ผบก.น.4 สั่งเด้งพนักงานสอบสวนโชคชัย เซ่นคดีหลานอดีตรัฐมนตรี มอมยาดาราสาว

ผบก.น.4 สั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจจริง คดีหลานอดีตรัฐมนตรีมอมยา-ข่มขืนดาราสาว ลดแรงเสียดทานสังคม พร้อมโยก 2 พนักงานสอบสวน สน.โชคชัย พ้นทาง ระหว่างสอบข้อเท็จจริง

กรณี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม พา น.ส.แนน (นามสมมติ) อายุ 22 ปี ดารานักแสดง ซึ่งเป็นผู้เสียหาย เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.โชคชัย ว่าถูกหลานของอดีตรัฐมนตรี วางยาแล้วกระทำชำเรา ที่พูลวิลล่าแห่งหนึ่ง ในซอยนาคนิวาส 2 เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ที่ผ่านมา และได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนแล้วตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค. แต่คดีไม่คืบหน้า โดยบุคคลใกล้ชิดของผู้ถูกกล่าวหา ได้ติดต่อ น.ส.แนน และยื่นข้อเสนอเรื่องงานในวงการบันเทิง รวมถึงจะให้เงินแลกกับการที่จะไม่ดำเนินคดี เนื่องจากไม่อยากให้ผู้ถูกกล่าวหาต้องเสียประวัติ เพราะวางแผนจะให้เล่นการเมือง โดยมีเป้าหมายถึงนายกรัฐมนตรี ต่อมา ทนายตั้ม ได้เปิดเผยข้อมูลผ่านสื่อว่า เอกสารสำคัญทางคดีบางแผ่นซึ่งมีความสำคัญต่อรูปคดีได้สูญหายไป และอาจเป็นเหตุให้ทางศาลไม่สามารถออกหมายจับกุมได้ ส่วน ผบก.น.4 ออกมาชี้แจงว่า ได้สั่งตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวแล้ว พร้อมยืนยันว่า เอกสารในทางคดียังอยู่ครบถ้วนแต่ผู้เสียหายถ่ายเอกสารไปไม่ครบ และพนักงานสอบสวนยังคงดำเนินการเกี่ยวกับคดีอยู่ในขณะนี้

 

ข่าวที่น่าสนใจ

คืบหน้า ล่าสุด วันนี้ (27 ส.ค.) มีรายงานข่าวว่า พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 (ผบก.น.4) ได้ลงนามในคําสั่งกองบังคับการตำรวจนครบาล 4 ที่ 172/2565 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ใจความว่า ด้วย ผู้เสียหายในคดีข่มขืนกระทำชำเรา แจ้งความร้องทุกข์ ที่สถานีตำรวจนครบาล(สน.)โชคชัย ได้ร้องเรียนหรือกล่าวหา รองผู้กำกับ ฝ่ายสอบสวน สน.โชคชัย โดยการออกสื่อ โทรทัศน์ ผ่านรายการโหนกระแส เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2565 เวลา 12.49 น.

โดยพาดพิงกล่าวหา รองผกก.(สอบสวน) สน.โชคชัย พูดว่า พยานหลักฐานไม่เพียงพอต่อการดำเนินคดี อาจถูกยกฟ้องได้ และ พยานหลักฐานบางส่วนที่ผู้เสียหายมอบให้พนักงานสอบสวน ไม่มีในสำนวนการสอบสวน ผู้เสียหายเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการสอบสวนของพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลโชคชัย เหตุเกิดที่ สถานีตำรวจนครบาลโชคชัย ถนนลาดพร้าว แขวงสะพานสอง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร อาศัยอำนาจตามความในพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 84 จึงแต่งตั้ง คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงสืบสวนในเรื่องดังกล่าว ประกอบด้วยบุคคลดังต่อไปนี้
1.พ.ต.อ.ชัยรพ จุณณวัตต์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 เป็นประธานกรรมการ
2.พ.ต.ท.พลกฤต ทิพยทัศนัน รองผู้กำกับการ(สอบสวน)สถานีตำรวจนครบาลโชคชัย เป็นกรรมการ
3.พ.ต.ต.ปฏิพัทธ์ ทองทับ สารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจนครบาลโชคชัย เป็นกรรมการและเลขานุการ

ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการสืบสวน ดำเนินการสืบสวนพิจารณาตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดใน กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง พ.ศ. 2556 ให้แล้วเสร็จ แล้วเสนอสำนวนการสืบสวน มาเพื่อพิจารณา ดำเนินการต่อไป

