ไม่รอด มติ DSI เรียก “ดีเจแมน-ใบเตย” รับทราบ 3 ข้อหา คดีแชร์ Forex-3D

ไม่รอด มติ DSI เรียก "ดีเจแมน-ใบเตย" รับทราบ 3 ข้อหา คดีแชร์ Forex-3D วันที่ 15 ก.ย. นี้

จากคดีแชร์ Forex-3D กรณีพนักงานสอบสวนตรวจพยานหลักฐาน ตามที่อัยการแนะให้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มกับผู้เกี่ยวข้องอีก 16 คน ล่าสุด วันนี้ (7 ก.ย.) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ได้ประชุมพนักงานสอบสวนที่ กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ชั้น 8 อาคาร บี ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ กรมสอบสวนคดีพิเศศ หรือ DSI เป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง

ร.ต.อ.วิษณุ เผยว่า ภายหลังจากที่ได้รับหนังสือจากพนักงานอัยการ ก็ได้มีการขออนุมัติจากอธิบดีเพื่อขอแยกคดีแชร์ Forex-3D เป็นคดีพิเศษ ได้มีการพิจารณาและรวบรวมพยานหลักฐาน จนกระทั่งมาวันนี้ได้มีการประชุมเพื่อสรุปและมีมติให้ออกหมายเรียกผู้ต้องหา 4 คน มาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 15 ก.ย.65 นี้ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา 3 ข้อหา ได้แก่ ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ฉ้อโกงประชาชน และ พ.ร.บ.คอมฯ

โดยในจำนวนนี้มีรายชื่อของ นักร้องลูกทุ่งสาว ใบเตย สุธีวัน และ ดีเจแมน พัฒนพล ส่วนผู้เกี่ยวข้องคนอื่นๆ หากพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงโดยมีน้ำหนักเพียงพอให้แจ้งข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนจะทยอยออกหมายเรียกต่อไป ซึ่งถ้าหากไม่มาตามหมายเรียก มีผลแน่นอน และถ้าออกหมายเรียกครบตามขั้นตอน แล้วยังไม่มา ก็จะพิจารณาออกหมายจับต่อไป

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ หากทั้ง 4 คน มั่นใจว่าสามารถตอบในสิ่งที่พนักงานสอบสวนตั้งประเด็นไว้ได้ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อตัวเขา ตนและคณะพนักงานสอบสวน พร้อมให้ความเป็นธรรม ส่วนรายอื่นอีก 12 คน อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานและจะมีการนัดประชุมอีกครั้งเพื่อพิจารณาออกมติเช่นเดียวกันกับในวันนี้ และจะมีการทยอยออกหมายเรียกอีก

ร.ต.อ.วิษณุ กล่าวถึงพยานหลักฐานของทั้งใบเตยและดีเจแมน ที่มีส่วนร่วม ที่เราสามารถมองได้ในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางการเงินที่ผิดปกติ ความสัมพันธ์ และการชักชวน จนนำไปสู่ความเชื่อมโยงการบริหารของบริษัทดังกล่าวนี้ โดยพฤติการณ์และความสัมพันธ์ของดีเจแมนและใบเตยต่อผู้บริหาร บริษัท Forex-3D ว่า ตามที่ปรากฏความสัมพันธ์ว่าทั้งคู่เคยไปรับประทานอาหารร่วมกัน ออกงานกิจกรรมต่างๆร่วมกัน ล้วนนำมาใช้พิจารณาได้ แต่ที่สำคัญคือเส้นทางการเงินที่เห็นชัดเจน โดยพบว่ามีเงินเข้าหลักหลายล้าน ไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท

ซึ่งทั้ง 4 คนนี้ ล้วนโดนข้อหาเดียวกัน แต่แค่โดนในลักษณะที่พฤติการณ์แตกต่างกัน เนื่องจากบางคนทำหน้าที่เป็นแม่ข่าย แม่ทีม บางคนรับหน้าที่เป็นผู้ร่วมลงทุน แต่การเป็นดารา เป็นผู้มีชื่อเสียงนั้น พฤติกรรมจะขยายวงกว้างได้มากกว่า เพราะถ้าเป็นดาราแล้วไปชักชวนให้เกิดการลงทุน ความเสียหายที่เกิดขึ้นก็จะมากตามไปด้วย

 

ส่วนอีก 2 คนนั้น ในสำนวนอัยการฯมองว่าทำหน้าที่เป็นแม่ทีม ทั้งนี้ ในฐานะคณะทำงานแล้ว ในบรรดาผู้กระทำความผิดทั้งหมดที่จะถูกออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาหลังจากนี้ ตนกับทีมก็มีหน้าที่ต้องตรวจสอบให้ชัดเจนว่าพฤติการณ์ใดคือเส้นแบ่งระหว่างแม่ทีมกับผู้เสียหาย เพื่อตอบข้อสงสัยกับสังคมให้ได้

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เมียไรเดอร์ เปิดใจเสียงสั่น กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังรู้ข่าว หนุ่มอินเดียซิ่งเก๋งได้ประกันตัว ลั่น ‘คนมีเงินมันยิ่งใหญ่’
นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception เชิญชวนสัมผัสเสน่ห์อาหารไทย ชูศักยภาพเศรษฐกิจ
จีนแห่ ‘โคมไฟปลา’ แหวกว่ายส่องสว่างในอันฮุย
"พิพัฒน์" ตรวจเยี่ยมเอกชน ต้นแบบอุตสาหกรรม ผลิตด้วยเทคโนฯ AI พร้อมเร่งนโยบาย up skill ฝีมือแรงงานไทย
ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น