เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2565 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีร้องเรียนให้ไต่สวน ส.ว.รายหนึ่ง กล่าวหาว่ามีการฝากหญิงสาวให้เข้ารับราชการตำรวจยศ “ส.ต.ท.หญิง” ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ว่า จากการตรวจสอบคำร้องจากผู้ร้องเรียน พบว่า เป็นการตัดข่าวจากสื่อมวลชนมาแปะ จึงต้องถามผู้ร้องว่าทราบข้อมูลจากไหน รู้รายละเอียดอย่างไร เพราะตามคำร้องไม่ระบุว่า ส.ว.คนนั้นคือใคร อาจบอกว่าเป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช. ตรวจสอบ แต่อย่าลืมว่าในกฎหมาย ต้องมีการระบุชื่อผู้กล่าวหาด้วย หากไม่ระบุให้ชัดเจน ป.ป.ช.มีสิทธิตามกฎหมายจะรับหรือไม่รับก็ได้ ไม่ใช่จะร้องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบทุกเรื่อง แต่ละเรื่องต้องมีข้อมูลเพียงพอ แต่วันนี้มีข้อมูลโผล่มาว่าน่าจะเป็นคนนี้หรือไม่ ป.ป.ช.คงต้องไปตามต่อ
เลขาฯ ป.ป.ช. แจงปม ส.ว.ฝากบรรจุ ส.ต.ท.หญิงต้องระบุชื่อให้ชัด เพราะหากไม่ชัดอาจถูกตีตก ชี้หากมีมูลจึงจะสอบต่อ เผยขณะนี้อยู่ระหว่างวิเคราะห์ข้อมูล
ข่าวที่น่าสนใจ
นายนิวัติไชย กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีนี้แบ่งข้อเท็จจริงเบื้องต้นออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1.กรณี ส.ว.ที่ถูกกล่าวหาว่าว่า มีการฝากบุคคลเข้าทำงานในหน่วยงานราชการ เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เอาหญิงสาวรายนี้ไปบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจได้อย่างไร ต้องไปดูการดำเนินการว่า ส.ว.มีตำแหน่งหน้าที่เกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่ ถ้าไม่มี หรือเป็นผู้สนับสนุน อาจต้องไปดูเรื่องมาตรฐานจริยธรรมว่า กรณีเป็น ส.ว.ฝากคนบรรจุเป็นข้าราชการ ทำได้หรือไม่ ผิดจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ หากผิดจริยธรรมร้ายแรงเป็นอำนาจหน้าที่ ป.ป.ช. เพื่อชี้มูลความผิด ส่งศาลฎีกาถอดถอน หากไม่ใช่อำนาจหน้าที่ ป.ป.ช. เป็นเรื่องของสภาต้องไปว่าต่อ
2.กรณี “ส.ต.ท.หญิง” เข้าไปบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจได้อย่างไร เท่าที่ทราบขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบอยู่ หากมีการร้องเรียน ป.ป.ช. ว่า การบรรจุดังกล่าวเป็นการสอบเข้า หรือบรรจุเป็นกรณีพิเศษ หรือยกเว้นระเบียบวิธีปฏิบัติอย่างไร ถ้าดำเนินการไม่ถูกต้อง สามารถเอาผิดข้าราชการตำรวจที่รับหญิงสาวรายนี้บรรจุได้
เมื่อถามว่า จำเป็นต้องเรียก ส.ว.รายนี้ มาไต่สวนหรือให้ปากคำแก่ ป.ป.ช. หรือไม่ นายนิวัติไชย กล่าวว่า เบื้องต้นเรื่องอยู่ระหว่างสำนักการข่าววิเคราะห์ข้อมูล รวมถึงอยู่ระหว่างพิจารณาคำร้องของผู้ร้องเรียน แต่ยังไม่มีการระบุชื่อผู้ถูกกล่าวหาว่าคือใคร คงต้องรอดูข้อเท็จจริงก่อน ยังไม่สามารถปรักปรำใครได้ เพราะทุกเรื่องเป็นประเด็นหมด ทั้งนี้หากการไต่สวนพบว่าเรื่องมีมูล จะต้องนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน หลังจากนั้นจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ถูกกล่าวหาให้ทราบต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-