พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีข้อสงสัยเกี่ยวกับ ส.ต.ท.กรศศิร์ บัวแย้ม หรือ “เจ๊นุช” อายุ 43 ปี ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 ผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายอดีตทหารคนรับใช้อย่างทารุณ อายุเกินเกณฑ์เข้ารับราชการตำรวจหรือไม่ ว่า ส.ต.ท.กรศศิร์ เป็นตำรวจชั้นประทวน เข้ารับราชการตำรวจตามขั้นตอนถูกต้อง ผ่านการคัดเลือกโดยคณะกรรมการ โดยใช้วุฒิ ปวส.ด้านบัญชี เป็นคุณวุฒิที่ขาดแคลน และมีความจำเป็น จึงได้รับการยกเว้นหลักเกณฑ์ตามคณะกรรมการตำรวจ แม้อายุจะเกิน 35 ปีก็ตาม
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกรณีการเข้าเป็นตำรวจของ ส.ต.ท.กรศศิร์ บัวแย้ม เป็นการใช้วุฒิด้านบัญชี ปวส. ซึ่งเป็นวุฒิขาดแคลน จึงได้รับการยกเว้นอายุเกิน
ข่าวที่น่าสนใจ
ทั้งนี้ ส.ต.ท.กรศศิร์ บรรจุเป็นตำรวจเมื่อปลายปี 2560 สังกัดสำนักงบประมาณและการเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จากนั้นเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ย้ายมาสังกัดตำรวจสันติบาล 1 ส่วนการดำเนินการทางวินัย ขณะนี้ถูกสอบสวนวินัยร้ายแรง เนื่องจากถูกดำเนินคดีเป็นเจ้าหน้าที่รัฐค้ามนุษย์ ซึ่งมีอัตราโทษ 2 เท่า และข้อหาทำร้ายร่างกายแต่ยังไม่มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน
โดยเส้นทางการรับราชการของ ส.ต.ท.หญิง รายนี้ ขณะที่ยังรับราชการที่สำนักงานงบประมาณฯ ถูก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ขอตัวไปช่วยราชการ ซึ่งไม่มีข้อมูลว่าเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ จากนั้นเดือนกุมภาพันธ์ 2565 มีคำสั่งย้ายไปสังกัดกองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 ขณะที่ยังช่วยราชการอยู่ กอ.รมน. จนเพิ่งมีหนังสือส่งตัวกลับหลังเกิดเรื่อง
เมื่อสอบถามว่า ส.ต.ท.คนดังกล่าว เข้ามาโดยใช้คุณวุฒิด้านบัญชีตอนที่ กอ.รมน. ขอตัวไปช่วยงาน มีการให้เหตุผลหรือไม่ว่า ขอตัวไปช่วยงานด้านไหน พ.ต.อ.กฤษณะ เปิดเผยว่า ตนเองยังไม่เห็นเอกสาร จึงไม่ทราบเหตุผล อย่างไรก็ตามประเด็นที่สำคัญกว่าคือ การดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ซึ่งการกระทำความผิดเป็นการกระทำส่วนบุคคล ตำรวจจะดำเนินการอย่างเต็มที่แน่นอน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-