วันที่ 26 สิงหาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีเรื่องราวที่น่าประทับใจเกี่ยวกับชีวิตของ ป้าพวง อายุ 50 ปี ชาว อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ที่ต้องพลัดพรากจากลูกชายมานานถึง 18 ปี วันนี้ความฝันเป็นจริง ได้พบกันแล้ว
โดยจากกรณีที่เพจแห่งหนึ่งได้โพสต์ว่า พาคุณแม่อยู่จังหวัดอุดรธานีที่พัดพรากจากลูกชายกันมานานหลายปี มาพบลูกชายที่จังหวัดสุรินทร์ ทั้งคู่กอดกันน้ำตาไหลพรากหลังจากที่ไม่เคยเจอกันเลยมานานถึง 18 ปี คิดว่าตายจากกันเสียแล้ว ป้าพวง อายุ 50 ปี ชาว อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เพื่อไปหาลูกชายที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ หลังจากลูกชายตามหาแม่มานานถึง 18 ปี โดยมี นายวีระพล รักเสมอวงศ์ รองประธานสภาเทศบาลเมืองบ้านดุง และแอดมินเพจบ้านดุงอัพเดท ได้เดินทางไปส่ง ป้าพวง อายุ 50 ปี ชาว อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เพื่อไปหาลูกชายที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ และเมื่อเวลา 20.00 น.ของวันที่ 25 ส.ค.65 ที่ผ่านมา นายวีระพล รักเสมอวงศ์ ได้พาป้าพวง ชาวอุดร เดินทางไปถึงบ้านเลขที่ 185 หมู่ 14 บ้านบะสนา ต.ปรือ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านของน้องเต้ย อายุ 24 ปี ลูกชายคนเล็กที่มาอยู่กับภรรยาชาวสุรินทร์ มีอาชีพรับจ้างกรีดยาง เมื่อแม่และลูกเจอกัน น้องเต้ยวิ่งมาหาแม่และก้มกราบเท้าแม่และโผกอด ทั้งแม่และลูกทั้งคู่สุดจะกลั้นน้ำตา บอกดีใจมากที่เจอแม่ ผมต้องพลัดพรากกันแม่มานานกว่า 18 ปีไม่คิดว่าจะมีวันนี้
น้องเต้ย บอกว่า ผมจบแค่ ป.6 หลังจากพ่อไปมีภรรยาใหม่ก็อยู่กับปู่และย่า หาเงินด้วยรับจ้างก่อสร้าง แต่ก่อนที่ปู่และย่าตาย ท่านได้บอกว่า ออกไปตามหาแม่ให้เจอนะหลาน จากนั้นผมได้ติดตามน้องชายของพ่อมารับจ้างที่จ.สุรินทร์และมีภรรยาที่นี่ และได้สมัครเฟซบุ๊กเพื่อตามหาแม่โดยเฉพาะ จนมาเจอเพจบ้านดุงอัพเดท จึงทักไปบอกว่า ผมอยากเจอแม่ซึ่งเป็นคน อ.บ้านดุง จนที่สุดก็รู้ว่าแม่ยังไม่ตาย ดีใจมากที่ได้เจอแม่ ต่อไปนี้จะดูแลอย่างดี ผมคิดถึงแม่ตลอด วันแม่เมื่อไรไม่ได้ไหว้แม่เลย วันนี้ฝันเป็นจริงแล้วได้เจอแม่แล้ว
โดยก่อนเดินทางป้าพวง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทั้งน้ำตาว่า ตนเองเคยแต่งงานอยู่กันกับสามีชาวพัทลุง มีลูกชายด้วยกัน 2 คน ชื่อต้นและเต้ย แต่มีปัญหาครอบครัวต้องเลิกรากันไป สามีไปมีภรรยาใหม่ จากนั้นตนเองได้เดินทางกลับมาบ้านที่ อ.บ้านดุง ตนเองก็มีสามีใหม่ แต่ชีวิตไม่ราบรื่น หวังว่าจะได้เจอลูกชายบ้างก่อนตาย แต่ก็เป็นแค่ความหวังลมๆ แล้งๆ ตนได้ไปดูดวงกับหมอดูทางฟุตบาท บอกว่าจะดูให้ฟรีโดยที่ไม่คิดตังค์ หมอดูบอกว่า อายุจะย่างเข้า 50 ปีเมื่อไหร่คนทางไกลจะตามหา และจะมารับไปอยู่ด้วย จากนั้นชีวิตก็จะสุขสบาย ไม่คิดว่าวันนี้จะเป็นจริง ลูกชายคนเล็กคือน้องเต้ยติดต่อมาจากจ.สุรินทร์ บอกว่าตามหาแม่และจะเอาแม่ไปอยู่ด้วยไม่คิดว่าชีวิตนี้จะเจอลูกชายที่จากกันมานาน ตามที่เพจและสำนักข่าวบางสำนักได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 26 ส.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 185 หมู่ 14 บ้านบะสนา ต.ปรือ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ พบครอบครัวของนายนายจิตติกร หนูมาก(เต้ย) หนุ่มที่ตามหาแม่ อยู่กับภรรยา และลูกน้อย พร้อมกับแม่ที่ไม่ได้พบเจอกันนานถึง 18 ปี อย่างมีความสุขและอบอุ่นอย่างยิ่ง
โดยนาย นายจิตติกร หนูมาก(เต้ย) อายุ 24 ปี ลูกชาย ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ได้ติดต่อไปทางเพจเพจหนึ่งทางสื่อโซเชียลเพื่อตามหาแม่ และได้ลงรายละเอียดไปว่าไม่ได้เจอแม่เราประมาณ 18 ปี ตนจึงได้ส่งที่อยู่ตามที่มีในใบเกิดหรือใบสูติบัตร เพราะว่ารูปถ่ายอะไรก็ไม่มี จึงได้ไปขอความช่วยเหลือจากเพจดักล่าวได้ไม่นานเขาก็ตอบรับมา ได้ขอความช่วยเหลือราวประมาณ 3 วัน ทาง Admin Page ก็ได้เป็นธุระมาส่งโดยที่ไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆเลย ต้องขอบพระคุณเป็นอย่ายิ่งครับ
ด้านนางพวง สายทอง(ป้าพวง) อายุ 50 ปี ผู้เป็นแม่ เปิดเผยว่า แต่ก่อนนานแล้วได้เคยติดต่อกันอยู่แต่แล้วโทรศัพท์ก็หายก็เลยไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย เหตุผลที่แยกทางกันเมื่อก่อนเพราะว่าสามีไปมีแฟนใหม่ ก็เลยแยกทางกัน รู้สึกดีใจมากที่ได้เจอกับลูกชาย ที่ลูกชายโตเป็นหนุ่มและยังติดตามแม่อยู่ แม่ก็ยังมีวาสนาอยู่ที่ลูกชายยังรอคอยพยายามติดตามอยู่
ขณะที่ นางกรรณิการ์ ทองบุญ อายุ 31 ปี ภรรยาของน้องเต้ย (ลูกชายที่ตามหาแม่) กล่าวว่า เต็มใจให้แม่อยู่ด้วยและก็จะไม่ให้กลับไปแล้ว อยากจะให้แม่มีความสุขที่นี่และไม่อยากให้กลับไปแล้ว แล้วก็ให้แม่ย้ายมาอยู่ในทะเบียนบ้านที่สุรินทร์นี่เลยไม่อยากให้ไปไหนอีกแล้ว.
ภาพ/ข่าว นพรัตน์ กิ่งแก้ว ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สุรินทร์