ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ ระบุ ในช่วงวันที่ 3-4 กันยายน 2565 ร่องมรสุมกำลังอ่อนพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ในขณะที่ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ซึ่งเมืองพัทยาได้รับผลกระทบมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ติดต่อกันเป็นเวลานานกว่า 1 ชั่วโมง ประกอบกับมีลมกรรโชกแรง ส่งผลให้เกิดมวลน้ำจำนวนมากไหลลงสู่ทะเลอย่างรุนแรง ถนนหลายสายในพื้นที่อำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี เกิดน้ำท่วมขังรถไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานหลังฝนหยุดตกมวลน้ำแต่ละจุดเริ่มลดลง และชายหาดเมืองพัทยา ซึ่งเป็นที่ต่ำในขณะที่มีฝนตกมวลน้ำได้ไหลบ่าทะลักลงทะเลอย่างรุนแรงส่งผลให้ทรายชายหาดเมืองพัทยาหลายจุดถูกน้ำพัดพาทรายลงสู่ทะเลจนเป็นร่องลึกกว่า 1 เมตร ทำให้กระสอบทรายที่ใช้ในการถมทรายชายหาดของเมืองพัทยาโผล่ขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
นอกจากนี้ยังพบว่าหลังตากที่ปริมาณนำ้ที่เอ่อขึ้นท่วมขังบนนถนนเส้นต่างๆนั้น ลดระดับลงจนเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว แต่ยังคงมีมวลขยะมูลฝอยจำนวนมาก ที่ถูกกระแสน้ำพัดมา ติดค้างอยู่บนพื้นถนนแทบทุกเส้น จนชาวบ้านทนไม่ไหว ต้องนำอุปกรณ์มาทำความสะอาดเอง อย่างไรก็ตามปัญหาของชายหาดที่ถูกกระแสน้ำเซาะ และขยะที่ถูกกระแสน้ำพัดพามา จนเกลื่อนถนน ถือเป็นปัญหาที่ตามมาหลังนำ้ท่วมทุกครั้งนั้น ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของเมืองท่องเที่ยว ระดับโลกอย่างเมืองพัทยาแน่นอน
ภาพ/ข่าว อนันต์ กิ่งสร / ทิวากร กฤษมณี ผู้สื่อข่าวTOPNEWS ประจำ จ.ชลบุรี