประตูถอยชนกระบะแคปในปั้มน้ำมันแล้วหนีไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สาววัย 41 ปี เจ้าของกระบะแคปหวังเพียงคำขอโทษ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น