ประเด็นใหญ่การเมืองวันนี้ ต้องจับตาไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ ที่ในช่วงเช้าวันนี้องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คนจะมีการประชุมเพื่อพิจารณาคดีความและคำร้องต่างๆที่ส่งมาถึงศาลตามปกติทุกวันพุธในเวลา 10.00 น. แต่ไฮไลต์สำคัญของการประชุมวันนี้ 24 ส.ค.2565 ต้องจับตาดูว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะนำคำร้องที่ 171 ส.ส.พรรคฝ่ายค้านยื่นผ่านชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยอาศัยรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 เพื่อให้ตีความการดำรงตำแหน่งนายกฯของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ไม่เกิน 8 ปี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 158 วรรค 4 สิ้นสุดลงตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค.2565 หรือไม่ และขอให้มีคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะอ่านคำวินิจฉัย
ทั้งนี้แนวทางของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่มีต่อคำร้องในเรื่องนี้ จะออกได้ 3 หน้า คือ 1. รับคำร้องไว้พิจารณาและสั่งให้พล.อ.ประยุทธ์ยุติการปฎิบัติหน้าที่ช่วงรอการพิจารณา 2.รับคำร้อง แต่พล.อ.ประยุทธ์ยังสามารถปฎิบัติหน้าที่ต่อได้ และ 3.ตีตกไม่รับคำร้อง อย่างไรก็ตามวานนี้ “เนติบริกรเสื้อคลุมลายพราง” อย่างวิษณุ เครืองาม รองนายกฯฝ่ายกฎหมาย ซึ่งน่าจะเป็นที่ปรึกษากฎหมายและทนายส่วนตัวของพล.อ.ประยุทธ์ก็ออกมาให้ความเห็นที่น่าสนใจ โดยมั่นใจว่าศาลรัฐธรรมนูญจะ “รับ” พิจารณาคำร้องนี้อย่างแน่นอน เพราะยื่นเรื่องไปถูกต้องตามกระบวนการรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้เชื่อว่าการพิจารณาคำร้องในเรื่องนี้ของศาลจะเกิดขึ้น “เร็ว” เพราะไม่จำเป็นต้องแสวงหาข้อมูลหลักฐานอะไร เป็นแค่การตีความทางกฎหมายซึ่งไม่ได้สลับซับซ้อนอะไร
ประเด็นสำคัญวิษณุยังยืนยันว่าหากศาลไม่มีคำสั่งให้นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว พล.อ.ประยุทธ์ก็สามารถทำงานต่อไปได้จนกว่าศาลจะมีการอ่านคำวินิจฉัย ยกเว้นหากศาลมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราวพล.อ.ประยุทธ์ก็ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ในทันที แต่การบริหารประเทศก็จะไม่ขาดช่วงแน่นอนเพราะยังมี “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ที่พร้อมทำหน้าที่เป็นรักษาการนายกฯได้อยู่แล้ว ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์แม้จะหยุดทำหน้าที่นายกฯชั่วคราว แต่ก็ยังมีตำแหน่งรมว.กลาโหมอีกตำแหน่งที่ยังต้องปฏิบัติภารกิจอยู่ เพราะฉะนั้นสุดท้ายปลายทางก็ต้องรอว่าศาลรัฐธรรมนูญจะรับคำร้องหรือไม่ และหากรับแล้วจะสั่งให้นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวหรือให้สามารถทำงานต่อไปได้ อย่างไรก็ตามเพื่อให้ไม่ถูกครหาว่าเป็น “นายกฯเถื่อน” หรือ “นายกฯฝืนรัฐธรรมนูญ” ในระหว่างที่รอลุ้นผลรับหรือไม่รับคำร้องจากศาลพล.อ.ประยุทธ์เลือกที่จะทำงานที่บ้านในร.1 ทม.รอ. ด้านหนึ่งก็รอผลคำสั่งศาล อีกด้านก็หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า ปะทะกับม็อบหลายกลุ่มที่มาชุมนุมล้อมทำเนียบรัฐบาลเพื่อแสดงพลังขับไล่
ข้ามไปดูบรรดาสารพัดม็อบที่ออกมาขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ วานนี้ 23 ส.ค.2565 ก็มีมากมายหลายกลุ่ม ดาวกระจายกันไปจัดกิจกรรมในหลายที่ แต่บอกได้เลยว่าถ้าวัดจากดัชนี “ความคึกคัก”ของผู้คน หรือ “ความสนใจ” ของชาวบ้าน ต้องบอกว่าบรรดาม็อบที่ออกมาเย้วๆ เมื่อวานขนาดรวมกับหลายกลุ่มหลายก๊วนคนที่มาชุมนุมก็ยังไม่มาก ซ้ำร้ายม็อบธงหลักหัวเรือใหญ่การชุมนุมอย่าง คณะหลอมรวมประชาชน ภายใต้การนำของ “ตุ๊ดตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ กับคู่หูใหม่อย่าง “ทนายนกเขา” นิติธร ล้ำเหลือ ซึ่งจัดกิจกรรม “ หยุด 8 ปี ประยุทธ์” ณ ลานคนเมืองศาลาว่าการกรุงเทพฯ บรรยากาศก็ไม่ได้คึกคักหนักหน่วงอย่างที่เคยเป็นมา การชุมนุมหนักไปทางโหรงเหรง ที่ประกาศใหญ่โตจะพาคนปักหลักพักค้างก่อนรุ่งเช้า 24 ส.