หลังจากสำนักข่าวโพลิติโก (Politico) รายงานว่า ทีมบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังวางแผนที่จะขอให้ฝ่ายนิติบัญญัติอนุมัติการขายอาวุธมูลค่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ให้กับไต้หวันนั้น จีนก็ออกมาตอบโต้ทันที โดยนายหลิว เผิงหยู โฆษกสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงวอชิงตันกล่าวว่า สหรัฐจำเป็นต้องหยุดการขายอาวุธ และการสนับสนุนทางทหารให้ไต้หวันทันที มิเช่นนั้นจีนจะตอบโต้ด้วยมาตรการที่เด็ดขาดและแน่วแน่ เพื่อปกป้องอำนาจอธิปไตยและผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของตน
นอกจากนี้นายหลิวยังให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว TASS เพิ่มเติมว่า การขายอาวุธของสหรัฐให้ไต้หวันนั้น ถือเป็นการละเมิดนโยบายจีนเดียวอย่างโจ่งแจ้ง อีกทั้งเป็นการผิดข้อตกลงทางการทูตอื่นๆ ระหว่างสหรัฐและจีน รวมถึงเป็นการส่งเสริมผู้แบ่งแยกดินแดน และจะเพิ่มความตึงเครียดในช่องแคบไต้หวัน
ทั้งนี้ตามรายงานของโพลิติโก แพ็คเกจการขายอาวุธ ที่ทีมของประธานาธิบดีไบเดนเตรียมเสนอให้สภาพิจารณานั้นได้แก่ การขายขีปนาวุธต่อต้านเรือรบ เอจีเอ็ม-84แอล ฮาร์พูน บล็อก 2 (AGM-84L Harpoon Block II) จำนวน 60 ลำ มูลค่า 355 ล้านดอลลาร์ และขีปนาวุธสกัดกั้นอาวุธทางอากาศ เอไอเอ็ม-9เอ็กซ์ บล็อก 2 ไซด์ไวด์เดอร์ (AIM-9X Block II Sidewinder) จำนวน 100 ลูกในราคา 85 ล้านดอลลาร์ รวมถึงการต่อสัญญา ระบบเรดาร์ตรวจการณ์มูลค่า 655 ล้านดอลลาร์ให้กับไต้หวัน
อย่างไรก็ดีความตึงเครียดในช่องแคบไต้หวันยังคงเพิ่มสูงขึ้น นับตั้งแต่การเยือนไต้หวันของนางแนนซี เพโลซีเมื่อต้นเดือนสิงหาคม ซึ่งนับแต่นั้นสหรัฐได้ส่งเจ้าหน้าที่อีกหลายคนเยือนไต้หวันอย่างต่อเนื่อง