อนึ่ง ถ้าคณะกรรมการสืบสวนเห็นว่า กรณีมีมูลว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยในเรื่องอื่น นอกจากที่ระบุไว้ในคำสั่งนี้ หรือกรณีที่การสืบสวนพาดพิงไปถึงข้าราชการตำรวจผู้อื่น และคณะกรรมการ สืบสวนพิจารณาในเบื้องต้นแล้วเห็นว่า ข้าราชการตำรวจผู้นั้นมีส่วนร่วมหรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำใน เรื่องที่สืบสวนนั้นอยู่ด้วย ให้ประธานกรรมการรายงานมาโดยเร็ว

นอกจากนี้ ยังมีคําสั่งกองบังคับการตำรวจนครบาล 4 ที่ 173/2565 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ ใจความว่า

ตามที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ที่ 172/ 2565 ลงวันที่ 26 สิงหาคม 2565 กรณีสงสัยประพฤติบกพร่องต่อหน้าที่หรือเป็นกรณีที่สงสัยว่ากระทําผิดวินัย ดังนั้น อาศัยอำนาจตามมาตรา 72 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 และ ระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการภายในสำนักงานตำรวจ แห่งชาติ พ.ศ. 2563 ข้อ 6(2) เพื่อให้การตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าวข้างต้นเป็นไปด้วยความ เรียบร้อย จึงให้

1.พ.ต.ท.อภิรักษ์ บุญหนัก รอง ผกก.(สอบสวน) สน.โชคชัย ไปปฏิบัติราชการที่ กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 อีกหน้าที่หนึ่ง
2.พ.ต.อ.พงศกร โนรี ผู้กำกับการ(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการ ตำรวจนครบาล 4 ไปปฏิบัติราชการ หัวหน้างานสอบสวน สน.โชคชัย อีกหน้าที่หนึ่ง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม 2565 เป็นต้นไปหรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

โดย ผบก.น.4 เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากกรณีที่ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์เกรงว่า จะไม่ได้ความเป็นธรรมจากพนักงานสอบสวนสน.โชคชัย จึงสั่งการให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ผู้เสียหาย และพิจารณาส่งตำรวจจากบก.น.4 โดยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านงานสอบสวนของ บก.น.4 ลงไปกำกับดูแลคดีดังกล่าว พร้อมสั่งการให้รองผกก.(สอบสวน) สน.โชคชัยมาปฏิบัติราชการที่กองบังคับการก่อน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า มีข้อบกพร่องหรือไม่ โดยเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งหากพนักงานสอบสวนสน.โชคชัยไม่ได้กระทำผิดก็คือผู้บริสุทธิ์ ทั้งนี้ เพื่อให้ความเป็นธรรมในคดีกับทุกฝ่าย อย่างไรก็ตาม ผลความคืบหน้าทางคดีทางพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ได้ขออนุมัติหมายจับแล้ว โดยทางศาลอนุมัติหมายเรียกในวันที่ 29 ส.ค.นี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ฮาร์บินเปิด ‘สวนสนุกน้ำแข็ง-หิมะ’ จีนใหญ่สุดในโลก
ทรัมป์เสนอยูเครนสละดินแดนเพื่อยุติสงคราม
โฆษกกห. ยัน ไม่ได้ปิดด่านชายแดนจังหวัดตาก แค่สกัดโรค อุดช่องทางธรรมชาติ
“พิพัฒน์” ลุยปฏิรูป “ก.แรงงาน” ก้าวใหม่สู่ยุค AI สร้างทักษะพัฒนาฝีมือ ดูแลสวัสดิการทุกมิติ
"สรรเพชญ" พร้อมกลุ่มสส.ร่วม "ชวน-บัญญัติ" ส่งหนังสือเร่งรัฐ เยียวยาน้ำท่วมทำใต้วิปโยค
“ทักษิณ” อวย ฉายา “แพทองโพย” เก่งกว่าพ่อนั่งนายกฯ ฟุ้งคนเหนือก็เป็นพ่อเลี้ยงกันหมด
“อนุทิน” น้อมรับฉายา “ภูมิใจขวาง” ลั่นไม่ได้คิดขวางใคร ชื่นชม “นายกฯ” ตั้งใจทำงาน หลังถูกมองเป็นรบ. (พ่อ) เลี้ยง
“รทสช.” เคลื่อนไหว หลังสื่อทำเนียบฯตั้งฉายา “พีระพันธุ์” Fc แห่คอมเมนต์ให้กำลังใจ
ชวนเที่ยวงาน "เที่ยวถิ่น กินอร่อย สมุทรปราการ" ปี 67 จัดใหญ่จัดเต็มส่งท้ายความสุขช่วงปลายปี
"ทักษิณ" เล่นใหญ่ กลับเชียงใหม่ นำ "พิชัย" ชิงนายกอบจ. เชื่อเลือกตั้งครั้งหน้า เพื่อไทยได้ 10 สส.

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น