วันที่ 22 ส.ค. 2565 ที่ สภ.เมืองขอนแก่น นางนิตยา รุ่งสถิต อายุ 55 ปี มารดาของ น.ส.อรุณนภา วัฒนพานิช หรือ น้องอาย อายุ 19 ปี นักศึกษาแพทย์ ชั้นปีที่ 2 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถบัสของคณะพยาบาลศาสตร์ ชนจนเสียชีวิต บริเวณสามแยกคณะเภสัชศาสตร์ มข. เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่ผ่านมา เดินทางมาพร้อมด้วยครอบครัวและทนายความ เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น
แม่น้องอาย นักศึกษาแพทย์ มข.ที่ถูกรถบัสคณะพยาบาลชนจนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 1.0 ส.ค.ที่ผ่านมา ยื่นข้อเสนอเยียวยาจากทางมหาวิทยาลัยขอนแก่น 66 ล้านบาท ขณะที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นเตรียมนำเข้าประชุมสภาฯ
ข่าวที่น่าสนใจ
นอกจากนี้ยังมี รศ.เพียรศักดิ์ ภักดี รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและนักศิษย์เก่าสัมพันธ์ในฐานะตัวแทนของมหาวิทยาลัยขอนแก่น และ ผศ.ดร.พักตร์วิไล ศรีแสง คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) และคนขับรถบัสคันเกิดเหตุ ก็เดินทางมาด้วย เพื่อเจรจา ว่า มข.จะมีการรับผิดชอบเยียวยาแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตในเรื่องใดบ้าง โดยมี พ.ต.อ.ปรีชาเก่งสารกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น และพนักงานสอบสวน ร่วมรับฟังการเจรจาของทั้งสองฝ่ายด้วย
หลังการเจรจากว่า 4 ชม. นางนิตยา รุ่งสถิต อายุ 55 ปี แม่น้องอาย ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า การพูดคุยในครั้งนี้ ตัวแทนมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ให้ทางครอบครัวเป็นผู้ยื่นข้อเสนอว่า ต้องการให้ มข. ช่วยเหลืออะไรบ้าง จึงบอกไปว่า เรื่องความช่วยเหลือนั้น อยากให้ มข. คิดถึงคนทำหน้าที่แพทย์ เพราะอธิการบดี มข. ก็เป็นแพทย์น่าจะรู้และเข้าในว่า การที่จะเรียนจบและมาทำหน้าที่แพทย์นั้น เป็นอย่างไร จริงแล้วอยากคุยกับอธิการบดี มข. อยากรู้ความรู้สึกนึกคิด อยากรู้การแสดงออกที่เห็นว่ามีความรับผิดชอบ แต่อธิการบดี ไม่มา จึงเสนอไปว่า ครอบครัวขอค่าเยียวยา กรณีที่เรียนจบแล้วได้เป็นแพทย์ ตั้งแต่อายุ 25 ปี จนถึงเกษียรราชการ อายุ 60 ปี ค่าจ้างวันละ 5,000 บาท รวมเป็นเงินประมาน 66 ล้านบาท
การเสนอค่าเยี่ยวยาในครั้งนี้ก็รู้ว่าตัวแทนของ มข.ให้คำตอบไม่ได้ เพราะตัวแทน มข. ใช้คำว่า มข. ต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุมก่อน จากนั้นก็ยื่นเรื่องเข้าที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยขอนแก่น ตามขั้นตอน ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่า สภาฯ จะนำเรื่องนี้เข้าเป็นญัตติของที่ประชุมหรือไม่
นางนิตยา ยังกล่าวอีกว่า ตั้งแต่ลูกสาวเสียชีวิต มีเพียง คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์และเจ้าหน้าที่คณะพยาบาลที่มาดูแลเอาใจใส่ในทุกเรื่อง ต้องขอบคุณด้วย แต่อธิการบดีนั้น ไม่เคยเห็นหน้า มีเพียงเจ้าหน้าที่มาแจ้งว่า อธิการบดีไม่สบาย จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ให้เซ็นเอกสาร โดยบอกว่า เป็นเอกสารที่มข.จะจ่ายเงินเยี่ยวยานักศึกษา จำนวน 130,000 บาท โดยบอกว่าจะโอนเงินเข้าบัญชีให้มารดาและบิดาคนละครึ่ง แต่ผ่านไป 12 วันแล้ว ทุกอย่างยังนิ่ง ไม่มีเงินเข้าบัญชีแม้แต่บาทเดียว ขณะเดียวกัน ครอบครัวก็อยากได้ใบชันสูตรศพจากนิติเวช มข. เพื่อนำไปให้บริษัทประกันชีวิต เบิกเงินประกันของน้องอาย ที่อากง อาม่า ทำให้หลานสาว ขอ 3 ครั้ง ก็ยังไม่ได้ โดยรับคำตอบจากแพทย์นิติเวชว่า อยู่ระหว่างการส่งชิ้นเนื้อไปตรวจพิสูจน์ ก็เลยงงว่า ลูกสาวตายจากอุบัติเหตุ มีภาพให้เห็นอย่างชัดเจน ไม่ได้ป่วยเป็นโรคร้าย หรือติดเชื้อร้ายอะไร ทำไมต้องตรวจชิ้นเนื้อ ทำให้คลางแคลงใจมาก
การพูดคุยวันนี้สรุปว่า ตัวแทน มข. ให้ครอบครัวยื่นข้อเสนอไป ซึ่งได้มีการนัดฟังคำตอบอีกครั้งในวันที่ 12 กันยายนที่จะถึงนี้ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ อธิการบดี มข. มาพูดคุยเอง ทุกอย่างจะได้จบลง ไม่ต้องยืดเยื้อไปอีก เพราะการสูญเสียของครัวครัวนั้น ไม่สามารถ ประเมินค่าได้ แต่ความรับผิดชอบของมข.สามารถประเมินได้ ถ้าหากจะลงมือทำ ไม่ใช่ปล่อยให้ยืดเยื้อ คนเป็นแพทย์ น่าจะเข้าใจครอบครัว นักศึกษาแพทย์มากที่สุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-