จากกรณี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ พานักแสดงสาววัย 21 ปี เข้าพบ พ.ต.อ.พรทวี สมวงค์ ผู้กำกับการ สน.โชคชัย เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี ถูกนักธุรกิจเจ้าของบริษัทใหญ่ หลานชายอดีตรัฐมนตรี วางยาล่วงละเมิดทางพศในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ย่านนาคนิวาส 2 เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งแจ้งที่ สน.โชคชัย เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม แต่คดีไม่คืบนั้น
“ญาติหลาน รมต.” ขืนใจดาราสาว เสนอเงิน-งานช่องดัง แลกไม่เอาผิด
ข่าวที่น่าสนใจ
ล่าสุดระหว่างที่ผู้เสียหายเดินทางมาพบ ทนายตั้ม ทางญาติผู้ก่อเหตุได้โทรศัพท์ติดต่อมาขอเคลียร์ โดยระบุว่า เป็นอา ของผู้ก่อเหตุ รู้เรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว รู้สึกไม่สบายใจ กำลังจะให้หลานชายเล่นการเมือง เพื่อดันให้ช่วยเหลือประเทศไทย ถ้ามีเรื่องอะไรไม่ดีจะทำให้หลานชายเสียหาย ถ้ามีปัญหาเรื่องการเงินก็จะช่วย ถ้ามีเรื่องอะไรไม่ดีก็จะเสียหายทั้งคู่ พอจะคุยกันได้มั้ย พร้อมยื่นข้อเสนอเรื่องงานในวงการบันเทิง (โดยอ้างว่ารู้จักกับช่องหลากสี) แลกกับการที่จะไม่ดำเนินคดี ผู้เสียหายบอกไปว่า ไม่ได้มีปัญหาเรื่องการเงิน และไม่รู้จะคุยอะไรด้วย
“อาไม่สบายใจจะให้น้องลงเล่นการเมืองเป็นรองเลขาฯของ…. อาไม่รู้ว่าใครผิด แต่มันขึ้นสู่กระบวนการศาลมันก็จะสืบสาวราวเรื่องกันมายมาก ไม่รู้ใครถูกใครผิดก็ว่ากันไป เสียหายกันทั้งคู่ เหมือนสาดโคลนเข้าหากัน”
ด้าน ทนายตั้ม ได้คุยกับปลายสายที่ระบุเป็นอาของหลานอดีตรัฐมนตรี ว่า เรื่องไปถึงโรงพักแล้ว ได้คุยกับหลานหรือยัง ด้าน อา กล่าวว่า คุยแล้วเขาก็ได้แต่ขอโทษอาว่า เขาเมา แล้วก็ต่างคนต่างยินยอมกัน เขาพูดอย่างนี้ โดย ทนายตั้ม ได้บอกไปว่า ถ้าเขาพูดอย่างนี้ก็คุยกันไม่รู้เรื่องแล้ว
ทนายตั้ม เปิดเผยอีกว่า หลังเกิดเหตุ ผู้เสียหาย ได้พยายามติดต่อสอบถามคู่กรณีว่า ในวันเกิดเหตุฝ่ายชายได้ล่วงละเมิดตนเองหรือไม่ ซึ่งฝ่ายชายก็ยอมรับล่วงละเมิดจริง แต่ฝ่ายหญิงยินยอม ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะขณะเกิดเหตุ ผู้เสียหายไม่รู้สึกตัวแม้แต่หลังเกิดเหตุยังไม่มั่นใจว่า ตนเองถูกกระทำอย่างไรบ้าง จึงได้โทรศัพท์ไปสอบถาม จึงไปตรวจร่างกายพบ ยานอนหลับชนิดหนึ่ง ยังเชื่อว่า ผู้เสียหายถูกมอมยา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง