นายโรเบิร์ต ส่าว มหาเศรษฐีชาวไต้หวัน หนึ่งในนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของประเทศ ด้วยการก่อตั้ง บริษัท ยูไนเต็ด ไมโครอิเทคทรอนิกส์ คอร์ป หรือ UMC ผู้ผลิตไมโครชิปรายใหญ่ ได้บริจาคเงินจำนวน 1 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน หรือ 33 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อใช้ฝึกนักรบพลเรือน มากกว่า 3 ล้านคน ในการปกป้องเกาะไต้หวัน จากการรุนรานของจีน
โดยเงินจำนวน 600 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน จะใช้เพื่อฝึกกองกำลังพลเรือน 3 ล้านคน ที่เขาเรียกว่า นักรบหมีดำ ภายในเวลา 3 ปีข้างหน้า โดยนักรบหมีดำจะทำงานเพื่อสนับสนุนกองทัพ ส่วนอีก 400 ล้านดอลลาร์ไต้หวันนั้น จะใช้ฝึกนักแม่นปืนจำนวน 3 แสนคน
พร้อมกันนี้นายส่าว วัย75 ปี ซึ่งปัจจุบันไม่มีตำแหน่งใดในบริษัท UMC แล้ว ได้ชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงของการรุกรานของจีนในอนาคตว่ามีอยู่จริง โดยเขากล่าวว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนคุกคามไต้หวันมากขึ้นเรื่อยๆ และเราต้องต่อสู้ยืนหยัดเพื่อเสรีภาพ และต่อต้านการเป็นทาส เพื่อประชาธิปไตยที่ต่อต้านเผด็จการ และการเป็นผู้มีอารยะเพื่อต่อต้านความป่าเถื่อน นอกจากนี้เขายังกล่าวว่า หากไต้หวันต้านทานจีนได้สำเร็จ นอกจากจะปกป้องบ้านเกิดของตนเองได้แล้ว ยังจะมีส่วนในการสนับสนุนเสรีภาพโลก ในสถานการณ์ปัจจุบัน และการพัฒนาอารยธรรมของโลก
ทั้งนี้ตามประมาณการของเพนตากอน เมื่อเทียบกำลังพลแล้ว ไต้หวันยังห่างไกลกับจีนอย่างมาก โดยมีกองกำลังภาคพื้นดินเพียง 8หมื่น 8 พันนาย เมื่อเทียบกับกองกำลังจีน 1 ล้านนาย และทหารเกณฑ์ภาคบังคับสำหรับชายชาวไต้หวันนั้นมีระยะเวลา 4 เดือน เท่านั้น จากเหตุดังกล่าว ทำให้นักยุทธศาสตร์อเมริกันและไต้หวัน ส่งเสริมให้ไต้หวันใช้กลยุทธ์แบบเม่น ในการทำสงครามกับจีนที่มีกองกำลังแตกต่างกันมาก ซึ่งรวมถึงการฝึกพลเรือนให้ต่อสู้ด้วย
และจากกรณีการโจมตียูเครนของรัสเซีย ยังทำให้ทั่วโลกมุ่งความสนใจไปที่ไต้หวัน ซึ่งมีปัญหาคล้ายคลึงกันว่า จะสามารถรับมือภัยคุกคามจากจีนที่แข็งแกร่งกว่ามากได้อย่างไร ด้วยการต่อสู้วิธีใด