ตะลึงพบหินคล้ายหัวงูยักษ์ มีเกล็ดเหมือนพญานาคกลางป่า เขต อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์

กาฬสินธุ์ พบหินใหญ่มีลักษณะคล้ายหัวงูยักษ์แถมมีเกล็ดคล้ายพญานาคโผล่อยู่กลางป่า เขตอำเภอกุฉินารายณ์ ชาวบ้านเชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้โชค ด้านนายอำเภอกุฉินารายณ์นำทีมลุยพิสูจน์พบคล้ายหัวงูจริง และจากการขอขมาขึ้นไปข้างบนพบลายหินสลับคล้ายเกล็ดพญานาค แต่เป็นความเชื่อส่วนบุคคล เตรียมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบอย่างละเอียด และเล็งพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีชาวบ้านไปเก็บเห็ดแล้วไปเจอหินก้อนใหญ่มีเกล็ดและลักษณะหินคล้ายหัวงูยักษ์อยู่กลางป่าในเขต อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ก่อนถ่ายวีดีโอแล้วนำไปโพสต์คลิปในติ๊กต๊อก ซึ่งสร้างความอือฮาอย่างมากในโลกโซเชียล

ล่าสุดนายวีรดนย์ ศิริ นายอำเภอกุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยปลัดอำเภอ ผู้ใหญ่บ้านห้วยแดง ผู้นำชุมชน อส.และชาวบ้านในพื้นที่ร่วมกันเดินทางลงพื้นที่เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยการนั่งรถไถนาเดินตามพ่วงท้าย หรือชาวบ้านเรียกรถอีแต๊ก กับรถจักรยานยนต์เข้าไปเท่านั้น เนื่องจากถนนทางเข้าไปค่อนข้างยากลำบาก เพราะอยู่ในป่าลึกห่างจากหมู่บ้านห้วยแดง ต.กุดหว้า อ.กุฉินารายณ์ ประมาณ 6 กม.ถนนเป็นหลุม เป็นบ่อ เพราะน้ำป่าที่ไหลลงมาจากภูเขากัดเซาะทำให้ถนนชำรุดทรุดโทรม ตลอดเส้นทางกว่าจะเดินทางเข้าไปถึงจุดที่พบหินคล้ายงูยักษ์ต้องใช้เวลาอย่างน้อยประมาณ 30 นาที และเดินเท้าเข้าอีกกว่า 300 เมตรจึงจะถึงจุดที่พบ หินดังกล่าว

นายวีรดนย์ ศิริ นายอำเภอกุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบก็พบว่าในพื้นที่บริเวณแถบนั้นมีก้อนหินลักษณะคล้ายงูหลายจุดคือ จุดที่ 1 พบหินคล้ายหัวงูขนาดยาวประมาณ 6 เมตร สูงประมาณ 2.5 เมตร ตั้งอยู่ริมห้วยเป็นที่สปก. หินมีลักษณะปรากฏการของธรรมชาติ และอดีตเคยเป็นพักสงฆ์ศิลามณี โดยชาวบ้านระบุว่าลักษณะหินมีลายและสีสลับกัน มีปาก และตา คล้ายหัวงู ซึ่งจากการขอขมาและขออนุญาตขึ้นไปตรวจสอบข้างบนก้อนหินยังมีลายหินสลับไปมาลักษณะคล้ายเกล็ดพญานาค บริเวณนี้ชาวบ้านเรียกกันว่าแอ่งสาวเอ้ เนื่องจากสมัยก่อนคนโบราณที่เดินทางไปมามักจะหยุดพักและแต่งตัวเสริมความสวยงามกันบริเวณนี้ โดยปัจจุบันเป็นพื้นที่ทำกินของนายกล อุทรัง ชาวบ้านห้วยแดง ต.กุดหว้า อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ พื้นที่ดังกล่าวอยู่ระหว่างเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูสีฐาน และภูล้อมข้าว หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าภูจ้อก้อ เขตรอยต่อกับ อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร อยู่ห่างจากตัวอำเภอกุฉินารายณ์ ประมาณ 22 กิโลเมตร

จุดที่ 2 บริเวณที่พักสงฆ์ศิลามณี บนภูล้อมข้าว หรือภูจ้อก้อ ที่ชาวบ้านพบหินคล้ายงูขนาดใหญ่ที่ขดตัวอยู่อีก 1 จุด และมีก้อนศิลาขนาดใหญ่หลายจุด มีลูกหินคล้ายลูกนิมิต และมีรูปคล้ายคนนั่งพักบริเวณหิน และยังมีหินพิมาย ลักษณะกลมคล้ายนิมิตร่วงหล่นออกมาจำนวนมาก มีก้อนหินคล้ายรูปเต่าปรากฏอยู่หลายจุด และก้อนหินขนาดเล็กใหญ่ 3 ก้อน ซึ่งมีความแข็งคล้ายเหล็ก ซึ่งชาวบ้านห้วยแดงนำมาวางเป็นฐานพระพุทธรูปไว้ที่สำนักสงฆ์ศิลามณี สอบถามพระอาจารย์เจริญรัตน์ ทราบว่าได้นำมาจากถ้ำที่อยู่บนภูสีฐาน

