ชะตากรรมบนเส้นทางสาย “การเมือง” ของนักการเมือง ในประเทศไทยบ้านเรา บางคนบุญนำพา วาสนาดี มีพรมแดงปูให้เหยียบเดิน ไปจวบจนหมดวาระการดำรงตำแหน่ง ในขณะที่นักการเมืองอีกหลายคน เกิดอุบัติเหตุระหว่างทาง จะด้วยมีชนักติดหลัง คดีความใดๆก็ตามแต่ เหล่านั้นคือจุบจบทางตัน ส่งผลให้ไปต่อไม่ได้ … และมีอีกหลายต่อหลายคน ที่ถูก “เกมการเมือง” ลอบทำลาย ต้องตกอยู่ในภาวะ “จุกในอก” กลืนไม่เข้า คายไม่ออก จำยอมรับสภาพ ยกธงขาว ก้าวถอยหลัง ทว่าทุกเรื่องราวความจริงทั้งหมด จะยังฉายชัดอยู่ในใจตัวเองไปอีกนาน
ล่าสุดสปอร์ตไลท์ทุกดวงส่องไปที่ “นิพนธ์ บุญญามณี” อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่เพิ่งตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งไปหมาดๆ เหตุผลเพราะ ช่วงระยะเวลาหนึ่งที่ผ่านมา เขาได้เผชิญกับข้อกังขาถูกตราหน้าว่าไม่โปร่งใส แม้จะแสดงความบริสุทธิ์ใจโดยการงัดหลักฐานออกมายัน พร้อมอธิบายทุกเรื่องราวเป็นฉากๆ ตามข้อเท็จจริง ถึงสาเหตุที่ไม่สามารถอนุมัติจ่ายเงินให้แก่ผู้ชนะการประมูลในการจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทางฯ ของ อบจ.สงขลา ได้ เนื่องจากตรวจพบว่าผู้เข้าร่วมการประมูลและบริษัทคู่เทียบ ได้ทำการปลอมเอกสารและฮั้วประมูล เป็นเหตุให้ อบจ.สงขลา ได้รับความเสียหาย และอีกหลายปมประเด็น การตัดสินใจลาออกของ “นิพนธ์” ครั้งนี้ ประกาศชัดว่า “ไม่มีความประสงค์จะใช้ตำแหน่งรัฐมนตรี และเวลาราชการเพื่อต่อสู้คดีแต่อย่างใด”
• หัวกะทิ จบ ป.ตรี กฎหมาย – ป.โท รัฐศาสตร์
“นิพนธ์ บุญญามณี” ถือกำเนิดในครอบครัวชาวไทย เชื้อสายจีนฮกเกี้ยน บรรพบุรุษ อพยพมาจากอำเภอเจียวอัน จังหวัดเจียงจิว มณฑลฮกเกี้ยน ในวัยเด็ก “นิพนธ์” เข้าเรียนชั้นประถม ที่โรงเรียนถนนวิเชียรชม จังหวัดสงขลา ต่อมาเข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษา จากโรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา และจบ ระดับปริญญาตรี สาขานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง จบเนติบัณฑิตไทย (สำนักอบรมกฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา), ระดับปริญญาโท สาขารัฐประศาสนศาสตร์ จาก สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และ เศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง
•จากการเมืองท้องถิ่น สู่การเมืองระดับชาติ
ด้วยความที่ “นิพนธ์ บุญญามณี” เป็นคนฉลาด และมีบุคลิก ไหวพริบดี และชื่นชอบสนใจด้านการเมืองมาตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษากฎหมาย หลังเรียนจบจึง มีโอกาสได้ลงสนามเลือกตั้งท้องถิ่นที่จังหวัดสงขลาบ้านเกิด ประเดิมนั่งเก้าอี้ตำแหน่ง สมาชิกสภาจังหวัด 2 สมัย และยังได้ดำรงตำแหน่งเป็น ประธานสภาจังหวัดสงขลา
ในเวลาต่อมา ได้เข้าสู่งานการเมืองระดับชาติโดยการลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลา และได้รับเลือกตั้งครั้งแรกในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป มีนาคม พ.ศ. 2535 ในนามพรรคประชาธิปัตย์ และได้รับเลือกตั้งเรื่อยมารวม 5 สมัย และได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ/สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ 3 สมัย รวมทั้งสิ้นเป็น ส.ส. 8 สมัย
ผลงานพิสูจน์ฝีมือ การันตรี ด้วยความไว้วางใจของคนในจังหวัดสงขลา อย่างท่วมท้น ส่งผลให้ “นิพนธ์ บุญญามณี” ได้รับแต่งตั้งเป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในปี พ.ศ. 2537 และ เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม ในปี พ.ศ. 2541 ตามด้วยการดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี 2 ครั้งใน ปี พ.ศ. 2542 ประจำตัวพลตรี สนั่น ขจรประศาสน์ และ พ.ศ. 2543 ประจำตัวบัญญัติ บรรทัดฐาน
เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ได้มีการปรับโครงสร้างผู้บริหารพรรคใหม่ หลังการเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2548 แล้ว นิพนธ์มีชื่อว่าอาจจะได้รับเลือกเป็นเลขาธิการพรรคคนใหม่ แต่สุดท้าย นิพนธ์ ก็ได้ขอถอนตัวออกไป ตำแหน่งจึงตกอยู่ที่ สุเทพ เทือกสุบรรณ และ “นิพนธ์” ได้รับการแต่งตั้งเป็นรองเลขาธิการพรรค และรองหัวหน้าพรรค ในเวลาต่อมา
ย้อนกลับไป เมื่อเดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2556 “นิพนธ์” ได้ ลาออกจากการเป็น ส.ส. เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา (อบจ.สงขลา) จนกระทั่งเดือนมิถุนายน 2562 เขาได้ลาออกจากตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาเพื่อรับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ท้ายที่สุดได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย