นักแสดงสาว แจ้งเอาผิดหลานอดีต รมต. เพิ่มอีก 3 ข้อหา

นักแสดงสาว เข้าแจ้งความเอาผิดหลานอดีตรัฐมนตรี เพิ่มเติมอีก 3 ข้อหา เจ้าตัวเผยรู้สึกอุ่นใจมากขึ้น หลังทราบข่าวผู้ต้องหาไม่ได้รับการประกันตัว

นักแสดงสาว วัย 21 ปี เหยื่อหลานอดีตรัฐมนตรี มอมยากระทำชำเราคารีสอร์ทกลางกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายเนติธร สุรักษ์กิตติกุล ทนายความประจำสำนักงานทนายความษิทรา นำเอกสารหลักฐานที่างผู้ต้องหาได้ลบข้อความออกจากโทรศัพท์ของตน และได้มีการพูดคุยและโพสต์ข้อความที่มีลักษณะเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายคดีอาญา จึงเข้ามาแจ้งความเพิ่มอีก 3 ข้อหา คือ “ทำพยานหลักฐานเท็จเพื่อให้เกิดคดีอาญา” “ทำลายหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งเอกสาร” และ “ปลอมเอกสาร”

ข่าวที่น่าสนใจ

นักแสดงสาว เปิดเผยว่า วันนี้ได้นำหลักฐานมาให้ตำรวจ สน.โชคชัย ให้เอาผิดกับผู้ต้องหาเพิ่มเติม หลังพบว่าการกระทำของผู้ต้องหาที่ผ่านมาเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายคดีอาญา 3 ข้อหา ซึ่งตอนนี้ตนเองรู้สึกอุ่นใจมากขึ้นหลังทราบข่าวว่า ผู้ต้องหาไม่ได้รับการประกันตัว และได้รับช่วยเหลือจากทีมทนาย รวมถึงเจ้าหน้าที่ให้เป็นไปอย่างยุติธรรม

ส่วนในเรื่องที่ผู้ต้องหาได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน กล่าวหาว่าตนเองพยายามแบล็คเมล์ ถือว่าเป็นการใส่ร้ายโดยไม่มีพยานหลักฐานและข้อเท็จจริง ทำให้ตนได้รับผลกระทบจากคนที่ไม่รู้จักเดินมาต่อว่า ตนเองอยากได้เงิน จึงปรึกษากับทนายความ เพื่อดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาท แยกเพิ่มจากสำนวนในคดีข่มขืน อีกทั้งจะปรึกษากับทนายเตรียมเอาผิดกับคนที่มีพฤติการณ์หมิ่นประมาทในโซเซียลมีเดียอีกด้วย

ด้าน พี่สาวผู้เสียหาย เปิดเผยว่า หลักฐานที่นำมายื่นมีความชัดเจน ยืนว่าไม่ต้องการที่จะเรียกร้องค่าเสียหาย เพียงต้องการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาให้ถึงที่สุด ส่วนทนายความมั่นใจการทำงานของพนักสอบชุดนี้มากขึ้น ส่วนข้อหาในที่แจ้งความเอาผิดผู้ต้องหาในขณะนี้ มีทั้งหมด 13 ข้อหา คือ
1.ปลอมปนอาหารให้ผู้เสียหายดื่ม (ใส่ยานอนหลับในเครื่องดื่ม)
2.ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย
3. กระทำอนาจารผู้เสียหาย
4.บทเพิ่มโทษ กรณีข่มขืนกระทำชำเรา ตามข้อ (2). และ อนาจาร ตามข้อ (3). ที่กระทำกับผู้ซึ่งอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถรู้ผิดชอบ (ถูกมอมยาจนสลบหรือหลับ)
5.ทำร้ายร่างกาย (การข่มขืน กับ การมอมยา ถือเป็นการทำร้ายร่างกายและจิตใจ)
6.บทเพิ่มโทษ กรณีทำร้ายร่างกาย ตามข้อ (5). ที่กระทำโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
7. หน่วงเหนี่ยวกักขังทำให้เสียเสรีภาพ (การมอมยา ทำให้เสียเสรีภาพ)
8. ข่มเหง รังแก ผู้เสียหาย ในลักษณะการล่วงเกินทางเพศ
9.การกระทำความเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เข้าถึงและเปลี่ยนแปลงข้อมูลโดยมิชอบ

โดยวันนี้แจ้งเพิ่ม อีก 3 ข้อหา คือ
10. ทำพยานหลักฐานเท็จเพื่อให้เกิดคดีอาญา
11. ทำลายหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งเอกสาร”
12.“ปลอมเอกสาร”

โดยแยกคดีหมิ่นประมาท กรณีถูกกล่าวว่าผู้เสียหายพยายามแบล็คเมล์ เพิ่มอีก 1 คดี รวมทั้งหมด 2 คดี 13 ข้อหา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ตร.สน.ทองหล่อ" คุมตัวฝากขังสาวอินฟลูฯ ร่วมแก๊งขโมยบัตรเครดิต "ออนเซ็น"
ตำรวจไซเบอร์ เร่งสืบสวน ปมคนไทยตกตึกที่ปอยเปต พบข้อมูลเข้าไปทำงานแก๊งคอลเซนเตอร์
"ผู้การสืบนครบาล" คาดใช้เวลา 2-4 สัปดาห์ ส่งตัว "จ่าเอ็ม" กลับมาดำเนินคดีในไทย
“ดร.เสรี” เผยหนาวสุดท้าย เย็นสะท้านทรวง 12-13 ม.ค.นี้ กทม.ต่ำสุด 16 องศา
"ทบ." พร้อมจัดงานวันเด็ก เปิดเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ กองทัพบกฯ จัดแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ตร.ฟิลิปปินส์ กวาดล้างครั้งใหญ่ 'แก๊งคอลเซนเตอร์' กลางกรุงมะนิลา จับกุมต่างชาติเอี่ยวขบวนการ 400 คน
ภรรยา ‘ลิม กิมยา’ นักการเมืองกัมพูชา เข้าให้ปากคำตร. ปมถูกยิงดับกลางกรุง
"เผ่าภูมิ" เผย "สรรพสามิต" โชว์ผลงานปราบสินค้าเถื่อน รวบเหล้านอกพุ่ง 161% จับยาสูบเถื่อนโต 168%
"เจ๊อ้อย" ยื่น ปปง. คุ้มครองสิทธิทรัพย์สิน 71 ล้าน คดี "ทนายตั้ม" ฉ้อโกงฟอกเงิน ลั่นไม่ไกล่เกลี่ยและจะไปสุดซอย
“รัฐบาล” เตือน ธนาคารของรัฐ หรือ กองทุน ไม่มีปล่อยสินเชื่อผ่าน TikTok หวั่นประชาชนตกเป็นเหยื่อ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น