จุดที่ 3 บริเวณภูสีฐาน จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ และจากคำบอกเล่าของพระอาจารย์เจริญรัตน์ สำนักสงฆ์ศิลามณี เมื่อมองออกจากที่พักสงฆ์ ก็พบว่ามีน้ำตกไหลลงมาจากยอดเขาซึ่งชาวบ้านห้วยแกงเรียกกันว่าน้ำตกบังอี่ หรือน้ำตก 7 ชั้น ซึ่งซ่อนตัวอยู่ในภูสีฐาน (เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูสีฐาน) ซึ่งจะได้มีการนัดหมายผู้นำท้องถิ่น ส่วนราชการลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมกันอีกครั้ง

นายวีรดนย์ กล่าวอีกว่า สำหรับบริเวณที่ออกมาตรวจสอบในครั้งนี้นั้น เป็นพื้นที่ของเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าภูสีฐาน และพื้นที่ทำกินของประชาชนบ้านห้วยแดง ตรงจุดที่พบหินคล้ายหัวงูนั้นเป็นที่ สปก.และถนนที่จะขึ้นไปยังสำนักสงฆ์ศิลามณี และแอ่งห้วยสาวเอ้ โดยสามารถเดินทางขึ้นจากบ้านห้วยแดง หมู่ที่ 6 และหมู่ที่ 10 ต.กุดหว้า อ.กุฉินารายน์ จ.กาฬสินธุ์ เพียงเส้นทางเดียวเท่านั้น เพราะถ้าเข้ามาจากทางอำเภอหนองสูงจะต้องเดินเท้าเข้ามาประมาณ 20 กม.เพราะรถไม่สามารถเข้ามาได้

อย่างไรก็ตามการพบหินดังกล่าวเป็นความเชื่อส่วนบุคคล และเป็นวิถีชีวิตของชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งต่อไปทางอำเภอจะประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่าเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติอย่างไร พร้อมกับนำเรื่องดังกล่าวเข้าไปหารือหน่วยงานและผู้เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมพัฒนาผลักดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้กับประชาชนในอนาคต

ด้านนางบุญเจริญ ขัตติยะบุตร สารวัตรกำนันตำบลกุดหว้า ซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า ตนเองก็เกิดที่บ้านห้วยแดง เห็นหินก้อนนี้มานานแล้ว แต่ก็ไม่เคยสังเกตว่าหินมีลักษณะคล้ายหัวงูยักษ์ จนชาวบ้านที่มาหาเก็บเห็ดถ่ายคลิปนำไปลงใน Tiktok จนกลายเป็นกระแสฮือฮา ตนเองก็ได้ดูจากคลิปแล้วก็พบว่าเหมือนกับงูยักษ์ และในวันนี้จึงได้เดินทางขึ้นมาตรวจสอบ พร้อมกับนายอำเภอกุฉินารายณ์ ซึ่งพื้นที่ภูล้อมข้าวหรือที่ชาวบ้านเรียกว่าภูจ้อก้อนี้ ชาวบ้านเชื่อเป็นพื้นที่ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ และการพบหัวงูยักษ์และมีเกล็ดคล้ายเกล็ดพญานาคครั้งนี้ชาวบ้านเชื่อว่าเจ้าป่าเข้าเขาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาปรากฏตัวโชค เพราะหลายคนที่เดินทางมาพร้อมกันก็เห็นตัวเลขปรากฏอยู่บนหัวงู ทั้งเลข 9 เลข 8 เลข 7 ซึ่งขอย้ำว่าเรื่องดังกล่าวนี้เป็นเรื่องของความเชื่อส่วนบุคคล เป็นวิถีชีวิตของชาวบ้าน ซึ่งการพบหินนอกจากจะเป็นเรื่องที่แปลกและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนแล้ว ยังสร้างความฮือฮาให้กับผู้พบเห็นและในโลกโซเชียลอีกด้วย.

 

 

ภาพ/ข่าว ชมพิศ ปิ่นเมือง ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.กาฬสินธุ์

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ชมสีสันงานแข่งวิ่งเทรลบน 'กำแพงเมืองจีน' ในเหอเป่ย
“ภูมิธรรม” ย้ำชัดไม่มีโพลเอาใจนาย ชี้นำกม.เอนเตอร์เทนเมนต์ฯ ลั่นทุกอย่างมีไทม์ไลน์ ทำอย่างรอบคอบ
เกาหลีใต้สั่งอพยพประชาชนหนีตายไฟป่า
สหรัฐถล่มศูนย์กักกันชาวแอฟริกาที่เยเมนดับเกือบ 70 ราย
สภาองค์กรของผู้บริโภค ร้อง "ผู้ว่าฯกทม." เร่งตรวจสอบความปลอดภัยอาคารสูง 50 เขต ภายใน 30 วัน หลัง 11 ชุมชน แจ้งเบาะแส พบบางแห่ง ทำผิดกม.
ชี้เป้า วิธีจ่ายค่าไฟ แบบไม่มีค่าธรรมเนียม
"นายกฯ" ไข้กลับ หน้าซีด อ่อนเพลีย หลังลงพื้นที่นครพนม เรียกทีมแพทย์เช็กอาการด่วน
"CPF เคียงข้างยามวิกฤต" ชวนคนไทยส่งต่อพลังแห่งการให้ รพ.รามาธิบดี
"อธิบดีกรมอุทยานฯ" แจงยิบปมเงินรายได้ ยอมรับเตรียมปลด ‘ทราย สก๊อต’ พ้นที่ปรึกษา เหตุทัศนคติไม่ตรงกัน วอนรถทัวร์ดูข้อเท็จจริง
"พิพัฒน์" นำทีมเยี่ยมกลุ่มอาชีพอิสระ เครือข่ายแรงงาน นครพนม รับฟังปัญหา พร้อมเดินหน้ากองทุนหนุนพัฒนาอาชีพ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น