ค.จะเดินขบวนไปทำเนียบรัฐบาลเพื่อไล่พล.อ.ประยุทธ์ แต่พอเอาเข้าจริงคนที่มามีน้อยผู้ชุมนุมร่อยหรอ ไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ที่สุดการชุมนุมก็ยุติในช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมาหลังทำกิจกรรมนับถอยหลังการเป็นนายกฯเถื่อนของพล.อ.ประยุทธ์และจุดพลุ ต้องบอกว่าการออกมาเคลื่อนไหวของจตุพรกับนิติธรเที่ยวนี้ เป้าหมายปลายทางต้องการไล่พล.อ.ประยุทธ์ให้พ้นจากตำแหน่ง แต่จากที่เคลื่อนไหวเมื่อวานนี้บอกได้เลยว่าเหมือนการออกมา “ฆ่าตัวตาย” ชัดๆ เพราะมวลชนหรือแนวร่วมที่ออกมาไม่ได้มากมายมหาศาลเหมือนก่อน วิเคราะห์ตามนี้ก็ชัดเจนเลยว่าสาเหตุที่คนน้อยคนไม่ออกมา เพราะ 1. คนไทยส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการออกมาเคลื่อนไหวขับไล่นายกฯด้วยวิธีนี้ นายกฯจะอยู่ต่อไม่อยู่ต่อก็เป็นเรื่องที่ต้องรอฟังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ไม่ใช่มาตั้งศาลเตี้ยพิพากษาคดีกันเอง 2. หลายคนเห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์น่าจะได้ปฏิบัติหน้าที่ต่อ เพราะ 8 ปีได้บริหารประเทศด้วยดีมาตลอด แม้จะมีมรสุมสารพัดแต่ไม่เคยทุจริตโกงกินหรือมีเรื่องเสียหายด่างพร้อย 3. ไม่เชื่อถือศรัธทาแกนนำอย่างจตุพรและนิติธร ฯลฯ บทสรุปก็อย่างที่เห็นขึ้นต้นเป็นกลุ่มหลอมรวมประชาชนแต่ลงท้ายกลายเป็น “ม็อบหร็อมแหร็ม”
อย่างไรก็ตามล่าสุดหลังประชุมกันตั้งแต่เช้า ช่วงบ่ายของวันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญได้ลงมติรับคำร้องของ 171 ส.ส. ไว้พิจารณาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนมีมติ 5 ต่อ 4 สั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่ 24 ส.ค.2565 เป็นต้นไป จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย สำหรับอรหันต์ 9 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ปัจจุบันประกอบด้วย 1. วรวิทย์ กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ จากที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด 2.ศ.พิเศษ ดร.จิรนิติ หะวานนท์ จากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา 3. อุดม สิทธิวิรัชธรรม จากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา 4. วิรุฬห์ แสงเทียน จากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา 5. บรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ จากที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด 6.ศ.ดร.ทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ ผู้ทรงคุณวุฒิสาขานิติศาสตร์ 7.ศ.ดร.นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ผู้ทรงคุณวุฒิสาขารัฐศาสตร์ 8.ปัญญา อุดชาชน ผู้ทรงคุณวุฒิทางราชการ และ 9. นภดล เทพพิทักษ์ ผู้ทรงคุณวุฒิทางราชการ อย่างไรก็ตาม 5 คน ที่สั่งเบรกพล.อ.ประยุทธ์หยุดปฏิบัติหน้าที่ประกอบด้วย 1.นครินทร์ 2.ทวีเกียรติ 3.จิรนิติ 4. วิรุฬห์ และ 5. นภดล จากนี้พล.อ.ประยุทธ์จะต้องส่งคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหามาให้ศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วันนับตั้งแต่วันที่ได้สำเนาคำร้อง จากนั้นก็จะเข้าสู่กระบวนการไต่สวนตาม “สารบบ” ของศาลรัฐธรรมนูญ อานิสงฆ์จากการถูกหยุดปฏิบัติหน้าที่ของบิ๊กตู่ ส่งผลทำให้ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หมายเลข 1 ผงาดขึ้นเป็นรักษาราชการแทนนายกฯ ตามคำสั่งสำนักนายกฯ 237/ 2563 ที่ประกาศไว้เมื่อ 13 ส.ค.2563 จากนี้ก็ต้องลุ้นว่าการเมืองจะเปลี่ยนเกมหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์จะลุ้นคัมแบ็กกลับมาเป็นนายกฯอีกครั้งหลังชี้แจงแก้ข้อกล่าวหากับศาลรัฐธรรมนูญได้หรือไม่ บิ๊กตู่จะได้ไปต่อหรือพอแค่นี้เอฟซีก็ต้องลุ้นเอาใจช่วยกันยาวๆ
////////////////
